อึ้ง!คนเกินครึ่ง ยี้'ประยุทธ์'นั่ง นายกฯ'สมัย2'


เพิ่มเพื่อน    

    ครั้งแรก! นิด้าโพลเผย 51.74% ไม่หนุน “ประยุทธ์” นั่งนายกฯ อีกสมัย แต่เชื่อลุงตู่ยังอยากอยู่ในอำนาจ แนะให้สังกัดพรรคโดยเฉพาะพลังประชารัฐ คนส่วนใหญ่เห็นด้วยยุบพรรค เพื่อไทยมีหนาว คนแค่ 13% ที่มองว่ากลั่นแกล้ง ส่วนซูเปอร์โพลชี้ 54% เชื่อพวกเสียประโยชน์จ้องป่วนชาติ
    เมื่อวันอาทิตย์ 3 สำนักสำรวจความคิดเห็นประชาชน (โพล) ได้พร้อมใจกันเผยแพร่ผลโพลในทางการเมืองอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยศูนย์สำรวจความคิดเห็นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หรือนิด้าโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,258 ตัวอย่าง เรื่อง อนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.), มหาวิทยาลัยสวนดุสิต หรือสวนดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,182 คน เรื่องคนไทยคิดอย่างไร? กับกรณียุบพรรค และสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ได้สำรวจความคิดเห็นจำนวน ,1,067 ตัวอย่าง เรื่องความรักประเทศไทย
โดยผลสำรวจนิด้าโพล เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ควรทำงานการเมืองต่อหรือไม่หลังการเลือกตั้งในปี 2562 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 50.71% ระบุว่าไม่ควรทำงานการเมืองต่อ เพราะอยู่มานาน แต่การบริหารงานต่างๆ ยังไม่ดีเท่าที่ควร ขณะที่บางส่วนอยากเห็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ และ 48.73% ระบุว่าควรทำงานการเมืองต่อ เพราะบริหารงานดี บ้านเมืองสงบสุข สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ดี และ 0.56% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
    เมื่อถามความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ควรทำอย่างไร หากทำงานการเมืองต่อ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 59.22% ระบุว่าเข้าสังกัดพรรคการเมืองและอยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองนั้นจะเสนอให้เป็นนายกฯ รองลงมา 31.08% ระบุว่าเป็นนายกฯ คนนอก, 9.06% ระบุอื่นๆ ได้แก่ ไม่ควรกลับมาเล่นการเมืองอีกเลย ขณะที่บางส่วนระบุว่าให้ปฏิบัติงานในกระทรวง และ 0.64% ไม่ระบุไม่แน่ใจ
    ทั้งนี้ ผู้ที่ระบุว่าให้เข้าสังกัดพรรคการเมืองและอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองนั้น พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 52.62% ระบุว่าให้สังกัดพรรคพลังประชารัฐ,   27.11% ระบุว่าสังกัดพรรคไหนก็ได้, 11.28% ระบุว่าสังกัดพรรคประชาชนปฏิรูป, 8.05% สังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทย, 0.94% ระบุอื่นๆ ได้แก่ ตั้งพรรคใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และพรรคตะวันใหม่ 
    สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ หลังการเลือกตั้งในปีหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 63.51% ระบุว่าคิดว่าจะกลับมา, 35.77% ระบุว่าคิดว่าจะไม่กลับมา และ 0.72% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ และเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหลังการเลือกตั้งในปีหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 51.74% ระบุว่าไม่สนับสนุน, 47.54% ระบุว่าสนับสนุน และ 0.72% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ 
