รัฐบาลสหรัฐและแคนาดาสามารถบรรลุความตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ ซึ่งจะมีเม็กซิโกเข้าร่วมด้วย เพื่อใช้แทนที่ความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา) ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะยกเลิก

แฟ้มภาพ จากซ้าย ธงชาติแคนาดา, เม็กซิโก และสหรัฐ ประดับสถานที่จัดเจรจานาฟตา ที่รัฐออนแทริโอของแคนาดาเมื่อ 24 กันยายน  2560  / AFP

    รัฐบาลสหรัฐ, แคนาดา และเม็กซิโกเจรจาต่อรองกันมานานกว่า 1 ปี เพื่อปรับปรุงแก้ไขความตกลงนาฟตาที่ทรัมป์ระบุว่าเป็นหายนะนี้ สหรัฐและเม็กซิโกบรรลุความตกลงกันได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม และมีความเสี่ยงที่แคนาดาจะถูกกันออกจากความตกลงฉบับใหม่นี้ หลังจากมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทั่งสหรัฐขีดเส้นตายวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2561 ให้แคนาดายินยอมทำความตกลง

    หลังจากเจรจาที่กรุงวอชิงตัน โรเบิร์ต ไลธีเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และคริสเทีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา ประกาศว่าทั้ง 2 บรรลุความเห็นพ้องกันแล้ว โดยความตกลงสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (ยูเอสเอ็มซีเอ) ฉบับนี้จะเป็นการปรับปรุงและใช้แทนที่นาฟตา ซึ่งมีอายุเก่าแก่เกือบ 25 ปี

    แถลงการณ์ร่วมของทั้ง 2 กล่าวว่า การแก้ไขนี้ "จะส่งผลให้ตลาดมีความเสรีขึ้น, การค้ายุติธรรมมากขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงในภูมิภาคนี้
 
    การรอมชอมนี้เป็นผลจากการเจรจาอย่างตึงเครียดมานาน 6 สัปดาห์ โดยต่างฝ่ายต่างยอมผ่อนปรนในบางด้าน แม้คำแถลงจะไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่รอยเตอร์รายงานว่า ความตกลงใหม่นี้แคนาดาจะอนุญาตให้สหรัฐเข้าถึงตลาดผลิตภัณฑ์นมของแคนาดามากขึ้น และจำกัดรถยนต์ที่ส่งออกมายังสหรัฐ

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายกฯ จัสติน ทรูโด เจรจานอกรอบการประชุมผู้นำกลุ่มจี 7 ที่แคนาดาเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561 / AFP

    นายกฯ จัสติน ทรูโด ของแคนาดา แสดงความยินดีต่อความสำเร็จนี้ โดยระบุว่า เป็นวันที่ดีสำหรับแคนดา ขณะที่ ลูอิส บีเดการาย รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก ทวีตว่า ความตกลงนี้เป็นผลดีต่อเม็กซิโกและต่ออเมริกาเหนือด้วย

    นาฟตาเป็นเขตการค้าเสรีที่ครอบคลุมประชากร 500 ล้านคนในภูมิภาคนี้ และมีมูลค่าการค้าปีละประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ความตกลงฉบับใหม่นี้ยังมีเดิมพันทางการเมืองสูงด้วย ทรัมป์ซึ่งดำเนินนโยบายการค้าแบบ "อเมริกาต้องมาก่อน" ต้องการแสดงถึงความเข้มแข็งก่อนถึงการเลือกตั้งกลางเทอม ส่วนทรูโดก็ไม่อยากถูกมองว่าอ่อนแอ ก่อนถึงการเลือกตั้งทั่วไปปีหน้า

    ข่าวความสำเร็จของการเจรจาครั้งนี้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาแข็งค่าที่สุดในรอบ 5 เดือน ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียเมื่อวันจันทร์ ที่มีอานิสงส์ให้ดัชนีนิกเกอิของตลาดโตเกียวพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 27 ปีด้วย.