ชำนาญฟ้องคืนกราวรูด สืบพงษ์อ่วมเจอพ่วง157


เพิ่มเพื่อน    

    “ชำนาญ” จัดหนักเอาคืนแล้ว ส่งทนายฟ้องกราวรูด 6 ข้อหาหมิ่นประมาท-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ “สืบพงษ์” รับคนเดียวผิดมาตรา 157 ชี้หากใช้อำนาจบาตรใหญ่จริงต้องโดนละเมิดอำนาจไปแล้ว รับมีส่วนได้เสียเพราะฟ้องเรื่องทรัพย์มรดกที่ภรรยาเอี่ยว เพราะมูลค่าสูง 2,000 ล้าน
    เมื่อวันอาทิตย์ นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา ในฐานะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ชั้นฎีกา ซึ่งผู้พิพากษา 1,735 คน เข้าชื่อเสนอถอดถอนออกจาก ก.ต. ด้วยข้อกล่าวหาส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย คุณธรรมและจริยธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวโทษนายสมชาติ ธัญญาวินิชกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, นายเกียรติพงศ์ อมาตยกุล ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 4, นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2, นายพงษ์ศักดิ์ ตระกูลศิลป์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์, นายพัลลอง มั่นดี  ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา และ น.ส.มณี สุขผล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในข้อหาหมิ่นประมาท, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 และร้องทุกข์กล่าวโทษนายสืบพงษ์ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 
    นายชำนาญกล่าวว่า ที่ต้องมาดำเนินคดีเพื่อต้องการปราบปรามการกระทำของผู้พิพากษากลุ่มหนึ่ง ที่ชอบแอบอ้างความถูกต้องเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่ตนในการทำอะไรไม่ถูกต้อง จึงต้องให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินว่าสิ่งที่พวกท่านทำนั้นถูกต้องหรือไม่  และเพื่อพิสูจน์ว่าการที่นายสืบพงษ์กล่าวหาใช้อิทธิพลข่มขู่แทรกแซงการพิจารณาคดีของผู้พิพากษาในวันที่ 2 ก.ค.2561 นั้น ไม่เป็นความจริงเลย เป็นเพียงการสร้างเรื่องปกปิดการกระทำของผู้พิพากษาในวันนัดสืบพยานจำเลยวันที่ 22 มิ.ย.2561 ที่ตนเองร้องเรียนว่าไม่บันทึกคำเบิกความจำเลยที่ตอบคำถามค้าน ซึ่งเป็นประเด็นและเกี่ยวเนื่องกับประเด็นแห่งคดี และบันทึกไม่ตรงกับที่จำเลยเบิกความ ทั้งยังบันทึกแบบอมความ และเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อปกปิดการกระทำของนายสืบพงษ์กับพวก ที่กระทำในวันที่ 3 ส.ค.2561 
    "ข้อกล่าวหาต่างๆ ของนายสืบพงษ์ เป็นไปไม่ได้ หากผมมีอำนาจเหนือผู้พิพากษาจริง โต้แย้งให้ผู้พิพากษาบันทึกได้ตามใจ ทนายโจทก์คงไม่ขอถอนตัวเฉพาะคดีนี้ หรือที่กล่าวหาว่าขอคุยกับหัวหน้าศาลนอกห้องพิจารณาก็เป็นไปไม่ได้ แต่ละเรื่องที่กล่าวหาร้ายแรงทั้งนั้น หากเกิดขึ้นจริงต้องลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลทันที หรืออย่างน้อยท่านต้องรายงานหัวหน้าศาล หัวหน้าศาลต้องรายงานอธิบดี และอธิบดีต้องรายงานประธานศาลฎีกาในทันทีว่ามีผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่แสดงอำนาจบาตรใหญ่ ไม่มีทางที่จะปล่อยไว้เป็น 10 วัน เพราะเป็นการหมิ่นเกียรติยศของผู้พิพากษาอย่างร้ายแรง" นายชำนาญกล่าว
    นายชำนาญยืนยันว่า ตลอดชีวิตราชการไม่กระทำเช่นนั้นเด็ดขาด ส่วนที่กล่าวหาว่าไม่ใช่คู่ความ แต่ไปแนะนำให้คำปรึกษานั้น นายสืบพงษ์กับพวกก็ทราบดีว่าคดีนี้เป็นคดีฟ้องยักยอกทรัพย์มรดกเพื่อเรียกคืนทรัพย์มรดกเข้าสู่กองมรดก โจทก์-จำเลย และภรรยาตนเองเป็นพี่น้องกัน จึงมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง คดีนี้มูลค่าทรัพย์ 2,000 ล้านบาท จึงให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และสมัยที่เป็น ก.ต.ชั้นศาลอุทธรณ์ ก็เคยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร้องเรียนเกี่ยวกับที่ศาลนี้เป็นคดีสำคัญที่ประธานศาลฎีกาหลายท่านรับรู้
    “มีผู้พิพากษาระดับสูงซึ่งเป็นผู้บริหารศาล นำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาของจำเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเผยแพร่ในกลุ่มไลน์ผู้พิพากษาโดยไม่เกรงกลัวต่อความผิดหรือความไม่สมควร ซึ่งหนังสือดังกล่าวเป็นของจำเลยในคดี แต่มาอยู่ที่ผู้พิพากษาและนำออกเผยแพร่ได้อย่างไร การกระทำแบบนี้คนเป็นผู้พิพากษาไม่ทำกัน” นายชำนาญระบุ 
    นายชำนาญกล่าวอีกว่า ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานแผนกคดีล้มละลายฯ และฐานะ ก.ต.ชั้นฎีกา เพราะกระบวนการที่กล่าวหายังไม่ได้สรุปข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติ ซึ่งในส่วนของการเสนอถอดถอนตนให้พ้นจาก ก.ต.นั้น กระบวนการอยู่ระหว่างการตรวจสอบความสมบูรณ์รายชื่อที่ยื่น ซึ่งจะครบกำหนดเวลาในวันที่ 17 ก.ย. โดยก็เตรียมทำคำชี้แจงภายใน 7 วันตามขั้นตอน ซึ่งข้อมูลที่เปิดเผยในวันนี้ และข้อมูลที่ได้แจ้งความ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำคำชี้แจงด้วย โดยรายละเอียดทั้งหมดจะอยู่ในคำชี้แจงที่ปิดไว้หน้าศาลทั่วประเทศเร็วๆ นี้. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"