คำสอน 'ในหลวงรัชกาลที่ 9'...ไม่มีวันตาย


เพิ่มเพื่อน    

     13 ตุลาคม ถูกจารึกไว้ในหัวใจของคนไทยทั้งชาติ ว่าเป็นวันแห่งความสูญเสียครั้งสำคัญของทุกคนที่เกิดในรัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และจวบจนถึงทุกวันนี้ พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่านยังคงเป็นที่จดจำ

     ความในใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล ...คือคำตอบสุดท้ายและข้อพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน

(เอมิกา โชติวิช-พิมพ์นารา มหาเทพ)

     น้องชะเอม-เอมิกา โชติวิช นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ บอกว่า “ชะเอมเป็นเด็กรุ่นใหม่ แต่คำสอนของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ที่ถูกคุณพ่อคุณแม่และคุณครูปลูกฝัง คือเรื่อง “ความพอเพียง” มันใช้ได้ทั้งการเรียนและการดำเนินชีวิตค่ะ เช่นตอนนี้เรายังเรียนอยู่และยังหาเงินเองไม่ได้ ก็ต้องรู้จักช่วยพ่อแม่ประหยัดค่าใช้จ่าย และใช้เงินไม่ให้เกินงบในแต่ละวันค่ะ”

     ถัดมา น้องพิมพ์-พิมพ์นารา มหาเทพ นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ บอกว่า “ความซื่อสัตย์” เป็นคำสอนที่ใช้ได้จริง และถ้าทุกคนใช้ชีวิตด้วยหลักปฏิบัติดังกล่าว ปัญหาของการคดโกงในสังคมก็จะหายไปด้วย “พิมพ์คิดว่าคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับเรื่องความซื่อสัตย์นั้น ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน เพราะถ้าได้รับการปลูกฝังเรื่องความซื่อสัตย์ ก็จะทำให้เป็นผู้ที่สุจริต ไม่คดโกง และไม่เอาเปรียบผู้อื่นค่ะ ที่สำคัญเมื่อเราทำตามก็จะทำให้เกิดความสุขกายสุขใจ”

(ชาฎา สุขกิจสมโภชน์)

     ด้านคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับเรื่อง “ความพอเพียง” เป็นสิ่งที่ น้องแก้ม-ชาฎา สุขกิจสมโภชน์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ยึดถือนำมาใช้ในชีวิต บอกว่า “ในห้องเรียนอาจารย์มักจะเน้นคำสอนเรื่องความพอเพียงค่ะ เลยทำให้แก้มจดจำและมาใช้ เช่น อย่างวันไหนที่พ่อแม่ให้เงินมาโรงเรียน 200 บาท ก็มักจะเก็บไว้ 40 บาท เผื่อยามฉุกเฉินในวันรุ่งขึ้น ก็เป็นแนวคิดที่ดีมากๆ ค่ะ แก้มประทับใจคำสอนของพระองค์ท่าน และได้ใช้จริงๆ ค่ะ”

(กัญญาณัฐ ศิรยาคม)

     ขณะที่ น้องเบลล์-กัญญาณัฐ ศิรยาคม วัย 12 ปี โรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์ ให้ข้อมูลว่า “นอกจากคำสอนเรื่องความพอเพียงแล้ว แนวปฏิบัติของในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่าง “ความอดทน” เป็นสิ่งที่เบลล์ได้นำมาใช้ในการเรียนค่ะ ยกตัวอย่างวิชาพลศึกษา ที่ถ้าเราไม่มีความอดทน เราก็จะรีบเข้าไปพักเหนื่อย แต่ถ้าเราอดทนฝึกซ้อม เวลาเรียนก็จะไม่ผ่านไปเปล่าๆ ที่สำคัญก็จะทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรง และสามารถเรียนวิชานี้ได้เป็นอย่างดี จากการหมั่นฝึกฝนไม่ย่อท้อให้กับความเหนื่อยค่ะ”

(วีรดา)

     ต่างจาก น้องมิว-วีรดา อายุ 12 ปี จากโรงเรียนสวนสุนันทา ที่บอกว่า “ความรับผิดชอบ” เป็นสิ่งที่ประชาชนไทยได้รับคำสอนจาก “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ที่พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดี โดยไม่ทรงละทิ้งการงานที่ทำ ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญมากในการที่เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบในหน้าที่ บอกว่า “อันที่จริงแล้วมิวคิดว่าคำสอนของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” มีอยู่มากมาย ซึ่งก็เป็นคำสอนที่ดีทุกข้อค่ะ แต่สิ่งที่หนูประทับใจและนำมาใช้คือเรื่อง “ความรับผิดชอบ” เพราะถ้าเด็กได้รับการปลูกฝังเรื่องนี้ จะทำให้เขาโตมาเป็นผู้ที่มีวินัยในการทำงาน เมื่อนั้นองค์กรก็จะเจริญก้าวหน้า หรือถ้าเป็นพ่อแม่ก็จะให้การดูแลเอาใจใส่ลูกหลานของตัวเองให้ดีค่ะ”

