"พ่อ-แม่" รังแก "โอ๊ค"?


เพิ่มเพื่อน    

    ย้อนไปเรื่องโอ๊คอีกที
    แต่ไปไกลหน่อย....
    ถึง "เปรู "
    สดๆ ร้อนๆ นางเคอิโกะ ฟูจิโมริ ผู้นำฝ่ายค้านเปรู จากพรรคการเมืองชื่อคุ้นหู พลังประชาชน เข้าไปอยู่ในห้องขังเรียบร้อย
    คนนี้เป็นลูกสาวของ อัลแบร์โต ฟูจิโมริ อดีตผู้นำเผด็จการธิปไตย เชื้อสายญี่ปุ่น ของเปรู 
    นางฟูจิโมริถูกจับกุมตัวฐานทุจริต
    ขณะนี้ทางการเปรูกำลังสอบสวนคดียอดฮิตของคนในแวดวงการเมือง.... 
    "ฟอกเงิน"
    ข่าวบอกว่า นางฟูจิโมริถูกตำรวจควบคุมตัวใส่กุญแจมือ และถูกนำตัวไปยังสำนักงานอัยการเพื่อสอบปากคำถึงที่มาที่ไปของเงินบริจาคหาเสียงในช่วงที่นางฟูจิโมริลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีเปรู เมื่อปี ๒๕๕๔ 
    สอบปากคำเสร็จก็จับเข้าห้องขัง 
    เบื้องต้นจะถูกควบคุมตัวเป็นเวลา ๑๐ วัน 
    ไม่โชคดีเหมือนโอ๊ค
    ความผิดตามหมายจับระบุว่า นางฟูจิโมริตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้นำเครือข่ายอาชญากรภายในพรรคการเมืองของตัวเอง
    ซึ่งได้รับเงินบริจาค ๑.๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    หรือเกือบ ๔๐ ล้านบาท 
    จากบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของบราซิล ซึ่งเคยจ่ายเงินสินบนจำนวนมากให้แก่บรรดานักการเมืองของหลายประเทศทั่วลาตินอเมริกา
    รวมทั้งเปรู
    ครับ...โกงทั้งพ่อทั้งลูก 
    อัลแบร์โต ฟูจิโมริ เคยเป็นประธานาธิบดีเปรู ช่วงปี ๒๕๓๓-๒๕๔๓
    เขาอ้างว่าเป็นผู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจเปรูที่ตกอยู่ในภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง แต่เบื้องหลังคือใช้เงินงบประมาณแผ่นดินทุ่มไปกับนโยบายประชานิยม
    เขาอ้างว่า สามารถจัดการกับผู้ก่อการร้ายในประเทศได้ แต่เบื้องหลังคือเต็มไปด้วยคำสั่งฆ่า โดยเฉพาะกับการเมืองฝ่ายตรงข้าม 
    และด้วยสันดานขี้ฉ้อ 
    สุดท้าย....อัลแบร์โต ฟูจิโมริ โดนข้อหาการทุจริตในตำแหน่งหน้าที่ 
    และละเมิดสิทธิมนุษยชน
    ต้องเผ่นกลับญี่ปุ่นบ้านบรรพบุรุษ 
    ไม่ได้ไปคนเดียว
    น้องสาวสองคนของอัลแบร์โต ฟูจิโมริ เชื่อหลบหนีออกนอกประเทศไปด้วย หลังถูกแจ้งข้อหาทุจริต ยักยอกเงินบริจาคขององค์กรนอกภาครัฐที่พวกเขาบริหารดูแลอยู่ 
    แต่ไม่รอด "อัลแบร์โต ฟูจิโมริ" เดินชนปังตอ  
    ปี ๒๕๔๙ ถูกจับกุมเพราะเดินทางเข้าประเทศชิลี เพื่อนบ้านเปรู 
    ถูกนำตัวไปดำเนินคดีและต้องโทษจำคุก ๖ ปี 
    ข้อหาการใช้อำนาจโดยมิชอบ
    นี่ย้อนให้เห็นภาพคร่าวๆ ว่า "ชินวัตรเปรู" ติดคุกจริง ไม่ต้องมีใครแทน 
    และวันนี้ตัวลูกสาวกำลังเผชิญวิบากกรรม 
    ไม่ใช่เพราะเลือดเนื้อเชื้อไขฟูจิโมริ ต้องรับอะไรแรงกว่าคนอื่นเสมอ
    แต่เพราะโกงโดยสันดาน
    ถามว่าในเปรูมีการประท้วง มีความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่?
