ตามรอย '๑๓ หมูป่าท่องโลก'


เพิ่มเพื่อน    

    มีคนบอกว่า.........
    การเป็นพ่อหมูป่า นำลูกหมูป่า ๑๓ ตัวท่องโลกกว้างของผู้ว่าฯ พะเยา "ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร" ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
    เป็นการซ้อมงาน "ระดับรัฐมนตรี" ในอนาคต!
    ผมก็ว่า "เข้าท่า"
    ไม่ใช่เข้าท่า เพราะเห่อตามกระแส จากปฏิบัติการแม่ทัพบัญชาการช่วย ๑๓ หมูป่าออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน 
    ที่แม่สาย เชียงราย จนโด่งดังไปทั้งโลก เมื่อ ก.ค.๖๑ นั่นหรอก
    หากแต่ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ นอกจากถึงพร้อมทางวิชาการและปฏิบัติการด้วยวิสัยทัศน์แล้ว
    สังเกตว่า ใจท่านยังถึงพร้อมด้วยธรรมสำหรับผู้เป็นใหญ่ หรือธรรมที่ผู้ปกครองพึงมี
    คือ พรหมวิหาร ๔ "เมตตา-กรุณา-มุทิตา และอุเบกขา"
    ถ้าไม่มีธรรมข้อนี้ 
    หมูป่าทั้ง ๑๓ ตัว ไม่แน่จะมีชีวิตรอดจากถ้ำครั้งนั้น 
    และการเดินสายโชว์ตัวต่อชาวโลก ถ้าใจผู้ว่าฯ ขาด "มุทิตาธรรม" ต่อเด็กๆ แม้นิดเดียว
    ๑๓ หมูป่า ในต่างด้าว-ต่างเวที......
    จะมีมุทิตาจิตจากใคร ที่ไหนเป็นพลัง สร้างความมั่นใจ ไปตอบคำถามต่างๆ ในแต่ละเวที ที่เชิญไปปรากฏตัว ได้สมหน้า-สมตาประเทศ
    ฉะนั้น ไม่แปลก.........
    ถ้าวันใด-วันหนึ่งในอนาคต เห็นผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ต้องไปรับผิดชอบสังคมชาติในตำแหน่งบริหารทางราชการงานเมือง
    วัย ๕๗-๕๘ ของท่าน เรียกว่า รู้โลก รู้ชีวิต และรู้ตนเอง 
    ทั้งงานใหญ่-งานเล็ก ประสบการณ์หลอมให้ท่านเป็นทรัพยากรบุคคลตกผลึก
    "กำลังกิน-กำลังแกง" พอดี!
    พูดถึง ๑๓ หมูป่า ไม่น่าเชื่อ แค่ ๓ เดือน จากเหตุการณ์ติดถ้ำ
    เปลี่ยนทั้ง ๑๓ คนไปคนละคนเลยทีเดียว!
    เปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น ไม่ใช่ "เด็กหลังเขา" บ้านนอกอย่างตะก่อนแล้ว
    เป็นภาพพจน์อารยะ "เด็กไทย-คนไทย" มีธรรม มีวินัย มีใจกตัญญู
    นอบน้อมถ่อมตน กิริยามารยาทงาม มีความมั่นใจต่อการแสดงออก 
    ที่สำคัญ เป็นเด็กมีความรู้สึก-นึก-คิด ที่เรียกว่า "คิดดี-สำนึกดี" เด่นชัด
    ด้วยมนุษยชาติและสังคมชาติเมตตา จากเหตุการณ์หลอมให้เกิด หรือครอบครัวอบรมสั่งสอนให้เกิด ก็ใช่ทั้งนั้น
    และในใช่นั้น.........
    ก็ต้องรวมถึงว่า "พี่เลี้ยงดี" คือผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ช่วยอุ้มชูมิใช่ลูก ก็คือลูกนั่นแหละ
    หลายๆ คำถาม ที่พิธีกรในแต่ละเวทีถาม สังเกตว่า มีประเด็นหนึ่ง จะถามโค้ชเอกทุกเวที คือ
    "การอยู่รอดในถ้ำด้วยสมาธิจิต"!
    เด็กแค่นั้น ติดถ้ำนานกว่า ๑๐ วัน ในความมืดมิด ไม่เห็นเดือน ไม่เห็นตะวัน 
    ไม่มีอาหาร มีแต่หยดน้ำซอกหิน ไม่เห็นทางรอด หนาวเหน็บ อากาศหายใจเบาบาง ท้อแท้ สิ้นหวัง
    แต่สามารถประคองชีวิตอยู่ได้ ไม่สติแตกตายก่อน พวกเขาทำได้อย่างไรกัน?