(ณรงค์ชัย เอกศิริ)

     ณรงค์ชัย เอกศิริ อายุ 13 ปี นักเรียนจากโรงเรียนปทุมคงคา บอกว่า “ความซื่อสัตย์” เป็นคำสอนของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ที่จะช่วยทำให้ผู้ปฏิบัติใช้ชีวิตด้วยความสุข และรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ส่วนตัวผมได้น้อมนำคำสอนนี้มาใช้ โดยการที่ผมเก็บกระเป๋าสตางค์เพื่อนได้ก็นำไปคืน โดยให้อาจารย์ประกาศหาเจ้าของ และเมื่อเพื่อนได้ของคืนก็ขอบใจผม ทำให้รู้สึกดีและเป็นจุดเริ่มต้นในการทำดีให้กับเพื่อนๆ คนอื่นได้เห็นครับ และความซื่อสัตย์จะทำให้ชีวิตดีงามครับ”

(มนัสนันท์ โพธิรัตน์)

     ส่วนพระบรมราโชวาทของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” เรื่อง “การตรงต่อเวลา” เป็นสิ่งที่ มนัสนันท์ โพธิรัตน์ อายุ 12 ปี จากโรงเรียนมัธยมวัดบึงทองหลาง ให้มุมมองว่า เป็นการปลูกฝังให้เด็กๆ มีระเบียบวินัย รู้จักการวางแผนล่วงหน้าในชีวิต “คำสอนเรื่องการตรงต่อเวลาเป็นสิ่งที่จำเป็นมากค่ะ เช่น ถ้าหากว่าวิชาไหนที่ระบุเวลาเรียนไว้ตอน 10.30 น. เราก็ต้องมาให้ทันเวลาเรียน ที่สำคัญหากว่าวิชานั้นเป็นวิชาที่ยากและเราไม่ค่อยเก่งหรือไม่ถนัด ก็ยิ่งต้องรีบมาเรียนให้ทันค่ะ เพื่อที่ว่าเราจะได้มีความรู้เพิ่ม และหากไม่เข้าใจตรงไหนก็จะได้ถามคุณครูได้ค่ะ แต่ที่หนูบอกมามันก็ต้องเริ่มจากการเป็นตรงต่อเวลา การรู้จักวางแผนชีวิต และใส่ใจการเรียนค่ะ”

(กิตติพัฒน์ แก่นจำปา)

     สำหรับ กิตติพัฒน์ แก่นจำปา วัย 12 ปี จากโรงเรียนสาธิต ม.เกษตรศาสตร์ บอกว่า “คำสอนที่ผมประทับใจพระองค์ท่านคือคำสอนที่ว่า “ขาดทุน คือกำไร” โดยเฉพาะคำว่าขาดทุน สามารถตีความได้หลากหลายครับ เป็นต้นว่าคำว่าขาดทุนนั้น คือการที่เราอาจจะทำผิดพลาด ซึ่งความผิดนั้นจะเป็นประสบการณ์ที่สอนเราในเรื่องต่างๆ ทำให้เรารู้จักวางแผนและระมัดระวังมากขึ้น ตรงนี้แหละครับมันคือคำว่ากำไรครับ”

     เพราะสามัคคีคือพลัง ดังนั้นคำว่า “ความสามัคคี” ถือเป็นคำสอนดีๆ ที่ พัชรากร ฉิมคล้าย อายุ 12 ปี นักเรียนจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ บอกว่า จะช่วยทำให้ทั้งการเรียนและการทำงานประสบความสำเร็จ “สิ่งที่ประทับใจคำสอนนี้คือ หนูมีประสบการณ์ตรงจากการทำรายงานกลุ่มในห้องเรียน ซึ่งบางครั้งจะมีเพื่อนที่ไม่ช่วยกันทำ ท้ายที่สุดเราก็จะหันมาหน้ามาคุยปรึกษากันว่าเราต้องช่วยกัน เพราะถ้าต่างคนต่างไม่สนใจ หรือปล่อยให้เพื่อนคนใดคนหนึ่งทำเพียงลำพัง รายงานกลุ่มที่คุณครูสั่งก็จะไม่เสร็จ เพราะทุกอย่างมันต้องมาจากการร่วมไม้ร่วมมือ หรือทำด้วยความสามัคคีกันค่ะ”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"