แจกวินมอเตอร์ไซค์ลดนํ้ามัน3บาท/ลิตร


เพิ่มเพื่อน    

  "หญิงหน่อย" ซัดบัตรคนจนหวังแค่คะแนนนิยม สุดท้ายซ้ำรอยบัตรอนาถา ปลัดกระทรวงพลังงานเผยธันวา.นี้จ่อเปิดตัวมาตรการค่าครองชีพวินมอเตอร์ไซค์ ลดราคาน้ำมัน 3 บาท/ลิตร นักวิชาการชี้ไม่มีใครเข้าไปนั่งในใจคนได้เท่าโครงการประชานิยมของ "ทักษิณ" 

    ภายหลังมีประเด็นตอบโต้ระหว่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กรณีบัตรคนจน ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
    "ประเด็นที่ได้แสดงความห่วงใยและท้วงติงคือ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ซึ่งถูกเรียกกันอย่างแพร่หลายว่า "บัตรคนจน" รักษาฟรี ทั้งที่ประชาชนได้รับสิทธิ์การรักษาฟรีอยู่แล้ว ตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ให้สิทธิคนไทยทุกคนได้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพดีทัดเทียมกัน โดยไม่แบ่งแยกว่าคนผู้นั้นจะมีฐานะยากจนแค่ไหน ก็ต้องมีสิทธิ์ได้รับการรักษาพยาบาลในมาตรฐานเดียวกันกับคนอื่น
    แต่จากมติ ครม.นี้ ดิฉันเกรงว่าจะทำให้เกิดผลเสีย เพราะเป็นการแยกคนที่ขึ้นทะเบียนคนจนจำนวน 11.4 ล้าน ที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการรักษาฟรีออกมา  ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 ที่คน "ยากจน" ต้องใช้ "บัตรอนาถา" ในการรักษาฟรี ทำให้ได้คุณภาพการรักษาที่ไม่ทัดเทียมกัน ซึ่งปัญหานี้ได้ถูกแก้ไข เมื่อมีโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเข้ารับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพทัดเทียมกัน จึงได้เรียกว่า "บัตรทอง" 
    แล้วทำไมเราต้องทำย้อนยุค วนกลับไปเจอปัญหาเดิมอีก ทั้งที่การทำงานน่าจะมี แต่ต้องพัฒนาไปข้างหน้าให้ดีขึ้น เลยทำให้ไม่เข้าใจว่า มตินี้ออกมาเพื่ออะไร หรือต้องการเพิ่มสิทธิของบัตรคนจน เพื่อหวังในคะแนนนิยมเท่านั้น โดยไม่เข้าใจว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไร เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ว่าเราไม่ควรจะทำการเมืองแบบเก่าๆ กันอีกแล้ว ดังนั้นจึงหวังว่า ท่านผู้มีอำนาจทั้งสองจะเปิดใจรับ "ฟัง" ความห่วงใยต่อคุณภาพการรักษาพยาบาลของประชาชนบ้าง ถ้ารับฟังและศึกษาข้อมูลให้ดี ท่านจะเห็นปัญหาที่จะต้องแก้ไข ที่มิใช่แก้ แค่การ "สั่ง" เปลี่ยนชื่อบัตรเท่านั้น
    ส่วนเรื่องชื่อ "บัตรคนจน"  ดิฉันมั่นใจว่าไม่ได้เรียกอยู่คนเดียว ถ้ารองนายกฯ สมคิดให้ทีมงานทำการบ้านเปิดข่าว online หรือตามสื่อต่างๆ ให้ท่านดู ท่านก็จะทราบความจริงว่าใครๆ เขาก็เรียกบัตรของท่านว่า "บัตรคนจน" มานานแล้ว
    เรามั่นใจว่าเรามีวิธีที่จะสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนโดยตรง แบบไม่ใช่ให้แค่ผ่านมือคนจนไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น"
    วันเดียวกันนี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพประชาชนให้กับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง (วิน) ที่ถือบัตรสวัสดิการประชารัฐให้ได้รับส่วนลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ในอัตรา 3 บาทต่อลิตร คิดเป็น 450 บาทต่อเดือนต่อคัน วงเงินช่วยเหลือประมาณ 540 ล้านบาทต่อปีว่า เดือน ธ.ค.นี้กระทรวงจะเปิดตัวโครงการเพื่อเริ่มให้ความช่วยเหลือผู้ขี่วินมอเตอร์ไซค์ ดังนั้นในเดือน ต.ค.นี้ จะเร่งทำข้อมูลวินมอเตอร์ไซค์ที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก และถือบัตรสวัสดิการประชารัฐกับกรมบัญชีกลาง เพื่อนำข้อมูลมาประสานกัน จากนั้นในเดือน พ.ย.จะทำการประชาสัมพันธ์รับสมัครผู้ค้ามาตรา 7 ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ
    นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้ข้อมูลจากจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีแวต) ที่ผู้มีรายได้น้อยได้ชำระว่า ได้ขยายวันปิดรับสมัครร้านธงฟ้าประชารัฐกลุ่มเป้าหมายเพื่อเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 26 ต.ค. จากเดิมคือวันที่ 15 ต.ค.2561 สำหรับร้านค้าที่มีที่ตั้งในเขตพื้นที่ กทม. สมัครได้ที่กรมบัญชีกลาง ส่วนในต่างจังหวัด สมัครได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
    ทั้งนี้ ปัจจุบันมีร้านธงฟ้าประชารัฐกว่า 1,300 ร้านค้า สมัครเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวแล้ว จากร้านธงฟ้าประชารัฐกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 3,000 ร้านค้า โดยกรมบัญชีกลางได้ส่งข้อมูลร้านค้าให้ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เตรียมติดตั้งอุปกรณ์เครื่องบันทึกการเก็บเงิน (Point of Sale : POS) แล้ว
     รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล เป็นเรื่องที่รัฐบาลควรขับเคลื่อนก่อนการเลือกตั้ง เพราะนโยบายนี้มันมีส่วนได้ส่วนเสียกับการเมือง ยิ่งรัฐมนตรีหลายคนได้ประกาศตัวจะเล่นการเมือง แม้ในทางกฎหมายและทางการเมืองสามารถทำได้ก็จริง แต่คงหนีไม่พ้นการวิพากษ์วิจารณ์ในการขับเคลื่อนนโยบายนี้เพราะรัฐมนตรีเหล่านั้นมีเกี่ยวข้องกับการร่วมขับเคลื่อนนโยบายด้วย
    "เชื่อว่าคนรู้จักโครงการไทยนิยมฯ แต่จะไม่สามารถที่จะเข้าไปนั่งในใจคนได้เท่าโครงการประชานิยมของนายทักษิณ เพราะนายทักษิณถือเป็นคนแรกที่ทำโครงการลักษณะนี้ และในรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจุดเชื่อมต่อลงสู่ประชาชนต้องใช้กลไกของรัฐ ซึ่งเป็นระบบราชการที่การเชื่อมต่อที่จะใกล้ชิดกับประชาชนนั้น จึงจะเป็นไปได้ยาก อีกทั้งจะมีการเปรียบเทียบโครงการได้ เพราะรัฐบาลเหมือนจะไปยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งประชาชนไม่เห็นด้วยแน่ ดังนั้นการที่รัฐบาลชุดนี้อยากจะเข้าไปนั่งในใจประชาชน แทนที่จะใช้วิธีการยกเลิกของเก่าแล้วทำของใหม่ มองว่าเอาของเก่ามาเพิ่มออปชั่นจะดีกว่า" รศ.ดร.ยุทธพรกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"