พท.โวย‘เพื่อนไทย’ อัดกกต.จดทะเบียนพรรคแดง‘มาชิน’ปูดดูดส.ส.เหนือ50ล้าน


เพิ่มเพื่อน    

  เพื่อไทยโวยลั่น กกต.รับจดทะเบียนพรรค "เพื่อนไทย" ของเสื้อแดงสกลนคร "ภูมิธรรม" อ้างคล้ายมาก ทำให้ประชาชนอาจคิดว่าเป็นพรรคเดียวกัน "นคร มาชิน" เตรียมซบพรรคนายใหญ่ ปูดภาคเหนือดูด ส.ส.เกรดเอหัวละ 50 ล้าน เปิดอุดมการณ์ 9 ข้อ พท. ยึดมั่น ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้านเผด็จการทุกรูปแบบ ไม่โกงทุกชนิด ขณะที่พลังประชารัฐโคราชแข็งโป๊ก

    เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ทราบมาว่า กกต.ได้รับจดทะเบียนพรรคเพื่อนไทย ไม่ทราบว่า กกต.รับจดทะเบียนชื่อพรรคนี้ได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าพรรคนี้ ตั้งใจใช้คำคล้ายกันกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ประชาชนคิดว่าเป็นพรรคเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยจนลงคะแนนให้ อีกทั้งโลโก้พรรคก็คล้ายกัน ต่างกันแค่คนละสี เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ในสัปดาห์หน้าจะให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคทำหนังสือร้องเรียนไปยัง กกต.เพื่อสอบถามรายละเอียดเรื่องนี้
         นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ กกต.รับจดทะเบียนพรรคเพื่อนไทย มีเหตุผลอะไร เพราะอาจทำให้ประชาชนที่ตั้งใจมาลงคะแนนให้ พรรคเพื่อไทยสับสนได้ ทาง กกต.ต้องออกมาชี้แจงให้กระจ่างด้วย 
        สำหรับพรรคเพื่อนไทย ได้จดชื่อพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 107/2561 เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.61 โดยมีนายสิระ พิมพ์กลาง อดีตแกนนำคนเสื้อแดงสกลนคร ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อนไทย เป็นผู้แจ้งจดตั้งชื่อพรรค
    นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก กล่าวถึง กระแสข่าวรณรงค์ทำบัตรเสีย โหวตโนจากฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลว่า เรื่องนี้สะท้อนว่า คสช.กำลังอยู่ในสภาวะขาลอย คะแนนนิยมย่ำแย่ ตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ไม่ได้รับการตอบรับจากประชาชน ทั้งที่ปกครองประเทศด้วยระบบเผด็จการมาแล้ว 5 ปี จัดการเศรษฐกิจของภาครัฐและเอกชนล้มเหลว ภาคการเกษตรพืชผลของพี่น้องเกษตรกรก็ราคาตกต่ำ วิกฤติเศรษฐกิจที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่หนักเสียยิ่งกว่าปี 2540 อีก 
    เขากล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนกว่า 90% รอคอยการเลือกตั้ง ทำให้เครือข่ายลิ่วล้อ คสช.หวาดหวั่นต่อการพังทลายของระบอบ คสช. ที่ปล้นอำนาจมาจากประชาชน เพราะเมื่อวันเลือกตั้งมาถึง ก็จะเปรียบเสมือนลานประหารระบบเผด็จการ จึงเต้าข่าวกระแสปลุกระดมบัตรเสีย โหวตโน เรื่อยไปถึงโนโหวต สวนทางความต้องการของประชาชน หวังใช้เป็นเหตุอ้างเพื่อขยายเวลาเลือกตั้งให้พวกตนเองอยู่ในอำนาจแสวงหาลาภยศและทรัพย์สินต่อไป 
ดูดเกรดเอหัวละ 50 ล้าน
    นายนครอ้างว่า ทั้งหมดนี้เกิดจากความกลัวของบรรดาลิ่วล้อบริวาร คสช. 3 ข้อคือ 1.กลัวไม่ได้อยู่อำนาจต่อไป 2.กลัวถูกยึดทรัพย์สินเงินทอง ที่ได้มาจากการทุจริตอันเบ่งบาน และ 3.กลัวไร้แผ่นดินอยู่ หากฝ่ายประชาธิปไตยชนะกาลเลือกตั้ง
    นายนครกล่าวถึงอนาคตทางการเมืองว่า จะเดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หลังจากวันที่ 25 กันยายนนี้ ภายหลังจากพรรคเพื่อไทยดำเนินการทางธุรกรรมทางธุรการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนพลังดูด ส.ส.ที่เริ่มเคลื่อนไหวในภาคเหนือก็แรงดูดสูง ค่าตัวเพิ่ม ตั้งแต่ 10-50 ล้านบาท แล้วแต่เกรดอดีต ส.ส. 
