'จตุพร'ยุงัดม.44ปลดล็อกให้ครม.บิ๊กตู่ลาออกลงเลือกตั้ง ย้อนรอยใช้'อานันท์โมเดล'


เพิ่มเพื่อน    

27 ก.ย.61- นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊คไลฟ์ หัวข้อ “วิบากกรรมประเทศไทย ย้อนรอยพฤษภา 35” โดยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตาม ม.44 เพื่อปลดล็อกคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันมีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อป้องกันเสียงครหาใช้อำนาจรัฐบาลเอาเปรียบพรรคการเมือง

นายจตุพร ระบุว่า สถานการณ์การเมืองที่เกี่ยวข้องกับอำนาจการเลือกตั้ง ซึ่ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กตต.) บอกจะมีเลือกตั้ง 24 ก.พ. 62 นั้น ทั้งฝ่ายการเมือง พรรคการเมือง และผู้มีอำนาจขยับตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ และไม่ให้กงล้อประวัติศาสตร์พฤษภา 2535 ได้ย้อนรอยประเทศไทย

ทั้งนี้ เนื่องจากการตั้งพรรคการเมืองของคณะรัฐประหาร ไม่เคยมีครั้งแรกในยุคนี้ ก่อนหน้านั้น ยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม, จอมพลถนอม กิตติขจร และมียุคคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ปี 2534 จนถึงยุคปัจจุบัน โดยแต่ละยุคล้วนมีจุดจบไม่สวยงามแม้แต่รายเดียว

ในทางการเมืองและการเลือกตั้ง ยิ่งใช้อำนาจรัฐมากเท่าไร คนจะยิ่งต่อต้านเงียบๆ แล้วไปสำแดงออกในวันเลือกตั้งมากเท่านั้น ตนเคยเห็นรัฐบาลแม้มาจากการเลือกตั้ง ถ้าใช้อำนาจมากเท่าใด ไม่เคยเห็นรัฐบาลรักษาการชุดใดชนะการเลือกตั้งได้เลย

ในวันนี้เพื่อคลายความกังวล ถามว่า เลือกตั้ง 2535/2 ซึ่งผ่านการบาดเจ็บล้มตายในช่วง 2535/1 คนที่มาทำหน้าที่เป็นกรรมการ ดูแลการเลือกตั้งที่เที่ยงธรรมมากที่สุด คือ นายอานันท์ ปันยารชุน เมื่อมารับตำแหน่งนายกฯก็ประกาศยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน แล้วตัวเองทำหน้าที่เป็นกรรมการ ไม่เกี่ยวข้องผลการเลือกตั้ง ได้รัฐบาลใหม่ก็ลุกจากไป ไม่เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น เราจึงได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งยาวนานที่สุด

นายจตุพร ถามว่า เราจะไม่มีโอกาส เห็นกรรมการแบบนายอานันท์ ปันยารชุน กันอีกใช่หรือไม่ วันนี้ตนเชื่อว่า ถ้ารัฐบาลที่มีอำนาจปัจจุบัน ขีดเส้นใต้ทางอำนาจ แล้วทำหน้าที่เป็นกรรมการอย่างเสมอภาคกันนั้น จะลงจากตำแหน่งหลังเสืออย่างสง่างามที่สุด

“เมื่อปรากฏชัดว่า องคาพยพก็เปิดประตูว่า ไปสังกัดพรรคการเมืองได้ โดยไม่ต้องลงรับสมัครเลือกตั้ง เพราะกลไกถูกออกแบบไว้อย่างนี้ ความจริงแล้ว น่าใช้มาตรา 44 ปลดล็อกให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ลาออกไปลงสมัครรับเลือกตั้งได้”

ดังนั้น ถ้ามั่นใจว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ด้วยแรงศรัทธาของประชาชน ตั้งใจทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง ประชาชนชื่นชอบ ต่างประเทศชื่นชอบ และ 5 ปีที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองไม่มีโอกาสได้ทำเช่นท่านอีกแล้ว ท่านจึงเป็นต่อนักการเมืองทุกราย เพียงแต่วิถีทางสุดท้ายที่จะไปดำรงตำแหน่งนายกฯ ภายใต้กติกาต้องมาจากการเลือกตั้ง แม้ รัฐธรรมนูญเปิดช่องไม่ต้องมาจากการเลือกตั้งก็ได้ แต่อารมณ์ประชาชนมีเสียงส่วนใหญ่ต้องการเลือกตั้ง

“ถ้าทุกคนต่างช่วยหาทางออกให้ชาติบ้านเมือง ท่านก็จะได้สมประสงค์ตามความต้องการของท่าน ท่านต้องลาออกจากบทกรรมการ ท่านเป็นกรรมการไม่ได้ถ้าเป็นผู้เล่น การให้รัฐมนตรีไปรับตำแหน่งในพรรคการเมืองนั้น มันให้คุณให้โทษอย่างชัดเจน กกต. จะไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้นภายใต้มาตรา 44 ของหัวหน้า คสช. และคำสั่งอยู่เหนือกกต.”

นายจตุพรวิงวอนว่า ไม่ต้องการให้บ้านเมืองของเราบอบช้ำไปมากกว่านี้ เพราะคนไทยเดือดร้อนกันมากมาย

“ถ้าท่านปรารถนาจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ นี่ตรงไปตรงมาที่สุด ท่านก็เข้าทางตรอกออกทางประตูชัดเจน ผมเชื่อว่ากลไกทางกฎหมายท่านสามารถทำได้ เพียงปล่อยให้คนกลางมาทำหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองระยะเปลี่ยนผ่านที่จะมีการเลือกตั้งนี้ ถ้ากรรมการเป็นผู้เล่น แม้ได้ชัยชนะก็ตาม แต่โลกติเตียน”

นายจตุพรเชื่อว่า ไม่มีใครยอมรับชัยชนะของทีมใดในสนาม ถ้าเปรียบเป็นฟุตบอลมีผู้เล่นถึง 14 คน ตนว่าจะเป็นชัยชนะนำไปสู่การไม่ยอมรับ และจะกลายเป็นวิกฤตของชาติในที่สุด ตนไม่ต้องการกระทบกระทั่งอะไรกัน เพียงร่วมกันหาทางออกให้ประเทศไทย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"