สยาม...เมืองไม่เห็นยิ้ม


เพิ่มเพื่อน    

      หลุดเข้าไปในโลกล้ำยุค ณ สถานที่ที่เรียกว่า "สยามสแควร์" มนุษย์ป้าก็ต้องมึนๆ อึนๆ อยู่พักใหญ่ กว่าจะเดินถึงจุดเป้าหมายที่มีนัดไว้กับเพื่อนฝูงวัยใกล้เกษียณ

      ถามว่า ...อายุปูนนี้แล้ว ทำไม?? ไปนัดกินข้าวกันที่สยามล่ะ ไม่รู้หรืออย่างไรว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมของวัยรุ่น เยาวชน อนาคตของชาติ หาใช่สถานที่ของคน 50 หรือ 60 up จะไปเดินเฉียดใกล้หรือโชว์สังขารเลยนะ???

      คำตอบมีอยู่แล้วอย่างลงตัวและมีเหตุมีผลคือ สถานที่ไหนที่มีรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินผ่านนั้น เป็นการนัดหมายที่คนในยุคนี้นิยมชมชอบที่สุด ถึงแม้ว่าบรรยากาศจะไปไม่ได้กับประชาชนคนชราก็ตามที

        เอาล่ะสิ กว่าจะหาตึกที่นัดพบเจอ มนุษย์ป้าก็ต้องใช้ปากถามทางกับเด็กตัวเล็กตัวน้อยถึง 3 คน 3 ถนน เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเจอตึกแล้วก็ต้องเดินวนไปวนมา หาทางขึ้นบันไดเลื่อนไปแต่ละชั้นราวกับวิ่งเล่นในเขาวงกต ...เฮ้อ!! เล่นเอาเหนื่อย คอแห้งกันเลยทีเดียว

      ไม่แปลกใจหรอกนะกับทางเดินวกวน ที่ทางตึกหรือห้างตั้งใจออกแบบ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นทุกร้านค้าในนั้นมากที่สุด มิเช่นนั้น มุมอับ หรือมุมที่เดินไปไม่ถึง ร้านค้าต่างๆ ก็คงจะขายไม่ออกแน่นอน

      ที่สำคัญ เขาออกแบบให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายมั้ง!! และมีจุดเช็กอินแบบชิกๆ นั่นเอง เขาคงไม่คิดว่ามนุษย์ป้าที่ไหนจะมาเดินทอดน่องดูร้านค้าที่ล้วนแต่เพื่อวัยรุ่นอายุ 20 ต่ำลงหรอกนะ

      แต่ที่แปลกใจคือ ทำไมคนแถวสยามไม่ค่อยยิ้มกันสักเท่าไร???

      เป็นเพราะแต่ละคนเร่งรีบที่จะไปติวหนังสือ รีบร้อนที่จะไปดูคอนเสิร์ต หรือเกิดจากการสอนและสั่งของพ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้หลักผู้ใหญ่ว่า "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน" หรือเปล่าหนอ เพราะเวลาถูกมนุษย์ป้าเรียกถามว่า หนูจ๊ะ หนูจ๋า ...แต่ละคนหน้าตาดูไร้อารมณ์ความรู้สึกอย่างมาก ผิดจากป้าโดยสิ้นเชิงที่ยิ้มเข้าใส่ก่อนอ้าปากถาม ...อิอิ

      ก็เป็นธรรมดานะคะที่มนุษย์ป้าต้องถามเยอะถามแยะ ในเมื่อสยามตอนที่ป้ายังผูกคอซอง หรือใส่ชุดนักศึกษาโดดเรียนไปดูหนังนั้น หน้าตามันไม่อลังการแบบทุกวันนี้ แถมยังมีซอกนั้นซอยนี้ให้มึนงงไปเสียหมด ในขณะที่ร้านสุกี้โคคา ตามด้วยสุกี้แคนตัน หายหน้าหายตาไปแล้ว แม้แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวน่องไก่แสนอร่อยเพิงริมทางก็หายไป 

      ไปสยามวันนี้ เหมือนตัวเองหลุดเข้าไปเดินอยู่แถวโตเกียว มีคนมากมาย อาหารที่ขายก็ไม่ใช่ลูกชิ้นปิ้ง ไส้กรอกทอด แต่กลายเป็นภาษาฝรั่ง ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี นึกแล้วก็ตลกขำตัวเองไม่น้อย และต้องตั้งข้อสงสัยว่า ผู้ใหญ่ฝึกให้เด็กรู้จักระแวดระวังภัยจากคนแปลกหน้านั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว เพราะคนเราเดี๋ยวนี้ รู้หน้าไม่รู้ใจ แต่งตัวดีก็อาจจะมาไม่ดีก็ได้ 

        ทว่า...ในความระวังตัว ก็ไม่เห็นจะต้องทิ้งความเป็นไทยในเรื่องโอภาปราศรัย ยิ้มให้สมกับเป็นคนไทย..จริงไหมคะ

      พอป้าบอกขอบคุณนะคะหนู ขอบใจนะครับหนุ่ม..ส่งยิ้มตอบป้าหน่อยก็ไม่เห็นเสียหายนี่นา.

                                                              "ป้าเอง"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"