พ่อค้าเดินหน้า เอาผิดตร.รีด


เพิ่มเพื่อน    

    พ่อค้าส้มตำเข้าชี้จุดเกิดเหตุ 7 ตำรวจยัดยาเรียกรับเงิน 5 หมื่น ยันเห็นชัดลูกชายนำเงินมามอบให้ดาบตำรวจ ก่อนที่สารวัตรจะเอามาคืนหลังตกเป็นข่าว ผวาภัยมืดหลังมีจดหมายขู่ ข้องใจประชาชนถูกกล่าวหาทำผิดจับติดคุกทันที แต่ทีคนในเครื่องแบบกลับแค่โยกหน้าที่ ผกก.เผยเตรียมส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ชี้มูลใน 30 วัน
    เมื่อวันที่ 17 กันยายนนี้ ที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (กก.สส.บก.น.1) พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.1 นำตัวนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าส้มตำปากซอยพระราม 6 พร้อม น.ส.สโรชา แน่นอุดร ลูกสาว ที่ระบุว่าถูกกลุ่มตำรวจสืบสวน บก.น.1 ยัดยาเสพติด เรียกรับเงิน 50,000 บาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี มาชี้จุดเกิดเหตุเรียกรับเงิน-จ่ายเงิน และจุดคืนเงินหลังจากเรื่องดังกล่าวปรากฏต่อสื่อ
    โดยจุดแรกที่ร้านอาหารตามสั่งข้างตึก กก.สส. ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำตัว น.ส.สโรชา ลูกสาวนายศักดิ์ชัย ไปนั่งรออยู่ในมุมมืด เวลาประมาณ 01.00 น. ก่อนที่นายศักดิ์ชัยจะตามมา โดยมีนายตำรวจ 1 คน คอยคุมเชิงอยู่ จึงขอรับตัวลูกสาวกลับก่อน เพราะยังไม่รู้ที่มาที่ไปของเรื่อง เมื่อถึงบ้านพัก ตำรวจชุดดังกล่าวได้ตามไป และนำตัวนายศักดิ์ชัยกลับมาที่ กก.สส.บก.น.1 โดยให้นั่งรอที่ทางประตูขึ้นชั้น 2 ซึ่งเป็นจุดที่ 2 และจุดดังกล่าวเป็นที่ต่อรองเรียกรับเงิน โดยตำรวจชุดดังกล่าวพยายามข่มขู่ อ้างมีหมายจับคดีกรรโชกทรัพย์อีก 1 คดี หลังจากนำบัตรประชาชนของนายศักดิ์ชัยไปตรวจสอบกับทะเบียนประวัติผู้ต้องหา พร้อมสอบถามมีเงินเท่าไหร่ นายศักดิ์ชัยตอบว่ามีอยู่ 50,000 บาท แต่ตำรวจชุดดังกล่าวบอกยังไม่รับปากจะช่วยได้หรือไม่ อ้างต้องไปรายงานนายก่อน สักพักหัวหน้าชุดจึงลงมาบอกว่าได้ ก่อนนำตัวนายศักดิ์ชัยขึ้นไปพูดคุยกันที่ห้องทำงานชั้น 2
    จุดที่ 3 คือจุดที่ลูกชายนายศักดิ์ชัยนำเงินจำนวน 50,000 บาท มามอบให้ดาบตำรวจนายหนึ่งที่หน้า กก.สส.บก.น.1 ซึ่งนายศักดิ์ชัยยืนดูอยู่บริเวณชั้น 2 เห็นพฤติการณ์ทั้งหมด และจุดที่ 4 ที่ สน.พญาไท หน้าห้องสืบสวน สารวัตรหัวหน้าชุด ได้นำเงินจำนวน 50,000 บาท มาคืนให้ หลังจากเรื่องดังกล่าวถูกนำเสนอผ่านสื่อ มีการต่อรองให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เคลียร์เพื่อให้เรื่องจบเลิกแล้วต่อกัน     
    ภายหลังการชี้จุด นายศักดิ์ชัยเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องดังกล่าวได้มีจดหมายมาข่มขู่ถึงที่บ้านเป็นซองสีฟ้า จ่าหน้าซองถึงตน ภายในเนื้อหาระบุ “เดี๋ยวตายเป็นหมาข้างถนน” ขณะนี้รู้สึกหวาดกลัว หวั่นมีคนปองร้าย ญาติๆ ก็บอกให้กลับไปที่ต่างจังหวัด กลัวจะเป็นเป้านิ่งเพราะมีเรื่องกับตำรวจ เรื่องทั้งหมดจะจบลงแล้ว มีการพูดคุยกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แต่กลับมีตำรวจชุดดังกล่าวไปข่มขู่จึงต้องเดินหน้าสู้คดีให้ถึงที่สุด ที่ไม่สบายใจตอนนี้ เมื่อตำรวจทำผิดทำไมไม่ให้ออกจากราชการ เพียงแต่โยกไปอยู่อีกจุดหนึ่ง แต่ประชาชนที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดกลับจับติดคุกทันที
    ด้าน พ.ต.อ.วิชัยกล่าวว่า จากนี้จะได้สอบปากคำนายศักดิ์ชัยเพิ่มเติม ในประเด็นที่พบว่ามีพลเรือนร่วมอยู่ด้วย ถ้าพบว่ามี ก็จะดำเนินคดีข้อหาสนับสนุน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหา หลังรวบรวมพยานหลักฐานจะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลภายในเวลา 30 วัน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"