    "ผมก็โดนดูดเช่นกัน มีข้อเสนอให้ตั้งเงื่อนไขพิเศษได้ด้วย แต่ก็ยืนยันเช่นเดิมว่าไม่ย้าย ขอสู้ด้วยอุดมการณ์ทางการเมือง ให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง" นายนครกล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างเชิญชวนสมาชิกพรรคร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับพรรค คำประกาศอุดมการณ์ เจตนารมณ์ทางการเมืองและนโยบายของพรรค ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของพรรค ก่อนนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ต่อไป
    ทั้งนี้ พบว่าคำประกาศอุดมการณ์นั้นมีทั้งหมด 9 ข้อ ประกอบด้วย
    1.ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
    2.ยึดถือว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย มุ่งมั่นในการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ
    3.ยึดมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืนระบบเศรษฐกิจแบบเสรีเป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ ขจัดการผูกขาด สร้างความรุ่งเรือง และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพิ่มพูนความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
    4.ขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาค และความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจการเมือง สังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
    5.มุ่งพัฒนาพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง
    6.มุ่งมั่น สร้างระบบการเมืองของประเทศให้เป็นการเมืองของประชาชน เป็นรัฐประชาชน มิใช่รัฐราชการ สร้างเสริมให้ประชาชนชาวไทยมีความรู้ความเข้าใจในการอยู่ร่วมกันบนอุดมการณ์และวัฒนธรรมประชาธิปไตย
    7.ยึดมั่นในการดำเนินการทางการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีธรรมาภิบาล ป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ
    8.มุ่งสร้างความสามัคคีปรองดอง เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ ความเสมอ
ภาคของบุคคล ยึดมั่นในสันติวิธี หลักสิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรม
    9.สร้างประเทศไทยให้มีบทบาทโดดเด่นและสร้างสรรค์ในเวทีโลก เคารพกฎหมายและพันธกรณีระหว่างประเทศ สร้างสันติภาพ ความเข้าใจความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน โดยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติศาสนา
ปชป.สุโขทัยไม่ย้าย
    นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรที่เข้าทาบทามนักการเมืองในพื้นที่ภาคเหนือว่า สำหรับจังหวัดสุโขทัย อดีต ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครย้ายพรรค เพราะในสุโขทัยทุกคนรู้ว่าต้นทุนพรรคสูง เพราะหากอยู่กับประชาธิปัตย์ต่อไปมีโอกาสได้รับเลือกสูง เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ไม่เอาทหาร เพราะไม่ว่าจะทำอะไรถูกล็อกไว้หมด แม้แต่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ที่ล่าสุดจัดงานวันเกิดให้ภรรยา โดยมีการเชิญประชาชนและผู้นำไปร่วมงาน ก็เป็นการสร้างภาพไม่มีอะไร เพราะชาวสุโขทัยเขาด่าเละทั้งนั้น นอกจากจะโกงเลือกตั้งถึงจะชนะ 
    นายสัมพันธ์กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรส่วนใหญ่เข้าไปชักชวนผู้สมัครในพื้นที่ภาคเหนือ ล่าสุด กลุ่มสามมิตรมีตารางว่าจะไปจังหวัดใดบ้าง เช่น น่าน พะเยา สุโขทัย พิจิตร เป็นต้น โดยเฉพาะในจังหวัดพิจิตร ที่มีการชักชวนมือขวาของนายอัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ดูแลภาคเหนือ ซึ่งเป็นบุคคลที่พรรควางตัวให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดพิจิตรไว้แล้ว แต่เมื่อนายสมศักดิ์ทราบเรื่องก็ได้โทรศัพท์ไปขอโทษนายอัศวินว่าเข้าไปในพื้นที่โดยไม่ได้ขออนุญาต และก็ได้เลิกชักชวนคนสนิทของนายอัศวิน
    นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขานุการกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า วันนี้กลุ่มสามมิตรยังไม่ตกผลึกว่าจะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ เพราะติดเงื่อนไขผู้สมัครทับซ้อน เพราะมีอดีต ส.ส.และนักการเมืองหน้าใหม่ประสงค์จะเข้าร่วมทำงานกับกลุ่มสามมิตรในแต่ละเขตเลือกตั้งมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานอย่างน้อยเขตละ 5 คน 
