สนามม้าฝรั่งวุ่น อ้างถูกทวงภาษี สไตรค์หยุดแข่ง


เพิ่มเพื่อน    

    สนามม้าฝรั่งจ่อหยุดแข่งขัน อ้างถูกสรรพากรทวงภาษีแวต 18.78 ล้านบาท กระทบภาษีเงินได้นิติบุคคลอีก จ่อ 4 พ.ย.เป็นนัดสุดท้าย เจ้าของคอกม้าเตรียมล่าชื่อคัดค้านแผนสไตรค์  
    มีรายงานแจ้งว่า คณะกรรมการบริหารสมาคมราชกรีฑาสโมสร (สนามม้าฝรั่ง) ได้ออกประกาศฉบับที่ 010/2561-2562 เรื่องยุติการแข่งม้าเป็นการชั่วคราว  เผยแพร่ให้สมาชิกได้รับทราบ โดยเนื้อหาระบุเหตุผลสำคัญว่า กรมสรรพากรได้เข้ามาตรวจสอบเอกสารทางบัญชี และได้แจ้งว่าการจัดการแข่งม้าของสมาคมปฏิบัติไม่ถูกต้องตามประมวลรัษฎากร จึงเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป ซึ่งภาษีแวตในปี 2560 เท่ากับ 18.78 ล้านบาท หากสมาคมจ่ายภาษีจำนวนนี้ให้กรมสรรพากรในวันที่ 30 ก.ย.2561 กรมจะรับคำร้องของสมาคมเพื่อพิจารณายกเว้นเบี้ยปรับ และเงินเพิ่มสำหรับปี 2560 
    ประกาศดังกล่าวยังระบุว่า การจัดแข่งขันที่ผ่านมาเป็นการจัดในนามองค์กรสาธารณกุศล ซึ่งองค์กรเหล่านั้นเป็นผู้ขอยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่เมื่อวันที่ 14 ส.ค. กรมสรรพากรได้ออกหนังสือเวียนเรื่อง ซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีรายได้จากการจัดแข่งม้า เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติในกรมสรรพากร มีการตีความการจัดเก็บภาษีแวตใหม่ ทำให้สมาคมต้องรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มอีกปีละประมาณ 20 ล้านบาท 
    มีรายงานแจ้งอีกว่า รายรับจากการแข่งม้าตลอดปีเฉลี่ยประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท หากการจัดแข่งขันไม่สามารถยกเว้นภาษีแวตได้ ก็ต้องลงรายรับดังกล่าวเป็นรายได้สมาคม ทำให้สมาคมต้องชำระภาษีแวตพร้อมกับภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 ล้านต่อปี หรือ 2% ของรายรับการแข่งม้าก่อนหักรายจ่าย หากรวมกันแล้ว สมาคมต้องจ่ายภาษีรวมกว่า 40 ล้านบาทต่อปี และเมื่อรวมกับยอดขาดทุนเฉลี่ย จากการแข่งม้าอีกประมาณปีละ 10 ล้านบาท สมาคมต้องขาดทุนจากการแข่งม้าปีละกว่า 50 ล้านบาท 
    ทั้งนี้ คณะกรรมการอำนวยการทั่วไปของสมาคม ได้ลงมติเสียงส่วนใหญ่ไปเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2561 ดังนี้ 1.ให้จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 18.78 ล้านบาทให้กรมสรรพากรตามเวลาที่กำหนด 2.ให้ยุติแข่งม้าเป็นการชั่วคราวจนกว่าโครงสร้างภาษีทั้งหมดที่เกี่ยวกับการจัดแข่งม้าได้รับการพิจารณาแก้ไข หรือเปลี่ยนไปในทิศทางที่เอื้อต่อสมาคม จัดแข่งม้าโดยไม่มีผลขาดทุน ทางสมาคมจึงจะพิจารณาแข่งม้าต่อไป และ 3.เพื่อให้คณะกรรมการอำนวยการแข่งม้าได้มีเวลาเตรียมการและแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องกับการแข่งม้าทั้งหมดทุกภาคส่วนให้ทราบถึงมตินี้ โดยจะมีการแข่งขันม้าต่อไปอีก 3 ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายจะเป็นวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย.นี้ 
    และ 4.เนื่องจากสมาคมต้องแบกรับภาษีแวต และภาษีเงินได้เป็นการเพิ่มเติมจากภาษีต่างๆ จากการแข่งม้า และปัจจุบันยังประสบภาวะขาดทุนมาโดยตลอด จึงเป็นเหตุผลนำไปสู่การตัดสินใจหยุดการแข่งม้าชั่วคราว จนกว่าโครงสร้างภาษีดังกล่าวจะได้รับการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการยืนยันว่า ผลประโยชน์ สิทธิ และทรัพย์สินของสมาคม รวมถึงสมาชิกเป็นสิ่งที่สำคัญสูงสุด จึงตัดสินใจยุติการแข่งม้าเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการขาดทุนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก 
    ทั้งนี้ ราชกรีฑาสโมสรจะจัดการแข่งขันม้าทุกวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ (2 วัน) โดยจะสลับกับราชตฤณมัยสมาคมฯ (สนามม้านางเลิ้ง) แต่หลังจากราชตฤณมัยสมาคมฯ ได้ส่งมอบพื้นที่สนามม้านางเลิ้งคืนให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์หลังหมดสัญญาไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ต.ค. โดยจัดแข่งขันม้านัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ก็เหลือเพียงการแข่งม้าที่สนามม้าฝรั่งในเขตพื้นที่ กทม. 2 วันต่อ 1 เดือน ซึ่งหากมีการหยุดแข่งขันในวันที่ 4 พ.ย. เป็นการชั่วคราว ก็จะไม่มีการแข่งขันม้าใน กทม.ในช่วงวันหยุดอีกเลย 
    มีรายงานอีกว่า คณะกรรมการบอร์ดสนามม้าราชกรีฑาเตรียมนัดประชุมด่วนกันในเวลา 20.00 น.ของวันที่ 18 ต.ค.อีกครั้ง 
    ขณะที่นายสุเนตร บุรกสิกร เจ้าของคอกม้านพเก้าระบุว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค. เจ้าของคอกม้าและผู้เกี่ยวข้องกว่า 400 คน ได้นัดหารือกันเบื้องต้น พร้อมทั้งเตรียมล่ารายชื่อคัดค้านกรณีการหยุดแข่งขัน เช่นเดียวกับจังหวัดเชียงใหม่และอุดรธานีที่มีสนามม้าแข่งและได้รับผลกระทบเริ่มประชุมเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"