เลขาปปช.เต้นสอบผู้ช่วย เซ่นปมร้อนชักปืนขู่แท็กซี่


เพิ่มเพื่อน    

    วิจารณ์ยับหนุ่มใหญ่โชว์ดุ "ชักปืนขู่" ที่แท้มีตำแหน่งเป็นถึงผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. อ้างเห็นท่าไม่ดีกลัวคนขับแท็กซี่ทำร้าย จึงทำเพื่อป้องกันตัว ไม่คิดจะเหนี่ยวไก ขณะที่เลขาฯ ปราบโกงเต้น สั่งรายงานข้อเท็จจริงด่วน 
    ตลอดทั้งวันอังคารที่ผ่านมา มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางต่อคลิปเหตุการณ์ที่ชายวัยกลางคน   ลงจากรถฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ แล้วใช้ปืนจ่อไปที่ผู้ถ่ายคลิป  โดยเพจเฟซบุ๊ก @เฮียขับรถ โพสต์คลิปนี้พร้อมข้อความประกอบว่า "ชักปืน เล็งใส่ ฝากลุงไว้ในอ้อมใจสักคน เก่งจังเลยครับลุง ทะเบียนลุงก็ชัดอยู่นะ  หงายการ์ดอะไรดีน้า..." 
    พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย ผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง พูดถึงเหตุการณ์นี้ว่า เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบทะเบียนรถดังกล่าวแล้ว ขณะนี้รู้ตัวผู้ครอบครองรถ   ที่อยู่ที่บ้านพักและบุคคลที่อยู่ในคลิปดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ติดตามตัวไปที่บ้านพัก ได้รับแจ้งว่าไม่อยู่บ้าน และติดตามไปที่ทำงาน ก็ได้รับแจ้งว่าไม่ได้ไปทำงาน และเมื่อโทรศัพท์ไปยังมือถือก็ไม่รับสาย ขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะพยายามติดตามตัวมาสอบถามข้อมูลและแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าว แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี แต่พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใน 3 ข้อหา 
    ประกอบด้วย มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง, พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะฯ และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว โดยเจ้าพนักงานตำรวจสามารถดำเนินคดีได้ทันที ล่าสุด บุคคลดังกล่าวเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ทุ่งสองห้องแล้ว
    มีรายงานว่า บุคคลที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวทราบภายหลังคือ นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.  ต่อมานายพิเศษพร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง โดยหลบสื่อมวลชนเข้าทางด้านหลัง สน. พร้อมใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า
    พ.ต.ท.สุบรรณ อธิเศษ รองผู้กำกับฝ่ายสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า ชายในคลิปคือนายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. วันนี้มามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ซึ่งได้แจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371, 392 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ.2490 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  ซึ่งนายพิเศษไม่ขอให้การในชั้นนี้ และเดินทางกลับทันที 
    อย่างไรก็ตาม กำลังติดตามตัวคนขับรถแท็กซี่คู่กรณีมาสอบสวนถึงมูลเหตุจูงใจของเหตุการณ์ โดยคนขับแท็กซี่ไม่จำเป็นต้องแจ้งความ เพราะคดีนี้เป็นความผิดต่อรัฐ รัฐเป็นเจ้าทุกข์ สามารถดำเนินคดีกับนายพิเศษได้เลย
    ด้านนายพิเศษ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งทางโทรศัพท์ว่า วันเกิดเหตุมากับคุณป้าเพื่อทำธุระที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคาร B ใช้เส้นทางคลองประปา จากนั้นรถติดไฟแดง ก่อนทางเข้าอาคาร A พอสัญญาณไฟเป็นสีเขียว รถแท็กซี่คันที่ตามหลังขับปาดมาด้านหน้าก่อนเลี้ยวเข้าศูนย์ราชการฯ แล้วหยุดรถกะทันหัน ทำให้ตนบีบแตรเตือน 1 ครั้ง ก่อนจะขับรถแซงเพราะรีบไปทำธุระ แต่คนขับรถแท็กซี่ขับตามมาด้วยความเร็วและบีบแตรหลายครั้ง พร้อมเปิดไฟหน้ารถลักษณะไม่พอใจ พอจังหวะขึ้นลูกระนาดตนชะลอและหยุดรถเพื่อถามว่าขับรถตามมาทำไม ส่วนการถือปืนในลักษณะคล้ายข่มขู่โดยยกขึ้นมา อ้างว่าเห็นท่าไม่ดี กลัวคนขับแท็กซี่ทำร้าย จึงต้องการแสดงให้เห็นว่าเขามีอาวุธป้องกันตัว ไม่ได้คิดจะลั่นไก แค่ป้องกันให้หยุดการไล่ตามเท่านั้น จนมี รปภ.อาคาร A ในศูนย์ราชการฯ มาห้ามไว้ จากนั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ขับหายไป อยากให้สังคมเห็นคลิปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่คลิปที่ตัวชักปืนออกมาแล้วถูกปล่อยในโลกออนไลน์
    ทั้งนี้ เบื้องต้นมีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้อื่น ส่วนเรื่องการตรวจสอบอาวุธปืน ต้องรอหลังการไปตรวจค้นที่บ้านพัก หากพบเป็นปืนที่ไม่ได้รับอนุญาต จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มต่อไป
    ขณะที่นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า ได้เห็นคลิปในข่าวแล้ว และได้สั่งให้ นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รายงานข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวให้ส่งตรงมาที่ตนโดยด่วนที่สุด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"