คืนภาษีนักท่องเที่ยว


เพิ่มเพื่อน    

      สำหรับคนที่เคยเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งเป็นเหมือนตัวกระตุ้นการช็อปปิ้ง ก็คือการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Refund) ณ จุดขายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้เป็นอะไรที่ว้าวมากสำหรับนักช็อป

        เนื่องจากว่าปัจจุบันอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ญี่ปุ่นนั้นอยู่ในอัตรา 10% แต่สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจะได้รับสิทธิ์การเว้นภาษีดังกล่าว นั้นก็หมายความว่านักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าตั้งแต่ 5,000 เยนขึ้นไป จะได้รับสิทธิ์ซื้อสินค้าในราคาที่ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม เปรียบเปรยก็เหมือนอยู่ดีๆ ก็ได้กำไรส่วนลดถึง 10% โดยอัตโนมัติ เพียงแค่มีพาสปอร์ต ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าได้ใช้เงินช็อปปิ้งอย่างคุ้มค่า

        และด้วยประสบการณ์ช็อปปิ้งที่ได้รับจากญี่ปุ่นนี่เอง ทำให้กลับมาตั้งคำถามว่า ประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับต้นของโลก และที่ผ่านมาเราก็พยายามโปรโมตให้เป็นสวรรค์ของนักช็อป แต่ทำไมระบบการคืนภาษีที่จุดขายในประเทศไทยของเรายังไม่มี 

        หากดูข้อมูลที่กรมสรรพากรให้รายละเอียดเอาไว้ในเว็บไซต์ ระบุว่า นักท่องเที่ยวสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 3 ช่องทางหลัก อันดับแรก คือ ขอรับคืนที่สนามบินนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 10 แห่ง ประกอบไปด้วยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานหาดใหญ่, ท่าอากาศยานอู่ตะเภา, ท่าอากาศยานกระบี่, ท่าอากาศยานสมุย, ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย

        และวิธีขอคืนที่สองก็คือ ใส่ในตู้รับคำร้อง ณ สำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานนานาชาติทุกแห่ง และส่งให้กรมสรรพากรทางไปรษณีย์ ซึ่งการจะขอคืนก็ต้องดูว่ามีการกรอกแบบ ภ.พ.10 แต่ละฉบับมียอดซื้อ 2,000 บาทขึ้นไป (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)

        เรียกได้ว่าแม้มีการคืนเงิน แต่ด้วยขั้นตอนและวิธีการที่ยุ่งยาก ก็เชื่อว่าคนที่มาขอคืนภาษีคงมีไม่มากนัก หากเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา 

        แม้ในอดีตฝ่ายรัฐบาลอาจจะมองว่า เรื่องนี้ไม่มีความสำคัญ แต่จากโมเดลที่ทางญี่ปุ่นทำ ก็เห็นชัดว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้มีการเงินสะพัดในการช็อปปิ้งมหาศาล และที่สิ่งที่เสียไปก็ได้กลับมาจากเงินตราต่างประเทศมหาศาล

        ล่าสุดก็มีข่าวดีเล็กๆ เมื่อรัฐบาลไฟเขียวให้กระทรวงการคลังทดลองเปิดรับสมัครตัวแทนการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีแวต) ให้แก่นักท่องเที่ยวในเมือง ซึ่งได้เริ่มเปิดให้เอกชนที่สนใจ สมัครระหว่างวันที่ 7-17 ก.ย.ที่ผ่านมา

        โดยทางกรมสรรพากรระบุว่า นี่เป็นเพียงช่วงทดลอง โดยผู้ที่ได้รับการอนุมัติครั้งนี้สามารถให้บริการเป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่นักท่องเที่ยวเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 ถึง 31 มี.ค.2562 เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการทดลอง กรมสรรพากรจะได้ประเมินผลนำเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาต่อไป

        ซึ่งคุณสมบัติของผู้สมัคร ก็คือ เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วตั้งแต่ 25 ล้านบาทขึ้นไป เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีแวต และไม่เคยมีประวัติเป็นผู้ออกหรือใช้ใบกำกับภาษีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีพื้นที่ในการให้บริการเป็นตัวแทนคืนภาษีแวตให้กับนักท่องเที่ยว และมีเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ รวมถึงระบบงานพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ในการให้บริการเป็นตัวแทนคืนภาษีแวตให้แก่นักท่องเที่ยวได้ นอกจากนี้ต้องมีระบบเชื่อมต่อการคืนภาษีแวตให้แก่ผู้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรกับเครื่องอ่านหนังสือเดินทาง และสามารถส่งข้อมูลการคืนภาษีแวตให้แก่ผู้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรให้กับกรมสรรพากรได้ในทันที

        และตอนนี้ก็มีกระแสข่าวโผล่ออกมาตามสื่อระบุว่า ผู้ประกอบการกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่ 4 ราย คือ กลุ่มเซ็นทรัล, กลุ่มเดอะมอลล์, สยามพิวรรธน์ และโรบินสัน ได้จับมือและร่วมทุนตั้งบริษัท ภายใต้ชื่อ “แวตรีฟันด์ ไทยแลนด์” เพื่อเข้าไปสมัครเป็นตัวแทนในการเปิดจุดคืนภาษีนักท่องเที่ยวในพื้นที่กลางเมืองในครั้งนี้ โดยผู้ประกอบการจะเป็นผู้ลงทุนในการตั้งเคาน์เตอร์จุดให้บริการและวางระบบข้อมูลเชื่อมกับทางสรรพากรในรูปแบบเรียลไทม์ และจะมีการนำร่อง 5 ทำเลใจกลางเมืองที่จะเลือกตั้งศูนย์ให้บริการคืนเงินภาษีนักท่องเที่ยว คือ สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลชิดลม, เอ็มโพเรียม และโรบินสัน อโศก

        คงต้องติดตามว่า การทดลองวิธีการคืนภาษีในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความคึกคักให้กับวงการช็อปปิ้งอย่างไรบ้าง.

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"