เช็กกล้องหาตัว มือปืนบุกยิงนศ.


เพิ่มเพื่อน    

    พ่อแม่สุดสลด รับศพลูกชาย นศ.ปี 4 อุเทนถวาย ถูกยิงเป็นศพขณะช่วยแม่ขายราดหน้าย่านนวมินทร์ เผยเพื่อนลูกฟันธงมือปืนเป็นอริต่างสถาบัน พ่อขอให้เกิดเป็นครั้งสุดท้าย แก้แค้นกันไปมาไม่เกิดประโยชน์ ตำรวจขอเวลาอีก 2-3 วันมีความคืบหน้า
    ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ วันที่ 14 ตุลาคมนี้ นายนฤดม สุวรรณทัต อายุ 55 ปี นางเขมนิจ สุวรรณทัต อายุ 54 ปี ภรรยา พร้อมญาติ เดินทางมารับศพลูกชายคือนายกมลวิช สุวรรณทัต อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะโลจิสติกส์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง กระสุนเข้ากลางหลัง 4 นัด เสียชีวิต ขณะช่วยมารดาขายก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่ปากซอยนวมินทร์ 57 เมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา
    นางเขมนิจเปิดเผยว่า ลูกชายไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร และในวันเกิดเหตุหลังจากเลิกงานได้มาช่วยงานที่ร้านตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่ให้ลูกไปยกถังน้ำห่างจากร้านไม่กี่เมตร เดินไปไม่ถึง 10 ก้าว คนร้ายที่จอดรถจักรยานยนต์รออยู่ ได้ปรี่เข้ามากระหน่ำยิงลูกชายทันทีก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ทันได้สังเกต เพราะปกติแล้วก็จะมีแต่ลูกค้าที่เข้ามาสั่งอาหาร ซึ่งวันเกิดเหตุลูกชายสวมยูนิฟอร์มของสถานที่ทำงาน ไม่ใช่ชุดของสถาบันการศึกษาแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุได้คุยกับเพื่อนลูกบ้าง ทุกคนยืนยันว่าคนร้ายเป็นคู่อริต่างสถาบัน แต่ครอบครัวเราอยู่กันแบบครอบครัวจริงๆ จะไปไหนมาไหนลูกจะบอกทุกครั้ง เมื่อกลับดึกก็ต้องโทร.บอก
    ด้านนายนฤดม พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ไม่เคยทราบว่าลูกมีปัญหากับใครมาก่อนหรือเปล่า แต่เมื่อกลางปีที่แล้ว ขณะที่ร้านเก่าขายอยู่ที่ลาดพร้าว ได้มีคนขี่จักรยานยนต์มาวนเวียนที่หน้าบ้านหลายครั้ง ลูกชายก็สังเกตเห็น เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงขอย้ายไปพักที่บ้านเพื่อน กระทั่งเพิ่งมาเซ้งร้านที่นี้ได้เพียง 2 เดือน ลูกชายได้โพสต์เฟซบุ๊กย้ายร้านใหม่ให้เพื่อนทราบว่า "เราพร้อมขาย คุณพร้อมกินหรือยัง" ซึ่งเป็นการโพสต์ชวนเพื่อนที่รู้จักมากินที่ร้าน คาดว่าคนร้ายที่ตามสืบหาตัวลูกชายคงทราบพิกัดแล้วตามมาก่อเหตุ
    นายนฤดมกล่าวว่า อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีประโยชน์ที่แก้แค้นกันไปมา อยากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ลูกจะได้ไปแบบสบายใจไม่ต้องกังวล ส่วนศพลูกชายจะนำไปบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 วันที่วัดสาคร (สุ่น) ประชาสรรค์ แล้วจะฌาปนกิจในวันพุธที่ 17 ต.ค.นี้
    ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า ได้สั่งกำชับ พ.ต.อ.คัชชา ธาตุศาสตร์ รรท.รอง ผบช.น. ให้ตั้งประเด็นการก่อเหตุในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย อาทิ ความขัดแย้งระหว่างสถาบัน และเรื่องส่วนตัวของผู้ตาย ตลอดจนพฤติกรรมของผู้ตายขณะช่วยมารดาทำงาน ว่าสวมใส่เสื้อบ่งบอกสถาบันหรือไม่ เนื่องจากระยะทางที่เกิดเหตุกับสถาบันการศึกษาไม่ได้อยู่ในละแวกใกล้เคียง ยอมรับว่าภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุมีข้อมูลน้อยมาก จึงสั่งให้ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว ลงพื้นที่แกะรอยภาพวงจรปิดในจุดที่คนร้ายหลบหนี และสืบหาข้อมูลกับบุคคลใกล้ชิดและเพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิต เนื่องจากอาจมีบางเรื่องที่ผู้เสียชีวิตไม่ได้เล่าให้ผู้ปกครองฟัง
    ส่วน พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงศ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4  กล่าวว่า จากผลการพิสูจน์ชนิดกระสุนปืนที่ใช้ยิงนายกมลวิช คาดว่าปืนที่ใช้เป็นอาวุธสังหารนั้นเป็นชนิดลูกโม่ ส่วนการติดตามตัวคนร้าย ขณะนี้ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ตรวจสอบแล้วคาดว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่มือปืนรับจ้าง สำหรับรายละเอียดเรื่องปมสังหารยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนทางคดี และเมื่อได้สอบปากคำพ่อแม่ของผู้ตาย ทราบว่าตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา นายกมลวิชเป็นเด็กดีช่วยครอบครัวทำมาหากิน ไม่มีประวัติการก่อเรื่องใดๆ โดยคาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะมีความคืบหน้า.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"