    นอกจากนี้ยังมีเรื่องสำคัญที่กลุ่มสามมิตรได้ทำมาตลอด คือการไปรับฟังปัญหาของประชาชนทั่วประเทศทุกกลุ่มทุกอาชีพ แล้วนำมาสรุปเป็นข้อมูลกำหนดเป็นนโยบายแก้ไขปัญหา ซึ่งจะต้องถูกบรรจุเป็นแผนแม่บทที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน อาทิ ปัญหาเรื่องที่ทำกิน ที่ดิน ส.ป.ก. จะต้องเปลี่ยนเป็นโฉนด การแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรต้องครอบคลุมทุกชนิด นโยบายลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เช่น ลูกหลานคนจนต้องได้เรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรี เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือข้อเสนอที่สำคัญของกลุ่มสามมิตรที่พรรคพลังประชารัฐจะต้องพิจารณาและกำหนดเป็นนโยบายและแผนแม่บทของพรรค หากยอมรับได้ กลุ่มสามมิตรจะพิจารณาในการเข้าสังกัด
    ขณะที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่วัดบ้านกุดจอกใหญ่ ตำบลละลมใหม่พัฒนา อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ ของประชาชน โดยนายบุญจงยืนยันว่า ขณะนี้ตนเองมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมที่จะเดินหน้าทางการเมืองแล้ว และได้ตัดสินใจที่จะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
พลังประชารัฐโคราช
         มีรายงานว่า ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐได้วางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 14 เขตใน จ.นครราชสีมา ดังนี้ เขต 1  นายทอง วิริยะจารุ ที่ปรึกษาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมาและอดีต ผอ.รร.อนุบาลนครราชสีมา, เขต 2 ยังไม่พิจารณา, เขต 3 ร.ต.อ.สุปชัย อินทรักษา (นายกหลี) อดีตนายกเทศมนตรีตำบลปรุใหญ่ อ.เมืองนครราชสีมา และอดีตรองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา, เขต 4 นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภริยานายวิรัช รัตนเศรษฐ 
    เขต 5 นางอรทัย พลวิเศษ ภริยานายภิรมย์ เลขาฯ กลุ่มสามมิตร, เขต 6 นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา, เขต 7 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย บุตรชายนายวิรัช อดีต รมช.เกษตรฯ, เขต 8 นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ บุตรชายนายวิรัช, เขต 9 นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยแถลง น้องสาวนางทัศนียา รัตนเศรษฐ, เขต 10 นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทยและอดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย, เขต 11 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำ นปช.และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย, เขต 12 นายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา, เขต 13 ยังไม่พิจารณา และเขต 14 นายพจน์ เจริญสันเทียะ อดีต ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 5 (ด่านขุนทด)
    ทั้งนี้ ช่วงเย็นวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้ไปร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพมารดาของนายธีระชัย แสนแก้ว อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่วัดป่าไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ได้พบกับนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" ที่เดินทางมาร่วมงานด้วย โดยนายสุภรณ์ได้เดินเข้าไปกราบนายอนุทิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องให้ กกต.ยุบพรรคภูมิใจไทย ปมเก็บบัตรประชาชนที่ จ.นครราชสีมา เมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
    วันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ผู้ก่อตั้งพรรคเสรีรวมไทย ว่าที่หัวหน้าพรรค เดินทางไปเปิดที่ทำการสาขาพรรคเสรีรวมไทย บริเวณริมถนนเลียบทางรถไฟ ใกล้กับคลังน้ำมัน ปตท. ฝั่งตรงข้ามหลังโรงพยาบาลพุทธชินราช ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก และจัดประชุมย่อยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคเสรีรวมไทย พื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด จำนวนกว่า 30 คน นำโดยนายพิทักษ์ สันติวงศ์สกุล อดีต ส.ส.พิษณุโลก ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสาขาพรรคเสรีรวมไทย ภาคเหนือ และคณะที่ปรึกษาพรรคสาขาภาคเหนือ ประกอบด้วย นายภุชง โพธิกุฏสัย, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพ็ชรบุรีกุล, พล.ต.ต.อดิศร อินสด, นายสุรินทร์ ฐิติปุญญา และ นพ.ประสิทธิ์ พิทูรกิจจา
    พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นตามประกาศของรัฐบาลปัจจุบัน โดยในการประชุมครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนรับฟังแต่อย่างใด โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง 
แก้ปัญหาคนจนอันดับแรก
    จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ คสช.มีคำสั่งที่ 13 เมื่อ 14 ก.ย.2561 ให้พรรคการเมืองประกอบกิจกรรมได้ เช่น เปิดประชุมใหญ่ได้ รับสมัครสมาชิกได้ ยกเว้นการหาเสียง ตนซึ่งอยู่นอกพรรค ได้เริ่มส่งใบสมัครกลับมาเป็นสมาชิกพรรคเสรีรวมไทยอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา และทางพรรคตั้งสาขาพรรคไว้แล้ว 4 สาขา ภาคเหนือที่พิษณุโลก,  ภาคกลางที่นครปฐม, ภาคอีสานที่นครราชสีมา และภาคใต้ที่สุราษฎร์ธานี จึงถือโอกาสมาเยี่ยมประธานสาขาพรรคภาคเหนือที่ จ.พิษณุโลก มีนายพิทักษ์เป็นประธานสาขาภาคเหนือ จะเยี่ยมเยียนไปเรื่อยๆ แต่เราจะไม่หาเสียง 
    เขากล่าวว่า ตัวบุคคลผู้สมัคร ส.ส.นั้น ยังไม่ได้มีการประชุมอย่างเป็นทางการ วันนี้มาแค่เยี่ยมสาขาพรรคตรวจความพร้อม เท่าที่ทราบ พรรคเราตั้งใหม่ ยังไม่เคยส่งผู้แทนลงสมัคร ในอดีตเคยจะส่งลง ส.ส.แล้ว แต่มีการปั่นป่วนการเลือกตั้ง จึงไม่ได้ส่ง ส.ส.ลงสมัคร 
    "ตอนนั้นผมยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เมื่อมีเหตุการณ์ยึดอำนาจอีก ก็ยังไม่ได้ส่ง ส.ส. ช่วงนั้นผมก็เลยลาออกจากพรรคเลย มาตอนนี้เมื่อคลายล็อก ผมก็กลับมาเป็นสมาชิกพรรคอีก"
      พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า แนวนโยบายนั้น ความยากจนมาอันดับแรก หยุดความยากจน หยุดผู้มีอิทธิพลและยาเสพติด หยุดการคอร์รัปชัน หยุดเผด็จการ หยุดไฟใต้ และหยุดแยกสีเสื้อ 
    ถามว่ามีกลุ่มผู้สนับสนุนเป็นตำรวจเก่าหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ส่วนใหญ่ก็เป็นประชาชนทั่วไปที่เขารู้จักตนตั้งแต่ตอนรับราชการตำรวจ กระทั่งเกษียณจนถึงปัจจุบัน ส่วนจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ต้องรอพรรคประชุมใหญ่ก่อนในเดือนตุลาคมนี้ และก็อยู่ที่พรรคว่าจะเลือกหรือไม่ 
    "ผมคงไม่เหนื่อยเหมือนคุณอภิสิทธิ์หรอก แต่พรรคเราก็เป็นประชาธิปไตยนะ ขึ้นอยู่กับการประชุมใหญ่ของพรรคว่าจะเลือกผมมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่"
    พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า กระแสของตนก็ฟีเวอร์พอสมควร ที่ตนแสดงความเห็นต่างๆ มาตลอด ไม่ได้เกรงกลัวเผด็จการอะไรทั้งสิ้น กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ 
    "ตั้งแต่นุ่งขาสั้นกันมา โรงเรียนต่างๆ เขาก็สอนมาดี เราต้องเป็นสุภาพบุรุษ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบตำรวจ ทหาร ต้องเป็นสุภาพบุรุษ รักษากฎกติกาไม่ให้มีการเอาเปรียบกัน” ว่าที่หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าว
    นายชวน ชูจันทร์ ผู้จดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงการประชุมพรรคเพื่อที่จะมีการเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ตามที่กฎหมายกำหนด ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น. ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ เมืองทองธานี ว่าตอนนี้จะยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อว่ามีใครบ้าง ขอให้ไปรอดูวันดังกล่าว และหลังการประชุมทางพรรคก็จะเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นจดทะเบียนพรรคเรื่องต่อ กกต. ภายในวันที่ 1-3 ต.ค.นี้ต่อไป
       เขากล่าวว่า พรรค พปชร.เปิดกว้างยินดีต้อนรับทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน จนถึงตอนนี้ยอมรับว่าพรรคเราได้รับความสนใจมาก แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ขอให้ไปรอดูในการประชุมวันที่ 29 ก.ย.นี้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็เป็นไปตามข่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"