'จตุพร'ยอมรับพรรคเพื่อชาติเก็บตกเพื่อไทย 'ณัฐวุฒิ' ไม่ต้องมา


เพิ่มเพื่อน    

9 ต.ค.61- นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางช่องนาว 26 ถึงกรณีกระแสข่าวการแยกกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. มาจับมือกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช หนึ่งในแกนนำพรรคเพื่อไทย มาตั้งพรรคเพื่อชาติเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งว่า อยู่ในสถานะที่ไม่มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกพรรคการเมืองก็ไม่ได้ แต่ได้พูดเอาไว้ที่สมาคมนักข่าวฯ คือรวมกันแพ้แยกกันชนะ 

อีกมุมหนึ่ง มีพรรคการเมืองอีกฝั่งแยกออกเป็น 5 พรรคอยู่ครบถ้วนหมด เขาทำตามรัฐธรรมนูญที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เขียนเอาไว้ เมื่อมีหมู่มิตรมาหารือร่วมกับตน ต้องการสู้ในเวทีรัฐสภา คนที่ไม่มีพื้นที่ในพรรคเดิมทั้งหมด แล้วยังไม่ได้เป็น ส.ส. พรรคเพื่อชาติ เขาเปิดเวทีให้ เห็นว่าช่องทางนี้จะทำให้เขาเหล่านั้นเข้าไปทำหน้าที่เป็นส.ส.ได้ รวมถึงบรรดาหมู่มิตรที่ร่วมต่อสู้กันมา แล้วก็ไม่มีโอกาส ไม่มีพื้นที่เมื่อรัฐธรรมนูญปี2560 ออกแบบไว้ดังนี้ก็ถือว่านี่เป็นโอกาสในการเข้าไปทำหน้าที่ ส่วนนายณัฐวุฒินั้นมีพื้นที่ในพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมา

“ระบบการเลือกตั้งแบบเดิมทำให้เข้าไปหาพื้นที่ได้ แต่เนื่องจากระบบใหม่มันจะไม่มีพื้นที่ เลยพูดคุยกันว่าคนที่มีพื้นที่อยู่แล้วในพรรคเพื่อไทยไม่ต้องมา แต่คนที่ไม่มีพื้นที่และบรรดาหมู่มิตรจากส่วนต่างๆ ก็สามารถมาเริ่มต้นที่พรรคเพื่อชาติกันได้ คือแนวพรรคเขาเปิดช่องไว้ดังนี้ ซึ่งผมเห็นด้วยกับคุณยงยุทธว่า ช่องนี้น่าจะดีที่สุดตามรัฐธรรมนูญที่ออกแบบกันไว้ว่ารวมกันแพ้แยกกันชนะ"

นายจตุพรกล่าวว่านายยงยุทธ ไม่มีพื้นที่ในพรรคเพื่อไทย จึงมาชวนผมทำพรรคเพื่อชาติหรือไม่นั้น ความจริงนายยงยุทธอยู่ตรงไหนก็ได้ นายยงยุทธมีสิทธิ์ทางการเมืองเช่นเดียวกับบ้านเลขที่ 109 และ 111 คนอื่นๆที่คดีอาญาไม่ได้เกิดขึ้น วันนี้ก็พ้นโทษทางการเมืองแล้ว นายยงยุทธมีแนวความคิดไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งที่มีสิทธิ์จึงคิดว่าเราจะได้คนใหม่ๆ เข้าไป รวมทั้งบรรดาหมู่มิตรที่ค้างๆ กันอยู่ และยังไม่มีโอกาสเข้าไปทำหน้าที่ส่วนนี้และบรรดาหมู่มิตรจากส่วนต่างๆ ที่เห็นด้วยในแนวทางนี้จะได้มีโอกาสเข้าไปต่อสู้ในระบบรัฐสภา

เขายังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการตั้งพรรคเพื่อชาติเนื่องจากได้มีการหารือกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  และพระพุทธอิสระ แกนนำ กปปส. ในระหว่างอยู่ในคุก ว่า การพูดคุยกับทั้ง 2 ท่านนั้นมีอยู่จริง เคยชี้แจงไปแล้วว่าเราไปอยู่ในสุสานคนเป็น มันไม่มีหัวโขนก็คุยกัน เกิดปรากฏการณ์ว่าสังคมนี้มันพูดคุยกันได้ถ้ามันอยู่ในจุดความรู้สึกเดียวกัน แต่เป็นคนละส่วนกับพรรคเพื่อชาติที่มีอยู่เดิมและเป็นพรรคที่มีความสมบูรณ์ตามกฎหมาย  การพูดคุยเป็นแนวความคิดที่ไม่ปิดประตูในการพูดคุยกับทุกฝ่าย เพื่อเป็นการเปิดช่องให้กับสังคมไทยให้มีการพูดคุยกันทุกฝ่ายเพื่อที่เราจะไม่ย้อนไปสู่วิกฤตเดิมกันอีก  ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุคคลทั้ง 2 ที่ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะมาตั้งพรรคการเมืองได้ แต่เป็นความคิดว่าสังคมไทยเมื่ออยู่ในจุดที่มีความรู้สึกเดียวกันเราสามารถพูดคุยกันได้ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"