เล่นเอามึนซ์ซ์ซ์กันไปหมด


เพิ่มเพื่อน    

      อืมม์ม์ม์...ก็เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกนี่แหละ รวมกันเราแพ้-แยกกันเราชนะ เพราะเท่าที่เคยคุ้นหู คุ้นปาก มันน่าจะออกไปทางประเภท แยกกันเดิน-รวมกันตี อะไรทำนองนั้น ซึ่งจะเป็นไปในแบบเดียว ลักษณะเดียวกับ รวมกันแพ้-แยกกันชนะ หรือไม่ อย่างไร ก็ยังมึนซ์ซ์ซ์ๆ มิอาจสรุปได้แบบถนัดถนี่ มากมายซักเท่าไหร่นัก...

                                                            -------------------------------------------------

      คือแต่การที่ เพื่อไทย แปลงกายมาเป็น เพื่อชาติ  นั้น...ถ้าดูจากการครุ่นคิด ดำริ ว่าจะไปเอา นพดล เหล่ มาเป็นตุ๊กตาเสียกบาล หรือเป็นหัวหน้าพรรค มันก็น่าจะจัดอยู่ในประเภท เพื่อแม้ว อย่างมิต้องพะวง สงสัย ใดๆ แม้แต่น้อย เพราะโดยตัวตนของ นพดล เหล่ ท่านจัดอยู่ในประเภท เพื่อแม้ว แบบชนิดสายตรง สายสองสลึง มาโดยตลอด ปัญหาจึงมีอยู่ว่า...แล้วทำไมยังถึงต้องจำแลง แปลงกาย จาก เพื่อไทย ไปเป็น เพื่อชาติ ทำไมถึงยังต้อง แตกแบงก์ร้อย ไปเป็นเศษเหรียญ เศษสตางค์ กันอีกต่างหาก เพราะแค่เฉพาะ แตกแบงก์พัน ไปเป็นแบงก์เป็นร้อย เป็น เพื่อธรรม เป็น ประชาชาติ เป็น เสรีรวมไทย อะไรประมาณนั้น ยังพอคิดได้ เข้าใจได้...

                                                                 -----------------------------------------------

      เพราะจาก เพื่อไทย ไปเป็น เพื่อธรรม นั้น...อย่างน้อย ก็อาจถือเป็นการลดอุณหภูมิ ความดัน ของพวก เจ๊ๆ ไม่ให้เส้นโลหิตในสมองแตกตายไปซะก่อนจะลงสนามเลือกตั้งได้บ้างไม่มาก-ก็น้อย คือในเมื่อหนีไม่พ้นต้องเปิดช่อง เปิดทาง ให้ เจ๊สุดาหน่อย ก็คงต้องหาทางโยกเอา เจ๊ซาลาเปา ที่ เจ๊ใหญ่ หรือ เจ๊กระบังลม ออกจะเหม็นเปรี้ยวอยู่พอสมควร ให้ไปอยู่ในที่ตั้งที่มั่น ที่เหมาะสม หรือให้ไปมั่วอยู่กับการลุ้นผัว การซื้อตู้เย็นให้ผัว ไปตามมี ตามเกิด รวมทั้งอาจถือเป็นการสร้าง หัวสำรอง เอาไว้ก่อน ถ้าหากต้องโดนเด็ดหัวขึ้นมาจริงๆ อะไรประมาณนั้น...

                                                                   -------------------------------------------------

      ส่วนที่แตกไปเป็น ประชาชาติ เป็น เสรีรวมไทย ไปจนถึงเป็น อนาคตใหม่...อันนั้น ต้องถือเป็น บุคลิกพิเศษเฉพาะตัว หรือเป็นการสร้าง จุดขาย ใหม่ๆ ให้กับเป้าหมายผู้บริโภค ที่อาจมีรสนิยมแตกต่างออกไป คือประเภทอาจไม่ชอบขับเบนซ์ ก็ยังมีรถสปอร์ต รถบรรทุก รถซาเล้ง ฯลฯ ให้เลือกเอาได้ตามใจชอบ การ แตกแบงก์พันไปเป็นแบงก์ร้อย ในแนวนี้ จึงน่าจะพอคิดได้ เข้าใจได้ อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นเอง แต่ที่ยังต้อง แตกแบงก์ร้อย ออกไปเป็นเหรียญสลึง เหรียญห้า เหรียญสิบ หรือเป็น เพื่อชาติ  โดยมี นพดล เหล่ เข้ามาสั่งการ บัญชาการนี่สิ คิดยังไงก็ยังคิดไม่ตก คิดไม่ออก ว่าจะ มาไม้ไหน กันแน่...

