สุริยะใสชี้ตลาดการเมืองคึกคัก เชื่อ กกบ. พปชร. ต้องลาออกหนีเป้าถูกจู่โจม


เพิ่มเพื่อน    

 

สุริยะใส เชื่อ ถึงจุดหนึ่งว่าที่ กกบ. พปชร.ไขก๊อกจาก ครม หนีตกเป็นเป้าโจมตี แนะชูบทบาทคนหน้าใหม่ในพรรคที่น่าสนใจหลายตน

นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิตและผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัวไปเมื่อวานทำให้ตลาดการเมืองเริ่มคึกคักและมีสีสันมากยิ่งขึ้นที่สำคัญทำให้เริ่มเห็นภาพทางการเมืองในกระดานเพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมือง และเป็นกลุ่มการเมืองกลุ่มสุดท้ายที่สังคมจดจ่อติดตามที่สำคัญเป็นพรรคที่โยงกับรัฐบาลและ คสช.ด้วย

ความได้เปรียบของพรรคพลังประชารัฐต้องยอมรับว่ามีมากกว่าพรรคอื่นๆ เพราะเป็นพรรคที่มีอำนาจรัฐในมือ แต่จุดแข็งตรงนี้อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนได้เช่นกัน ถ้าบริหารจัดการไม่ดี แม้รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะไม่ได้บังคับให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลาออกก็ตามแต่สังคมจะตั้งคำถามถึงความชอบธรรม ฉะนั้นต้องจัดความสัมพันธ์ในการทำงานจากนี้ไปอย่างระมัดระวังที่สุดเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะกระทบกับ ทั้งพรรคและรัฐบาลไปพร้อมๆ กันได้ ซึ่งแน่นอนจะเป็นเป้าโจมตีให้กับพรรคคู่แข่งทางการเมืองหรือสะดุดขาตัวเอง ซึ่งต้องระมัดระวังให้มาก

ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้เมื่อถึงจุดหนึ่งเช่น เมื่อ กกต.รับรองความเป็นพรรคของพรรคพลังประชารัฐผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็อาจจะลาออกในตอนนั้นเพื่อมาทำพรรคเต็มตัวและหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี และอาจจะมีการปรับ ครม.อีกครั้งก่อนเลือกตั้งก็เป็นไปได้

จริงๆแล้วพรรคพลังประชารัฐมีคนหน้าใหม่ทางการเมืองและคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจจำนวนมาก และเป็นกลุ่มคนที่ดูค่อนข้างมีความคิดมีพลังที่พรรคควรสนับสนุนให้บทบาท แต่น่าเสียดายที่ถูกบดบังไปจากประเด็นทางการเมืองที่ตกเป็นเป้าโจมตี 

ฉะนั้นเมื่อถึงเวลาว่าที่กรรมการบริหารของพรรคก็จะต้องพิจารณาบทบาทในส่วนนี้อย่างจริงจังเพราะในระยะยาว ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ได้เปรียบทางการเมืองเสมอไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"