สวดมนต์พิธีมหามงคลระลึก3พระองค์


เพิ่มเพื่อน    


     ประชาชนร่วมสวดมนต์พิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศล ณ พระลานพระราชวังดุสิต  รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ร.4 ร.5 ร.9 และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ใน ร.9 พร้อมอัญเชิญ "พระแก้วมรกตน้อย" ประดิษฐานเป็นประธานในพิธี
    เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 17.42 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4, พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5, พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต
    ในการนี้ สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหารมาเป็นประธานสงฆ์ พร้อมพระสงฆ์รวม 207 รูป นำสวดเจริญพระพุทธมนต์ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้อัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกตน้อย) พระแก้วประจำรัชกาลที่ 6 มาประดิษฐานเป็นพระประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อให้ประชาชนได้สักการะ อันจะเป็นมงคลแก่ชีวิต ประเทศชาติ และสืบสานพระราชปณิธาน "ธรรมราชินี" ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์เพื่อพระราชทานแก่ผู้มาร่วมพิธีด้วย 
    เวลา 17.29 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอก เกษม อยู่สุข อัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกตน้อย) ไปในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต
    เมื่อพลอากาศเอกเกษม อยู่สุข ถึงยังพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ขึ้นไปยังห้องพระชั้น 3  วางพวงมาลัย จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูป และอัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากรประดิษฐานบนรถยนต์พระประเทียบไปยังพลับพลาพิธี ณ พระลานพระราชวังดุสิต เมื่อรถยนต์พระประเทียบถึงพระลานพระราชวังดุสิต พลอากาศเอกเกษม อยู่สุข อัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร  ให้นายทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์อัญเชิญขึ้นพระราชยาน โดยพลอากาศเอกเกษม อยู่สุข  เข้าริ้วขบวนพระราชยานอัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากรไปยังพลับพลาพิธี ณ พระลานพระราชวังดุสิต
    ต่อมาเวลา 17.42 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายเกษม  วัฒนชัย องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต
    เมื่อนายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี เดินทางมาถึงยังพระลานพระราชวังดุสิต ได้วางพวงมาลัยและจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วเข้าพลับพลาพิธี จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี แล้วเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก ประธานสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ 207 รูปสวดมาติกา จบแล้วผู้แทนพระองค์ทอดผ้าไตรที่อาสน์สงฆ์แถวหน้า 10 รูป 
    นอกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทอดผ้าไตรจนครบ 207  รูป พระสงฆ์ 207 รูปสดับปกรณ์ ผู้แทนพระองค์กรวดน้ำ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ 207 รูปเจริญพระพุทธมนต์ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระสยามเทวาธิราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และประชาชน ณ พระลานพระราชวังดุสิตและในต่างจังหวัดสวดมนต์พร้อมกัน จบแล้วผู้แทนพระองค์ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 10 รูป นอกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์จนครบ 207 รูป ผู้แทนพระองค์กรวดน้ำ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ผู้แทนพระองค์กราบที่หน้าเครื่องนมัสการ กราบที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์และพระฉายาลักษณ์ แสดงความเคารพราชอาสน์ ผู้แทนพระองค์เดินออกจากพลับพลาพิธีไปยังรถยนต์ประเทียบ ขึ้นรถยนต์ประเทียบแล้วเดินทางกลับ 
    จากนั้นพลอากาศเอกเกษม อยู่สุข กราบราบพระพุทธมณีรัตนปฏิมากรที่โต๊ะหมู่บูชา นายทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์อัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากรขึ้นพระราชยาน พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ผู้ร่วมในพิธียืนพนมมือส่งพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร และเดินนำขบวนพระราชยานอัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากรออกจากพลับพลาพิธีกลับไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
     พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกตน้อย เป็นพระพุทธรูปศิลปะรัตนโกสินทร์ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร ขนาดหน้าตักกว้าง 23.40 เซนติเมตร องค์พระสูง 36.80 เซนติเมตร สร้างจากหยกสีเขียวเข้ม ประภามณฑลและฐานเป็นไม้จำหลักปิดทอง ตามประวัติกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า พระราชวังดุสิตเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ สมควรจะมีพระพุทธรูปเพื่อทรงสักการบูชา เป็นเครื่องเชิดชูพระเกียรติคุณ จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้หาแก้วมรกตขนาดใหญ่ พร้อมช่างฝีมือดีเพื่อสร้างพระพุทธรูป สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงเสาะหาหินหยกสีเขียวได้ในรัสเซีย และโปรดให้นายปีเตอร์ คาร์ล ฟาแบร์เช  เจ้าของร้านทองประจำราชสำนักรัสเซียเป็นผู้สร้าง จนแล้วเสร็จเมื่อปี 2457 จึงอัญเชิญพระพุทธรูปจากประเทศรัสเซียมายังประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร หรือเรียกกันอย่างย่อว่า พระแก้วมรกตน้อย 
    บรรยากาศ ณ พระลานพระราชวังดุสิต มีประชาชนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาวและสวมเสื้อสีเหลืองมาร่วมสวดมนต์ในพิธีมหามงคลอย่างเนืองแน่น เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักของแผ่นดิน
     น.ส.กัญญาณี สืบชุมภู อายุ 64 ปี เดินทางมาจากบ้านพักย่านเขตสวนหลวง กล่าวว่าเดินทางมาถึงพระลานพระราชวังดุสิตเวลา 15.30 น.เพื่อร่วมพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ สมเด็จย่า และถวายพระพรชัยมงคลพระราชินีในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนเริ่มพิธีได้นำพวงมาลัยดอกไม้สดถวายพ่อหลวง รัชกาลที่ 5 ก่อนนั่งรอพิธีพร้อมกับเพื่อนอีก 4  คน ตนมาร่วมสวดมนต์เป็นครั้งที่ 2 ตั้งใจมานมัสการพระแก้วมรกตน้อย และสวดถวายพระราชกุศลในโอกาสครบ 2 ปีในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาได้ทำบุญตักบาตรที่วัดใกล้บ้าน จากนั้นเดินทางมาร่วมกิจกรรมจุดเทียนรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9 ณ ท้องสนามหลวง รู้สึกพระองค์ยังอยู่ ไม่จากไปไหน 
     น.ส.จินตนา กูลวิริยะ ครูโรงเรียนพระดาบส นำนักเรียนหลักสูตรเคหะบริบาลจำนวน 18 คนมาร่วมกิจกรรมสวดมนต์ กล่าวว่าตั้งใจพานักเรียนมาร่วมกิจกรรมนี้เพื่อรับรู้พระมหากรุณาธิคุณที่พระมหากษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไว้ให้คนไทย ในหลวง ร.9 ทรงก่อตั้งโรงเรียนพระดาบสเพื่อให้เด็กด้อยโอกาสเข้าถึงการศึกษาเมื่อปี 2549 ทรงเล็งเห็นว่าสังคมไทยขาดคนดูแลเด็กและผู้สูงอายุ พระราชทานแนวพระราชดำริตั้งหลักสูตรเคหะบริบาล นำมาสู่การสร้างคนดูแลผู้สูงวัยอย่างต่อเนื่อง 10 ปีให้หลังไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น แม้เสด็จสวรรคตแต่ครูและนักเรียนจะสืบสานพระราชปณิธานในหลวง ร.9 และในหลวง ร.10 อุทิศตนทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมและทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"