    มี!
    หลังสุดประท้วงเพราะ รัฐบาลเปโดร ปาโบล คุชซินสกี ประกาศให้อภัยโทษแก่ อัลเบอร์โต ฟูจิโมริ ในคดีละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่ศาลสั่งจำคุก ๒๕ ปี 
    ด้วยข้ออ้างสุขภาพย่ำแย่
    แต่ประชาชนมองว่านั่นเป็นการทรยศต่อประชาชน
    อย่างไรก็ตาม เปรูไม่ได้มีความขัดแย้งถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง เพราะ "อัลแบร์โต ฟูจิโมริ" ไม่เหลือบารมีมาปั่นหัวนักการเมืองในสังกัด ให้สร้างความวุ่นวาย  
    จะบอกว่า "ชินวัตร" กับ "ฟูจิโมริ" เหมือนแฝดอินจัน หรือแพะกับแกะ ก็ว่าไปตามสะดวก 
    ที่ไม่เหมือนก็มีอยู่มากเช่นกัน 
    "ชินวัตร" ยังไม่มีใครติดคุก
    เพราะหนีทั้งพี่ทั้งน้อง 
    ส่วนลูกคงรู้ผลในอีกไม่นานนัก
    คดีกรุงไทยติดคุกไปหลายรายแล้ว! 
    แต่...ตระกูลชินวัตร จะไม่มีใครติดคุกเด็ดขาด 
    "ช่องทางธรรมชาติ" อาจเป็นทางเลือกหากถึงเวลา 
    มีประเด็นตกค้างของโอ๊ค
    โอ๊คบอกว่า...  
    ...เฝ้าแต่รอฟังว่าเมื่อไหร่เผด็จการฯ จะเริ่มต้นปรองดองอย่างจริงจัง รอว่าเมื่อไหร่จะเลิกหาเรื่อง... 
    ใครได้อ่านบทความถาม-ตอบ อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ ในเว็บไซต์ไทยโพสต์ (storage.thaipost.net) จะเห็นภาพชัดว่า ไม่มีใครหาเรื่องใคร
    แต่เป็นเรื่องพ่อแม่รังแกฉัน 
    ใช้ชื่อลูกซุกเงิน ซุกหุ้น ซุกเช็ค ซุกบัญชี 
    ถ้าจะปรองดอง นอกจากยอมรับในกระบวนการยุติธรรมแล้ว.... 
    ยังมีทางอื่นอีกหรือ????     
    เฟซบุ๊กเพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โพสต์ข้อความว่า 
    "วันพุธที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๑ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท
    สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า
    “....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสั่งสอนพุทธบริษัทไว้ว่า ‘ท่านทั้งหลาย จงเห็นความวิวาทเป็นภัย และความไม่วิวาทเป็นความปลอดภัย แล้วเป็นผู้พร้อมเพรียง มีความประนีประนอมกันเถิด.’
