22 ต.ค.61 - นางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสตเเรื่อง "ทัศนคติ ‘นายพลกองทัพไทย’ ต่อการรัฐประหารและการเมือง"ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ระว่า "ทำไม ‘นายพลไทย’ จึงคิดว่าชอบธรรมในการทำรัฐประหารอันเนื่องมาจากการเมืองทำให้จลาจล!!!

ทัศนคตินี้ดูเป็นเอกภาพในหมู่ ‘นายพล’ กองทัพไทย นอกจากคิดว่าชอบธรรมในการทำรัฐประหารแล้วยังคิดว่าเป็นเรื่องเสียสละอีกด้วย เป็นการอุทิศตนเพื่อพิทักษ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กลายเป็นว่าการทำรัฐประหารเป็นเกียรติยศของผบ.ทบ.นั้น ๆ

น่าแปลกว่า ‘นายพล’ ผบ.เหล่าทัพเหล่านี้มีทัศนคติแบบเดียวกัน หรือเพราะเป็นเช่นนี้...จึงได้เป็นผบ.เหล่าทัพ

บางคนพูดถึงคำว่า ‘ทหารอาชีพ’ แล้วไม่เรียนรู้อะไรเลยหรือว่านิยาม ‘ทหารอาชีพ’ คืออะไร?

เข้าใจการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างไร?

ไม่ได้เรียนรู้ว่า ‘ทหารอาชีพ’ ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยในอารยประเทศเขาไม่มีการทำรัฐประหารกันและต้องขึ้นต่อรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง

หรือนี่เป็นมรดกที่สร้างไว้จากนายทหารรุ่นเก่าที่ทำรัฐประหารสำเร็จมากว่า 12 ครั้งแล้ว

น่าแปลกใจที่ระบบการศึกษาของนายทหารเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนบทเรียนของผู้ทำรัฐประหารอย่างรอบด้าน และผลการทำรัฐประหารแต่ละครั้งนั้นประวัติศาสตร์การเมืองไทยบันทึกไว้อย่างไร?

หรือจะเป็นความผิดของตำราเรียนทั้งประถม-มัธยม-อุดมศึกษาและโรงเรียนนายร้อยจปร. ที่ไม่กล้าบันทึกการต่อสู้ของประชาชนในการต่อต้านการสืบทอดอำนาจการทำรัฐประหารจริง ๆ การเรียนรู้ในระบบก็ถูกหลักสูตรและตำราเรียนแบบอนุรักษ์นิยมอำนาจนิยมครอบงำ ไม่ให้ค่าอำนาจและการต่อสู้ของประชาชน โดยเฉพาะโรงเรียนนายร้อยจปร. ซึ่งต้องมีหลักสูตรการเมือง การทหาร ความมั่นคงภายในภายใต้ระบอบประชาธิปไตยจริงจัง เพราะบันทึกประวัติศาสตร์แบบอนุรักษ์นิยมและอำนาจนิยม ทำให้ผู้ทำรัฐประหารเป็นฮีโร่ เช่น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทั้ง ๆ ที่ประชาชนทั่วไปในระบอบประชาธิปไตยถือว่าเป็น ‘’’เผด็จการ’ ตัวพ่อของประเทศ และคำว่า ‘เผด็จการ’ ก็คือปฏิปักษ์กับการเมืองและประชาชนในระบอบประชาธิปไตย

ทัศนคติของ ‘นายพล’ เหล่านี้ ลองคิดดูว่าเกิดจากอะไร???

- การศึกษาในระบบ ตั้งแต่ชั้นประถมถึงโรงเรียนนายร้อยจปร.ถูกครอบงำด้วยแนวคิดอนุรักษ์นิยมและอำนาจนิยม ไม่เห็นหัวประชาชนชั้นล่าง
- การหล่อหลอมจากครอบครัวและสังคมใกล้ชิด เป็นแนวคิดอนุรักษ์นิยมอีกชนิดที่ไม่สนใจและไม่ยอมรับระบอบประชาธิปไตย

ไม่ได้รับผลกระทบและไม่มีการศึกษาการเมืองการทหารในระบอบเสรีประชาธิปไตยที่กองทัพต้องขึ้นต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์

สุดท้าย...อดสงสัยไม่ได้ว่าการใช้ชีวิตของ ‘นายพล’ กองทัพไทยนั้นมีเป้าหมายและการใช้ชีวิตอย่างไร?

ถ้ามุ่งสู่ลาภยศตำแหน่งก็ต้องใช้วิธีการเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น คือเข้าสู่ระบบอุปถัมภ์และขั้นตอนที่จะเข้าสู่เครือข่ายอำนาจ จึงใช้กระบวนการอุปถัมภ์ทางการเมืองในและนอกระบอบประชาธิปไตย ซึ่งห่างไกลจากคำว่า ‘ทหารอาชีพ’

แม้ว่าการทำรัฐประหารสำเร็จ ถ้าสนใจองค์ความรู้ก็จะรู้ว่า ‘เผด็จการทหาร’’’ และความพยายามสืบทอดอำนาจจะถูกบันทึกประวัติศาสตร์อย่างไร?

แค่อ่านหนังสือให้มากสักหน่อย 
แค่สัมผัสพูดคุยกับคนในวงการอื่นและประชาชนให้มากสักหน่อย

ก็คงไม่เห็นว่าการทำรัฐประหารแล้วมันดีตรงไหน 
ใครทำย่อมไม่ใช่ฮีโร่แน่นอน!!!

ระวัง!!! อย่าให้ผลการตรวจสอบ ‘นายพลจีน’ 2 คน ที่ถูกลงโทษจากจีนมาถึง ‘นายพล’ ประเทศไทย จะลำบากกว่าเรื่องนาฬิกาแน่ ๆ