แห่ชิงเสียงพื้นที่ใต้สุดคึก นิพิฏฐ์ยืดอกตายบ้านเกิด


เพิ่มเพื่อน    


    3 แคนดิเดตหัวหน้า ปชป.หาเสียงภาคใต้    "มาร์ค" อ้อนคนเมืองคอน ลั่นนำพรรคเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาปากท้อง "หมอวรงค์" ลุยโรงงานปาล์มน้ำมัน โอ่เป็นนายกฯ ราคาดีขึ้นใน 3 เดือน "อลงกรณ์" ชูยุทธศาสตร์ภาคใต้ยุคใหม่ "นิพิฏฐ์" ลั่นถึงแพ้ซ้ำซาก แต่เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน 
    เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 11.00 น. ที่บ้านพักนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ บ้านคลองกุย อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 1 พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช, นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาพบปะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ, นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช  และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในภาคใต้หลายคน พร้อมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่เกือบ 5,000 คนมาต้อนรับ
    โดยนายอภิสิทธิ์ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยกับสมาชิกพรรคว่า ต้องการให้ประชาชนเจ้าของพรรคตัวจริงเป็นคนเลือก เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดในเมืองไทย และมีจุดยืนในแนวทางประชาธิปไตย จึงต้องทำอะไรที่ใหม่ๆ ให้เป็นตัวอย่าง ส่วนหลายพรรคการเมืองกลับมองว่าเป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น เพราะฉวยโอกาสในการหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ไปในตัว ยืนยันว่ารูปแบบการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเช่นนี้ ตนและพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ พรรคการเมืองใดจะใช้วิธีแบบเดียวกันนี้ก็สามารถทำได้ เราเลือกหัวหน้าพรรคโดยให้ประชาชนเจ้าของพรรคตัวจริงมีส่วนร่วม ไม่ได้แค่ไปพบสอบถามที่ฮ่องกงว่าจะให้ใครเป็นหัวหน้าพรรคเหมือนบางพรรคการเมือง
    อย่างไรก็ตาม การปฏิวัติยึดอำนาจที่บอกว่าจะเข้ามาเพื่อปฏิรูปปรับปรุงในหลายๆ ด้าน แต่ผ่านมากว่า 4 ปี แทบไม่มีอะไรจับต้องได้เลยว่ามีอะไรที่ได้รับการปฏิรูปบ้าง บ้านเมืองย่ำแย่ เพราะเขาไม่เข้าใจในรูปแบบการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ยอมรับว่ารัฐบาลนี้ก็พยายามหลายอย่างที่จะทำเพื่อให้ผลดีต่อประชาชน แต่เขาทำไม่ได้ เพราะเขาไม่เข้าใจ ไม่เคยสัมผัสประชาชนอย่างแท้จริง เพราะไม่มีตัวแทนที่ใกล้ชิดประชาชนเหมือน ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชน ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการเลือกตั้ง ซึ่งประชาชนเชื่อว่าชีวิตความเป็นอยู่จะดีขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน
    "มั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเจ้าของพรรคประชาธิปัตย์ตัวจริงกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกสมัย ส่วนจุดยืนในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศที่จะมีขึ้นในเดือน ก.พ.2562 นั้น เห็นว่ารัฐบาลบริหารประเทศจะต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ไม่ยอมรับรัฐบาลโกงเหมือนที่เคยมีมา ถึงจะเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง แต่เข้ามาโกงเราไม่ยอมรับแน่นอน" นายอภิสิทธิ์ระบุ
    ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 2 พร้อมด้วยนายถาวร เสนเนียม, นายวิทยา แก้วภราดัย  ได้เดินทางไปโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ป.พานิชรุ่งเรือง ปาล์มออยล์ ม. 5 ต.ทับปริก อ.เมืองฯ จ.กระบี่ เพื่อพบปะกลุ่มผู้สนับสนุน และรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่  โดยมีนายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่   ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้าน ในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ และใกล้เคียงประมาณ 200 คนให้การต้อนรับ  