                                                                   --------------------------------------------------

      จะเป็นกึ่งการเมืองในรัฐสภา กึ่งการเมืองในท้องถนน กึ่งลับ-กึ่งเปิดเผย หรือไม่ อย่างไร ก็ยังมิอาจรู้ได้...โดยเฉพาะหลังจากที่ แก้วประการที่ 3 หรือขบวนการแนวร่วม ขบวนการมวลชน อย่าง นปช. ชักจะฮึดไม่ขึ้น แตกกันเละชนิดแทบเป็นขี้ เป็นโจ๊กกลายเป็นแดงแท้ แดงเทียม แดงสยาม แดงสยอง ฯลฯลฯ ไล่ทวงเงิน ทวงหนี้ กันอุตลุด ระดับข้ามชาติ ระดับระหว่างประเทศกันไปแล้ว การได้มีที่อยู่ ที่ยืน ปรากฏขึ้นมาในรูปใด รูปหนึ่ง ในแบบอยู่ในสภาฯก็ได้ อยู่นอกสภาฯ ก็ยังได้ อาจพอช่วยให้เกิดแรงกระตุ้นใหม่ๆ แรงบันดาลใจใหม่ๆ อย่างที่คุณน้อง จตุพร ตุ๊ดตู่ ท่านกำลังพยายามโฟร์เอส สร้างสรรค์ ขึ้นมาในระหว่างนี้ หรือไม่ ประการใด ก็ยังไม่อยากคาดคำนวณกันไปก่อนล่วงหน้า...

                                                                    -----------------------------------------------------

      แต่เอาเป็นว่า...งานนี้ ไปๆ-มาๆ แล้ว แทบไม่รู้ว่า ไผ-เป็นไผ ไปแล้วในทุกวันนี้ เพราะไม่ว่า ก๊กเอาบิ๊กตู่ หรือ ก๊กไม่เอาบิ๊กตู่ ต่างหันมา แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย  ชนิดร้านโชห่วย แทบไม่เหลือเศษสตางค์ไว้ทอนเงินลูกค้ากันไปแล้ว เมื่อถึง ณ ขณะนี้ คือเฉพาะ ก๊กเอาบิ๊กตู่ ก็แตกกันชนิดจำชื่อแทบไม่หมด มีทั้งประชารัฐ ประชาชนปฏิรูป รวมพลังประชาชาติไทย ที่ยังขายเหล้าพ่วงเบียร์ต่อไปยังภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ฯลฯลฯ และอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะตาแป๊ะไก๋ ปานประดุจแม่น้ำร้อยสาย ไหลมารวมกันที่คลองแสนแสบ อะไรทำนองนั้น ขณะที่ ก๊กไม่เอาบิ๊กตู่ ก็ฝนตกขี้หมูไหล อย่างเป็นระบบและเป็นกิจการ มีทั้งเพื่อไทย เพื่อธรรม เพื่อชาติ เพื่อประชาชาติไทย เพื่อเสรีรวมไทย ฯลฯ เฮ้ออ์อ์อ์...อะไรมันจะ บ้าตาย ถึงขั้นนี้ย่อมไม่มีอีกแล้ว...

                                                                      -----------------------------------------------------

      ดีอยู่หน่อย...ที่ ก๊กเอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง เค้ายังพอหลงเหลือ ความคลาสสิก เอาไว้มั่ง คือยัง กำแบงก์พัน เอาไว้แน่น หันไปสลายขั้ว สลายความเป็นก๊ก เป็นเหล่า ด้วยการเปิดให้มีการเลือกตั้งหัวหน้าก๊กแบบเปิดเผย ตรงไป-ตรงมา แต่หลังจากนั้นไปแล้ว...หรือหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว จะเกิดการแตกแบงก์ แลกแบงก์ แลกเหรียญ แลกเศษสตางค์ กันแบบไหน อย่างไร คงต้องไปรอดูกันอีกที เอาเป็นว่า...เมื่อถึง ณ ขณะนี้ ก็อย่าเพิ่งไปปวดหัว ตัวร้อน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ กับการจำแนกแยกแยะ ว่าไผ-เป็นไผ ใคร-เป็นใคร สำหรับการหวนกลับมาสู่บรรยากาศประชาธิปไตยกันอีกรอบ คิดซะว่า...ประชาธิปไตยคราวนี้ ยังไงๆ ย่อมไม่น่าจะเหมือนกับประชาธิปไตยโดยทั่วไป คือเป็นประชาธิปไตยที่ใช้แก๊สก็ได้ ใช้น้ำมันก็ได้ หรือจะเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าก็ยังได้ เพราะฉะนั้น...ไม่ว่าก๊กไหนต่อก๊กไหนก็เถอะ ถ้าหากไม่ชอบมา พากล ขึ้นมาแล้ว ก็คงต้องหาทาง ไฮบริด ซะให้เข็ด!!!

                                                                       -------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Jawaharlal Nehru... We are little men serving great cause and because the cause is great something of the greatness falls on us also.- เราเป็นปุถุชนคนเล็กๆ ที่รับใช้ภารกิจใหญ่ๆ แต่ด้วยเหตุเพราะภารกิจนั้นใหญ่ ความใหญ่ของภารกิจจึงย่อมตกมาถึงเราด้วยบ้าง...

                                                                     ------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"