    ธรรมดาของการอยู่ร่วมกัน หรือทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ บุคคลย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ตามพื้นฐานจิตใจ แนวคิด ทฤษฎี และประสบการณ์ที่ขัดเกลาบุคคลแต่ละคนมาแตกต่างกัน 
    ผู้ไม่มีคุณธรรมหนักแน่นมั่นคงในใจเพียงพอ ย่อมเห็นว่าความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากตนนั้นเป็นความผิด เป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ จนอาจนำไปสู่ความวิวาทร้าวฉานกันในหมู่คณะได้
    วิธีที่จะระงับมิให้ความบาดหมางลุกลามใหญ่โต จนกลายเป็นการแตกความสามัคคี ในเบื้องต้น ขอให้ทุกคนพึงอบรมสั่งสมให้มี ‘ขันติ’ คือความอดทนต่อสิ่งที่ไม่สบอารมณ์ ไม่เป็นที่พึงพอใจของตนก่อน 
    จากนั้น จงระลึกถึงคุณธรรมข้อ ‘เมตตา’ โดยให้พิจารณาว่าเราทั้งหลายก็ล้วนเป็นเพื่อนร่วมหน่วยงานเดียวกัน หรือถ้าจะว่าในทางธรรมะ ก็คือเป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
    ครั้นกระแสแห่งเมตตาธรรมเข้าเอิบอาบซาบซึมอยู่ในหัวใจแล้ว ความคิดที่จะทะเลาะกันก็ย่อมหายไปเอง 
    ต่อให้มีความคิดเห็นที่แตกต่าง ก็จะกลายเป็นความแตกต่างเพื่อสร้างสรรค์ แต่ละฝ่ายย่อมจะหันมาประนีประนอมกัน รับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน นำมาซึ่งข้อยุติแห่งปัญหา 
    ก่อให้เกิดแนวทางสร้างสรรค์ สามารถจรรโลงหมู่คณะและสังคมส่วนรวมให้ก้าวหน้าไปได้โดยสวัสดี ด้วยอานุภาพของคุณธรรมความสามัคคี
    เพราะฉะนั้น จึงขอให้ทุกท่าน จงเห็นว่าความคิดที่แตกต่างกัน เป็นเรื่องธรรมดาของการทำงาน 
    ถ้าหากว่าทุกท่านหวังดีต่อองค์กรแล้ว ความแตกต่างทางความคิดย่อมไม่ใช่ภัยอันตราย เพียงแต่ต้องปรับความเข้าใจกัน 
    ด้วยความอดทน และด้วยความเมตตา
    อย่างไรก็ตาม ขอให้ระมัดระวังการวิวาทบาดหมาง จนถึงขั้นผูกพยาบาทอาฆาตมาดร้าย นั่นจัดเป็นภัยใหญ่หลวง ที่จะทำลายทั้งตนเองและส่วนรวมให้ย่อยยับไปได้ในที่สุด
    ถ้าท่านทั้งหลายมีสติระลึกรู้อยู่ในความสามัคคีเสมอ อาตมภาพก็ขอรับประกัน ด้วยธรรมะของพระพุทธองค์ว่า.... 
    ภัยร้ายหรือความเสื่อมจะไม่มีวันบังเกิดขึ้นกับหมู่คณะ ท่านจะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป...”
    กรณีของตระกูลชินวัตร คงเพราะคุณธรรมในใจที่ไม่หนักแน่นเพียงพอ  
    นั่นทำให้ความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากตนเองเป็นความผิด เป็นสิ่งไม่พึงประสงค์สำหรับตนเอง  
    นำไปสู่ความร้าวฉาน 
    หากจะถามหาความปรองดอง อย่าเอาแต่คิดว่าคนอื่นหาเรื่อง 
    เพราะคนสร้างเรื่องคือตัวเอง 
    คดีกู้กรุงไทย มีรายละเอียดเยอะพอควร 
    เฉพาะกรณีของโอ๊ค นอกจากเงิน ๑๐ ล้าน เข้าไปนอนในบัญชีแล้ว
    ข้ออ้างร่วมลงทุนนำเข้ารถยนต์หรูระหว่างโอ๊คกับ นายรัชฎา กฤษดาธานนท์ ไม่มีที่มาที่ไปที่ชัดเจน
    สรุปแล้วรออ่านรายละเอียดในคำพิพากษาเถอะ
    ถ้ารอดคือรอด 
    หากไม่รอด....มีอยู่สองทาง 
    ไม่คุกก็ช่องทางธรรมชาติ.
                                    ผักกาดหอม 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"