สังคมเสพติด...โซเชียล


เพิ่มเพื่อน    

       มองเห็นเป็นคนแก่คนหนึ่งที่หันมาใส่ใจวิวัฒนาการของสมาร์ทโฟน หรือเทคโนโลยียุคดิจิทัล แล้วหัดใช้สื่อโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือไลน์ ในการสื่อสารกับคนอื่นๆ จนสามารถมีแฟนคลับ หรือเพื่อนฝูงเป็นจำนวนมาก ช่วยเปิดโลกทัศน์ต่างๆ ที่เคยจำกัดภายในบ้าน หรือพื้นที่ที่เคยทำงาน...ก็จะไม่รู้สึกเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต!!! จริงไหมคะ???

       ก็อะไรกันนักกันหนาหนอ กับอีแค่  "บิ๊กตู่" หรือ "ลุงตู่" เปิดเว็บเพจของตัวเอง ในเมื่อตอนนี้สังคมโลกนั้นติดโซเชียลกันหนึบหนับ ติดมากติดน้อย ติดพอประมาณ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการของแต่ละบุคคลเท่านั้นเอง

       ถ้าคนระดับผู้นำไม่รู้จักโซเชียลมีเดีย หรือไม่คิดที่จะใช้เครื่องมือนี้ให้เป็นประโยชน์ ...อันนี้สิจึงถือเป็นเรื่องต้องวิเคราะห์วิจารณ์ ว่า เป็นกบอยู่ในกะลา ไม่สมควรแก่การเป็นผู้บริหารบ้านเมืองในยุคที่ตัวเองพยายามอวดอ้างขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ..จริงไหมล่ะ

        เพราะระดับมนุษย์ป้าเอง เดี๋ยวนี้คิดอะไรไม่ออกก็หยิบมือถือมากดถาม หาทางไม่เจอก็กรอกมันเข้าไปบนมือถือ เดี๋ยวมันก็จะพาเราไปถึงจุดหมายได้ ช้าบ้างเร็วบ้าง แต่เชื่อได้ว่าไม่มีหลง อยากรู้ความหมายของภาษาต่างด้าวที่เราสับสนๆ ก็สามารถแจ่มแจ้งได้แค่คลิกนิ้วเดียว

       ประโยชน์ของมันบานตะไท สมเป็นสมาร์ทโฟน  แต่มันก็มีโทษอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะ นั่นคือ ถ้าเราฝากความหวังไว้กับมันมาก เหมือนโลกทั้งใบอยู่ในไอโฟนเครื่องเดียวนี่แหละ เพราะมันหายหรือลืมมันไว้ตรงไหนสักแห่งเท่านั้นเอง...เหมือนโลกจะแตกถล่มทลาย กินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดอะไรไม่ออก บอกอะไรไม่ถูก นอกจากตะโกนมือถือชั้นหายๆ

       อาการแบบนี้ไม่ได้มีแต่ในสังคมไทยแน่นอน เพราะเมื่อวันก่อน เด็กดูแลอาม่าที่บ้าน ขออนุญาตให้ลูกชายและลูกสาวมาหาที่บ้านของมนุษย์ป้า แล้วภาพที่ได้พบเห็นคือ 3 คนแม่และลูกทักทายกันเล็กน้อย จากนั้นต่างคนต่างก็นั่งเล่นมือถือกัน เหมือนแค่มานั่งรวมกันเล่นมือถือแล้วแสนอบอุ่นใจ...ยังไงชอบกลอยู่ ทั้งๆ ที่ลูกสาวและลูกชายนั้นเดินทางมาจากเวียดนามเชียวนา ...555

       นี่ดูเหมือนเป็นโหมดชีวิตปกติของคนทั่วโลกในยุคดิจิทัลแล้ว และการไม่เล่นมือถือเวลาอยู่ตามที่สาธารณะอาจจะถือเป็นเรื่องผิดปกติเสียอีกต่างหาก

       ไม่เชื่อก็ลองดูนะคะ คราวหน้าคราวหลังนัดเพื่อนฝูงไปนั่งกินข้าว โดยบอกกติกาว่า ให้เอามือถือทุกคนมารวมกัน เพื่อจะไม่ให้สมาธิไปอยู่กันที่มือถือ และให้ทุกคนใส่ใจกันและกันบนโต๊ะอาหารสัก 2 ชั่วโมง หากใครแหกกฎจะต้องจ่ายมื้อนี้ ...รับรองว่าสักพักหนึ่งจะมีคนทนไม่ไหว และประกาศว่า โอเค...จะจ่ายมื้อนี้เองแลกกับการมีมือถือติดตัว เพราะมีธุระที่จะต้องคอยเฝ้ารับมือถืออยู่

       นี่คือชีวิตจริงในยุคนี้...แต่เลี่ยงบ้างก็น่าจะดีนะคะ เพราะเราอยู่มาได้ตั้งนานโดยไม่มีมือถือ วันนี้ทำไมจะเป็นจะตายหนอ???                                               

"ป้าเอง"

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"