ออร์แกนิกทำเงิน


เพิ่มเพื่อน    

      อาหารคือหนึ่งในปัจจัย 4 ที่ทุกคนจะต้องมีในการดำรงชีวิต และในทุกวันนี้อาหารก็มีหลากหลายประเภทให้ผู้บริโภคได้เลือกสรร ไม่ว่าจะมาจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุด หรือตามแหล่งที่มาจากชาวบ้าน ซึ่งปัจจุบันความต้องการของคนเรามีมากขึ้น การผลิตอาหารให้เพียงพอก็ต้องเพิ่มขึ้นเช่นกัน ในทุกๆ ประเภท รวมถึงการพัฒนาอาหารชนิดใหม่ๆ ขึ้นมาจากการค้นคว้าและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน

        แต่ในกลุ่มอาหารชนิดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น มีกลุ่มอาหารที่เรียกว่า “ออร์แกนิก” เกิดขึ้นมาด้วย ซึ่งปัจจุบันถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่อาหารอนาคต ที่หลายคนกำลังโหยหาความเป็นธรรมชาติกลับมา การไม่ปรุงแต่ง และรักษาความคงที่ของวัตถุดิบได้โดยไม่ผ่านเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ อาหารออร์แกนิกได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งหมายถึงอาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตจากทางเกษตรโดยที่ไร้หรือปลอดสารเคมีทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี รวมถึงวัตถุสังเคราะห์ต่างๆ  อีกทั้งยังรวมไปถึงไม่ทำการตัดต่อทางพันธุกรรมจากเมล็ดพันธุ์อีกด้วย

        อาหารออร์แกนิก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อาหารเกษตรอินทรีย์ หรืออาหารอินทรีย์ เริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในทั่วโลก เนื่องจากเทรนด์การรักสุขภาพเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกับชีวิตมนุษย์ จากความกลัวโรคภัยไข้เจ็บ และความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจของขั้นตอนการผลิตอาหารรูปแบบเดิมๆ จึงเกิดกระแสตอบรับที่ล้นหลาม โดยมีความต้องการเติบโตเฉลี่ยปีละ 13% และจากทั่วโลกก็มีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายมากสุดถึง 23,590 รายการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

        จากข้อมูลของสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ยุโรปเป็นตลาดใหญ่ที่สุดครองสัดส่วน 65% รองลงมาคือ อเมริกาเหนือ 16% เอเชียแปซิฟิก 13% ลkตินอเมริกา 4% แอฟริกาและตะวันออกกลาง 2% ส่วนจีนและญี่ปุ่นตลาดมีกำลังซื้อสูงเช่นกัน ขณะที่ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่ส่งออกอาหารติดอันดับโลก และมีวัตถุดิบรวมถึงกำลังการผลิตที่สามารถรองรับตลาดได้ จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะเข้าไปดึงส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารออร์แกนิก

        ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดอาหารอนาคต ในตลาดโลกพบว่าอาหารออร์แกนิกเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากที่สุด เนื่องจากมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว และมีจำนวนผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกสู่ตลาดมากที่สุดเมื่อเทียบกับอาหารอนาคตอีก 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ กลุ่มอาหารทางการแพทย์ และกลุ่มอาหารที่ผลิตขึ้นมาใหม่ทางนวัตกรรม เพราะตรงกับความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มที่ไม่อยากเสี่ยงกับสารเคมีตกค้างในวัตถุดิบและส่วนประกอบอาหาร

        ขณะที่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเสริมสุขภาพเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจากอาหารเกษตรอินทรีย์ โดยมีผลิตภัณฑ์ออกวางจำหน่ายจำนวน 17,396 รายการ เติบโตเฉลี่ย 4.3% ในช่วง 5 ปีหลัง ขณะที่อาหารทางการแพทย์มีผลิตภัณฑ์ใหม่น้อยว่า 1,000 รายการ ส่วนกลุ่มอาหารที่ผลิตขึ้นมาใหม่ทางนวัตกรรมมีน้อยกว่า 500 รายการ

        นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร  ได้เห็นช่องทางดังกล่าวถึงเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ให้ตอบรับตลาดต่างประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูง และให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัย จนเกิดกระแสการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพขยายไปในวงกว้าง

        โดยจากข้อมูลพบว่าในปี 2560 ตลาดอาหารออร์แกนิกในจีนมีมูลค่ารวม 19,359 ล้านหยวน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาขยายตัวเฉลี่ยสูงถึง 25.7% ต่อปี นมและผลิตภัณฑ์นม เป็นสินค้าที่มีมูลค่าการขายมากที่สุดราว 14,000 ล้านหยวน ซึ่งล้วนนำเข้าจากต่างประเทศ โดยสินค้าอาหารออร์แกนิกที่ไทยมีโอกาสขยายสู่ตลาดจีน อาทิ ข้าวสารบรรจุถุง เครื่องดื่มธัญพืช เช่น น้ำนมข้าว นมถั่วเหลือง น้ำฟักทอง น้ำงาดำ เครื่องปรุงรส เช่น ซอสถั่วเหลือง และน้ำมันมะพร้าว

        อาหารออร์แกนิก จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ผู้ประกอบการผลิตวัตถุดิบต้องเร่งมือพัฒนา และสร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเอง เพื่อที่จะเข้าไปทำตลาดในระดับสากลให้มากขึ้น สร้างรายได้จากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเทรนด์รักสุขภาพจากอาหารออร์แกนิกนี้คงจะอยู่ในชีวิตประจำวันมนุษย์ไปอีกนาน หากผู้ประกอบการไทยสามารถตีตลาดได้ ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะนำเสนอกลุ่มอาหารอื่นๆ ให้กับตลาดได้เช่นกัน.

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"