    นพ.วรงค์กล่าวว่า เดินทางมาครั้งนี้เพื่อแนะนำตัว และรับฟังปัญหาด้านต่างๆ เพื่อกำหนดนโยบายหาแนวทางแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาสินค้าการเกษตร  ยางพาราและปาล์มน้ำมันที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญ    และการที่ตนอาสาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ เพราะมั่นใจว่าสามารถที่จะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างแน่นอน และหากได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะเร่งแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะปัญหาสินค้าการเกษตรตกต่ำ  เช่น ยางพาราและปาล์มน้ำมัน จะต้องดีขึ้นภายในระยะเวลา 3 เดือน และยินดีต้อนรับทุกพรรคผู้ที่จะมาร่วมรัฐบาล แต่จะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ คือ ต้องไม่โกง ต้องเคารพกฎหมาย ไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบ และข้อสำคัญมีความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์  
    “หากจะเปรียบเทียบผมกับอดีตนายกฯ ทักษิณนั้น   ผมไม่เป็นรองแน่นอน ที่สำคัญมีความสดกว่า มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบ และที่สำคัญผมจงรักภักดี” นพ.วรงค์ระบุ
    ที่โรงแรมเอเชี่ยน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา   นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 3  ได้แถลงจุดยืนทางการเมือง โดยมีประชาชนชาวหาดใหญ่กว่า 100 คนให้การต้อนรับว่า หากสมาชิกพรรคสนับสนุนตนเป็นหัวหน้า จะนำประชาธิปัตย์สู่ชัยชนะที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการยกระดับอัพเกรดภาคใต้สู่ยุคใหม่ จะเป็นการสานงานต่อ ก่องานใหม่จากหัวหน้าพรรค, ส.ส.พรรค สาขาพรรค และสมาชิกพรรค ที่ร่วมกับทุกภาคส่วนพัฒนาภาคใต้ก้าวหน้ามาถึงวันนี้ ไม่ว่ายามเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
    โดยมี 5 เป้าหมาย 6 นโยบาย ดังนี้ 5 เป้าหมายภาคใต้ยุคใหม่ คือ 1.ศูนย์กลางเส้นทางการค้าของโลก 2.Gateway อาเซียนใต้และแปซิฟิกใต้ 3.เขตพิเศษฐานเศรษฐกิจใหม่ยาง/น้ำมันปาล์ม/ผลไม้/ประมง 4.ฮับท่องเที่ยวและไซเบอร์ของอาเซียน และ 5.ยกระดับรายได้ประชาชนคนใต้ เท่าตัวภายในไม่เกิน 6 ปี (10,000 เหรียญ per capita)
    ส่วน 6 นโยบายขับเคลื่อน คือ 1.ยุทธศาสตร์คลองไทยคลองโลก โครงการแห่งอนาคต International Trade Lane และ SEZ (Global Southern Economic Corridor : GSEC : จีเซค) 2.นโยบาย 100 ท่าเรือ 2 ทะเล 2 อ่าว (อ่าวไทย-อ่าวเบงกอล) 3.นโยบายโลจิสติกส์การบินและไซเบอร์ ฮับ ศูนย์กลางการบิน/ไซเบอร์ ใต้บน-ใต้กลาง-ใต้ล่าง เชื่อมไทย-เชื่อมโลก 4.นโยบายทางด่วนพิเศษ South Spider ทางรางทางบก 5.นโยบายลิมอดาซา 555 ร่วมมือ 5 จังหวัด 5 รัฐ 5 สาขา เปลี่ยนบังเกอร์เป็นเคาน์เตอร์ และ 6.นโยบายเขตพิเศษฐานเศรษฐกิจใหม่เกษตรอุตสาหกรรมยางพารา ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ ประมง ท่องเที่ยว ด้วยการบริหารแนวใหม่และองค์กรบริหารรูปแบบใหม่ทันสมัยโปร่งใสศักยภาพสูง
    วันเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “แพ้ซ้ำซาก” ว่า มีหลายคนท้อแท้ อับอาย ว่าประชาธิปัตย์มีจุดอ่อนที่แพ้ซ้ำซาก บางคนถึงกับคิดจะตีจากไปอยู่กับผู้ชนะ ตนไม่มีความเห็นเรื่องการตีจาก แต่ขอให้พิจารณาความพ่ายแพ้ของพรรค กับการรักษาอุดมการณ์ของพรรค ว่า หากเรายังรักษาอุดมการณ์ทั้ง 10 ข้อในการก่อตั้งพรรคไว้ได้ แม้เราจะพ่ายแพ้ ก็ถือว่าเรายังไม่ทรยศต่ออุดมการณ์ หากเราชนะแต่ละทิ้งอุดมการณ์เราก็หาได้ชื่อว่าประชาธิปัตย์ไม่ 
    "หากเปรียบประเทศนี้เป็นรถยนต์ มีผู้โดยสารเต็มรถ  ผู้ชนะได้เป็นรัฐบาลก็เหมือนกับคนขับรถที่ถือพวงมาลัยและเหยียบคันเร่งนำรถไปข้างหน้า เราผู้พ่ายแพ้ก็เหมือนเป็นเบรกรถ คอยแตะในจังหวะที่คอยชะลอหรือหยุดรถในจังหวะที่ควรหยุด 10 ปีที่ผ่านมาคนขับรถคันนี้ขับอย่างเมามัน ใช้ทรัพยากรอย่างสุรุ่ยสุร่าย เห็นได้ว่ารถคันนี้กำลังจะนำผู้โดยสารไปตกเหวเราก็แตะเบรก และหยุดรถ ไม่ให้ผู้โดยสารได้รับอันตราย เราก็ภูมิใจในการทำหน้าที่เพื่อให้ประเทศนี้ปลอดภัย ผมจึงไม่อับอาย ไม่เย้ยหยันพรรคในความพ่ายแพ้ที่ผ่านมา แต่คิดว่าจะใช้เป็นพลัง เป็นบทเรียน เพื่อปรับปรุงให้พรรคกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง คนของเราไม่ติดคุกด้วยการทุจริต คนของเราไม่ถูกริบทรัพย์เป็นของแผ่นดิน คนของเรายังหายใจสบายในแผ่นดินแม่ไม่ต้องลี้ภัยไปตายต่างประเทศ เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน นั่นคือจุดแข็งของเราประชาธิปัตย์มิใช่หรือ" นายนิพิฏฐ์ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"