รถตู้เกิน10ปีต้องหยุดวิ่ง


เพิ่มเพื่อน    

      หลังจากที่มีกระแสข่าวครึกโครมกรณีรถตู้โดยสารปรับอากาศร่วมบริการสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะหยุดให้บริการ 1,800 คัน ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากรถตู้ดังกล่าวมีอายุเกิน 10 ปีตามข้อกำหนดความปลอดภัยของกรมขนส่งทางบก ส่งผลให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการเกิดความตระหนกตกใจหากไม่มีรถให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้

        เรื่องนี้ร้อนถึงกรมขนส่งทางบก ที่ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วน นำโดยนายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้เรียกประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพื่อเตรียมการจากกรณีชมรมรถตู้โดยสารปรับอากาศร่วมบริการสาธารณะเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลประกาศหยุดวิ่ง จากกรณีกรมขนส่งทางบกไม่อนุมัติขยายเวลาอายุใช้งานรถตู้ ต้องหยุดวิ่งให้บริการ

        สำหรับประชาชนที่กังวลว่าจะมีรถตู้วิ่งให้บริการหรือไม่นั้น ที่ประชุมเตรียมการรองรับด้วยการนำรถเมล์ ขสมก.มาให้บริการ และยืนยันประชาชนผู้ใช้บริการเส้นทางเดิมจะไม่ได้รับความเดือดร้อน เพราะเตรียมนำมินิบัส 2-3 คันต่อรถตู้ 1 คัน มาวิ่งให้บริการทดแทน โดยเฉพาะช่วงเวลาคับคั่งเช้าและเย็น วิ่งให้บริการตามเส้นทางเดิมของรถตู้ 

        ส่วนผู้ประกอบการรถตู้ที่ยังดันทุรัง หากยังนำรถประกอบการขนส่งที่ครบกำหนดมาวิ่งให้บริการ โทษปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท จำคุก 2-5 ปี ซึ้งขณะนี้ได้ส่งนายตรวจลงพื้นที่ทุกเส้นทาง ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมผู้ประกอบการไม่เปลี่ยนรถตู้นั้น กรมขนส่งฯ ยอมรับว่าเจ้าของรถตู้ส่วนใหญ่ไม่อยากลงทุนเพิ่ม เพราะเกรงว่าเมื่อรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ สร้างเสร็จจะทับเส้นทางกับรถตู้หลายเส้นทาง

        อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมขนส่งฯ ได้ทำการศึกษาปรับเส้นทางวิ่งให้บริการใหม่ทั้งหมดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงกลางปีหน้า 2 เส้นทาง และในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่รถตู้ทยอยครบกำหนดอายุ 10 ปี ขณะนี้รถตู้หมวด 1 วิ่งให้บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หมดอายุการใช้งาน 10 ปี ตามข้อกำหนด 954 คัน รถตู้ร่วมบริการในต่างจังหวัดของ บขส.หมดอายุปี 2560, 2561 จำนวน 404 คัน

        ขณะนี้รถตู้ ขสมก.วิ่งให้บริการจากจุดอนุสาวรีย์ฯ วิ่งออกไป 11 เส้นทาง หมดอายุ 10 ปี จำนวน 260 คัน รถตู้ในจุดจอดมีนบุรี 7 เส้นทาง ครบกำหนด 191 คัน และบริเวณจตุจักร 1 เส้นทาง ครบกำหนด 1 คัน รังสิตครบกำหนด 28 คัน รถตู้คันสุดท้ายที่ครบกำหนดจะออกจากระบบปี 2571 

        ด้าน พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน เสนาธิการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ที่ได้ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้  กล่าวว่า สาเหตุของการไม่อนุญาตให้นำรถตู้ครบกำหนด 10 ปี ออกมาวิ่งให้บริการ เพราะสภาพรถอายุเกิน 10 ปี เสี่ยงอันตราย จึงไม่ควรนำออกวิ่งให้บริการ บริษัทประกันไม่รับทำประกันรถอายุเกิน 10 ปี จึงเสี่ยงต่อเรื่องการคุ้มครอง และยังสร้างมลภาวะกับสิ่งแวดล้อม โดยขณะนี้มีรถตู้บางส่วนตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้รถมินิบัส เตรียมเริ่มวิ่งให้บริการ 1 ตุลาคมนี้

        ขณะนี้รถร่วมบริการของ บขส.ในต่างจังหวัดเริ่มให้บริการ 30 กันยายน 2562 และเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการใหม่ที่ต้องการจัดรถมินิบัสมาวิ่งบริการเตรียมการวางระบบจราจรเชื่อมโยงทั้งระบบราง ทางเรือ ทางบกให้เชื่อมโยงกันทั้งหมด

        สำหรับรถตู้โดยสารประจำทางทั่วประเทศ ณ 30 กันยายน 2560 มี 16,694 คัน พบว่าทยอยครบอายุการใช้งานตั้งแต่ปี 2559-2570 และเฉพาะปี 2561 มีรถตู้โดยสารครบอายุการใช้งานแบ่งเป็นหมวด 1 จำนวน 954 คัน และหมวด 2 จำนวน 379 คันเท่านั้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเริ่มนำรถโดยสารขนาดเล็กมาให้บริการทดแทนรถตู้โดยสารหมวด 2 และหมวด 3 ที่ครบอายุการใช้งานแล้ว 70 คัน เป็นเส้นทาง หมวด 2 จำนวน 28 คัน และหมวด 3 จำนวน 42 คัน

      ก็ได้รู้แล้วว่าเพราะเหตุใดจึงต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์เรื่องของการใช้งานรถตู้ที่มีอายุครบ 10 ปีเมื่อรู้แล้วผู้ใช้บริการก็คงจะเข้าใจ ว่ามาตรการดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้บริการ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะไม่มีรถโดยสารมาให้บริการในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากกรมขนส่งฯ ได้ประสานผู้ประกอบการนำรถโดยสารมาให้บริการในเส้นทางดังกล่าวแล้ว.

กัลยา ยืนยง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"