    คนไทยส่วนหนึ่ง ให้น้ำหนักไปทางอภินิหารจากสิ่งลี้ลับ
    แต่ชาวโลกที่ติดตามเรื่องนี้.......
    มุ่งตรงทางสมาธิ ที่เรียก meditation
    ผมว่าตรงนี้ เป็นประเด็นที่ "สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ" น่าจะเสนอมหาเถรสมาคม 
    มุ่งเน้น เสริม........
    ให้วัดไทยแต่ละแห่งในต่างประเทศนิมนต์พระวิปัสสนาจารย์ ไปสอนการปฏิบัติสมาธิจิตให้คนต่างชาติ เพื่อให้ตรงวิถีและวิธี กว้างขวางขึ้น
    มอบหมายให้ทั้งฝ่ายคันถธุระและวิปัสสนาธุระ ร่วมกันจัด "หลักสูตร-หลักปฏิบัติ" ทางสมาธิ 
    พิมพ์เป็นภาษาต่างๆ สัก ๒-๓ ภาษา เผยแพร่เป็นธรรมทาน ให้ชนต่างชาติ สามารถนำไปศึกษา เพื่อฝึกด้วยตัวเองที่บ้านได้ด้วย
    แนวฝึกสมาธินั้น ควรเป็นไปในแนวเดียวกันก่อน
    ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความสับสนในระยะแรกๆ สำหรับชาวต่างชาติ ที่เพิ่งเข้ามาในเส้นทาง 
    ธรรมะ ไม่ใช่ พุทธ, คริสต์, อิสลาม, พราหมณ์, แขก     
    ธรรมะ คือธรรมชาติ ที่มีอยู่-เป็นอยู่ ทั่วไป
    ฉะนั้น อย่าเอาการทำสมาธิไป "ผูกติด-ผูกขาด" อยู่กับคำว่า "ศาสนาพุทธ"
    เพราะนั่น จะทำให้เกิดเงื่อนไขปิด บางคนไฟเผาไหม้แดงโร่ท่วมตัว 
    แต่ด้วย "โมหะปฏิเสธ" ทำให้ชีวิตพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
    "คนหลง" เป็นพุทธไม่ได้อยู่แล้ว
    ต้องคนตื่นแล้ว จึงจะเป็นได้ เพราะพุทธ แปลว่า ผู้รู้, ผู้ตื่น, ผู้เบิกบานในธรรม
    เวลานี้ วิถีชีวิตหลงของคนสังคมตะวันตก กำลังถึงทางตัน แต่ละคน ดิ้นหาทางออก
    บางส่วน พบแสงสว่างปลายอุโมงค์แล้ว คือการ "ฝึกสมาธิ"
    สมาธิ อย่างที่โค้ชเอก แนะให้น้องๆ หมูป่าทุกคนทำ ตอนติดถ้ำและรอดมาได้นั่นแหละ
    ถ้าไม่ใช้สมาธิช่วยให้รอดก่อนแล้ว
    "ทีมปฏิบัติการโลก" ช่วย ๑๓ หมูป่าออกจากถ้ำ ก็จะเป็นการช่วย "ลำเลียงศพ" ออกจากถ้ำเท่านั้น!
    นี้คือ ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่ใน "สมาธิธรรม" โดยตรง
    ถ้าหาวิปัสสนาจารย์สำนักไหนลงตัวกับงานนี้ไม่ได้ ผมว่า โน่นเลย........
    ไปกราบนมัสการ "หลวงพ่อวิริยังค์" วัดธรรมมงคล ที่พระโขนง โน่น 
    ขอเมตตาท่าน 
    ให้ท่านช่วยเปิด "ประเทศไทย" เป็นศูนย์กลางสอนการปฏิบัติสมาธิ ให้ชาวต่างประเทศโดยตรงอีกซักแผนก
    ตอนนี้ คนทั่วโลก รู้จักไทยในฐานะ ประเทศน่าอยู่-น่าเที่ยว อันดับต้นๆ ของโลก
    ก็ทำให้คนทั่วโลก รู้ทั่วไปอีกด้านเลยว่า นอกจากมีที่เที่ยวแล้ว 
    ไทยยังเป็นศูนย์กลางการสอน-การปฏิบัติ "สมาธิจิต" สำหรับมวลมนุษยชาติด้วย
    มีโอสถทิพย์ ยี่ห้อ meditate แจกฟรีให้ทุกคน ใช้แก้โรค "สังคมมะเร็ง" ได้ผลชะงัด
    หลงไปกับ "ข่าวลวง" เด็กได้คนละ ๓ ล้าน จากบริษัทสร้างภาพยนตร์กันไปพอสมควร
    ก็นี่แหละ ยุค "เทคโนโลยีสื่อสารครองโลก" ละ!
    เมื่อวาน ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ นำ ๑๓ หมูป่าพบนายกฯ ที่ทำเนียบฯ เคลียร์เรื่องนี้ไปแล้ว สรุป
    ไม่จริง ด้วยประการทั้งปวง!
    ยกประเด็นนี้มา ก็เจตนาบอกว่า ยังไงๆ เรื่อง ๑๓ หมูป่าติดถ้ำ ฝรั่งต้องนำไปทำหนังแน่
    ไม่ใช่เรื่องเดียว แต่ละช่วงเหตุการณ์ จะถูกนำไปสร้างเป็นหนังแต่ละเรื่อง จากแต่ละเหตุการณ์ไป รวมแล้ว น่าจะหลายเรื่อง 
    นั่นก็คือ เป็นภาพยนตร์ออกฉายเมื่อไหร่........
    แม่สาย เชียงราย จุดหมายปลายทาง "ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน" คนจะแห่กันมาคึ่กๆ
    โชคดี ที่บ้านเมืองเรา มีคนสำนึกดี อย่างอาจารย์ "เฉลิมชัย"
    ท่านสร้างศาลาหอศิลป์ "รูปปั้นจ่าแซม" ไว้ที่ลานหน้าถ้ำหลวงก่อนแล้ว ควักกระเป๋าเองเป็นสิบล้าน
    ตอนนี้ ถึงยังไม่เสร็จ........
    แต่ด้วยยี่ห้อเฉลิมชัย แปะลงไป ไม่มีอะไรที่ตั้งใจทำแล้ว จะไม่เสร็จ!
    ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ควรวางแผนรับมือแต่เนิ่นๆ คือ ปรึกษาหารือกับกระทรวงทรัพย์และจังหวัดเชียงราย จะเอากันยังไง? 
    ด้านท่องเที่ยวที่ "ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน"
    ทั้งในถ้ำ-นอกถ้ำ รวมถึงนักท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ที่จะแกะรอยเส้นทางโรยตัวลงไปช่วย ๑๓ หมูป่าตรงเนินนมสาวนั่นด้วย
    ความจริง "เชียงราย" เสน่ห์ธรรมชาติล้ำลึกชวนค้นหามีมากกว่าเชียงใหม่ 
    แถมเชียงราย "วันนี้ สดกว่า" เชียงใหม่!
    อนาคต กรณีถ้ำหลวง ยิ่งเป็นภาพยนตร์ออกฉาย คนจะมากันจนเชียงรายแตก
    ฉะนั้น วางแผนรองรับการท่องเที่ยว ไว้ให้พร้อมเถิด 
    ทั้งเส้นทางคมนาคม สถานที่พัก ตลาดสินค้า-ตลาดอาหารการกินพื้นบ้าน-พื้นเมือง 
    รวมถึงการ "รับสิ่งใหม่" ที่จะเกิดในพื้นที่กับคนถิ่น
    ลืมอะไรก็ลืมได้.....
    แต่อย่าลืมสร้าง "สำนักสอนการฝึกสมาธิ" ไว้บริเวณถ้ำหลวงด้วย!
    "ลำปาง-เชียงใหม่-ลำพูน-เชียงราย-พะเยา" ถ้าจัดเป็นกลุ่มเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมต่อกัน จะวิเศษมาก
    ต้องบอกว่า ในแต่ละจังหวัด แต่ละสถานที่ สัมผัสแล้วล้ำลึก มาครั้งเดียวไม่พอ
    การเมืองน่ะ "ของเทียม"
    ไม่ช่วยให้คนไทยอยู่รอดหรอก สนใจได้ แต่อย่าไปอินกะมันให้มากนัก
    บ้านเมือง ที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้เหล่านี้ตะหาก ทำให้คนไทยอยู่รอด ช่วยกันสนใจ รักษา เชิดชูไว้เถอะ 
    ท่องเที่ยว "มรดกไทย" นี่แหละ
    "ของจริง".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"