    ส่วนผลโพลของสวนดุสิตโพลนั้น เมื่อถามว่ากรณีความผิดแบบใด? ที่ควรลงโทษด้วยการยุบพรรค พบว่า 43.48% ทุจริตการเลือกตั้ง-โกงซื้อเสียง, 41.09%  ฝ่าฝืนทำผิดกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ, 
20.70% ออกมาเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวาย ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ, 12.04% ผู้บริหารพรรค หัวหน้าพรรคเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตคอร์รัปชัน และ 9.35% แสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง รับเงินทุนจากคนนอก     
    สำหรับข้อดีและข้อเสียของการยุบพรรคการเมือง  ในส่วนข้อดีนั้น พบว่า 45.64% มองว่าเป็นกรณีตัวอย่างทำให้พรรคการเมืองไม่กล้ากระทำผิด, 29.66% ควบคุมดูแลง่ายขึ้น เป็นระเบียบมากขึ้น และ 24.70% ลดคู่แข่งทางการเมือง พรรคอื่นได้ประโยชน์มีโอกาส ส่วนข้อเสีย 47.54% พรรคการเมืองขาดเสถียรภาพ เสื่อมเสียภาพลักษณ์, 30.91% มีการเคลื่อนไหว เรียกร้อง สร้างความวุ่นวาย และ 21.55% กลายเป็นประเด็นขัดแย้งทางการเมือง ทำให้บรรยากาศแย่ลง    
    เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าการยุบพรรคเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ เสียงส่วนใหญ่ 69.70% เห็นว่าถูกต้อง เพราะถ้าหากกระทำผิดจริงก็ต้องมีการลงโทษ ทำให้พรรคอื่นๆ ไม่กล้ากระทำผิด ขณะที่ 30.30% มองว่าไม่ถูกต้อง เพราะควรลงโทษตามขั้นตอน ควรมีการสอบสวนข้อมูลข้อเท็จจริงก่อน อาจเป็นเกมการเมือง และเมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับกรณีกระแสข่าวการยุบพรรคเพื่อไทย 33.04% มองว่าเป็นเพียงกระแสข่าว ยังไม่มีการยุบพรรค, 21.51% ระบุขอให้พิจารณาตัดสินอย่างเป็นธรรม ไม่สองมาตรฐาน, 19.07% หากกระทำผิดจริง ก็ควรดำเนินการตามกฎหมาย, 16.63% หากยุบพรรค ก็สามารถจัดตั้งพรรคใหม่ได้ และ 12.64% อาจเป็นการกลั่นแกล้ง ต้องการตัดพรรคเพื่อไทยออกจากการเมือง    
    “เมื่อถามว่าประชาชนคิดอย่างไร? กับกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะตั้งพรรคสำรองไว้หากโดนยุบพรรค 38.84%  มองว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ เป็นไปตามกฎระเบียบ,  37.05% ทำให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง ไม่เสียเวลา และอันดับ 31.47% มองว่าอาจไม่ได้มีการยุบพรรค ต้องรอติดตามข้อมูลข้อเท็จจริง” สวนดุสิตโพลระบุ
    ส่วน ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ระบุถึงผลสำรวจเรื่องความรักประเทศไทย
พบว่า 98.5% ระบุรักประเทศไทยมากถึงมากที่สุด มีเพียง 1.5% ระบุรักน้อยถึงไม่รักเลย และเมื่อถามถึง ความสงบสุขของบ้านเมืองวันนี้ พบว่าส่วนใหญ่หรือ 84.3% ระบุบ้านเมืองวันนี้มีความสงบสุขมากถึงมากที่สุด ในขณะที่ 15.7% ระบุน้อยถึงไม่มีเลย 
    ที่น่าพิจารณาคือ เกินครึ่งหรือ 53.7% ระบุกลุ่มคนเสียผลประโยชน์เป็นกลุ่มคนไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองวันนี้ รองลงมา 52.1% ระบุกลุ่มคนสูญเสียอำนาจ,  51.9% ระบุกลุ่มคนต่างชาติที่ไม่หวังดีต่อประเทศไทย,  47.2% ระบุกลุ่มคนมีคดีติดตัว และ 24.3% ระบุอื่นๆ อาทิ กลุ่มคนที่มีความคิดแตกต่าง กลุ่มคนที่อยากดัง อยากออกสื่อ อยากได้เงินค่าจ้าง ก่อกวนบ้านเมืองวุ่นวาย
    นอกจากนี้ เมื่อถามถึงข้อเสนอแนะต่อคนไทยที่รักชาติบ้านเมือง พบว่า ส่วนใหญ่ 67.2% เสนอแนะให้คนไทยที่รักชาติบ้านเมืองมีสติรู้เท่าทันพวกกลุ่มก่อความไม่สงบในชาติ, 64.9% ระบุใช้ชีวิตตามปกติสุข คนไทยรักกันให้มากขึ้น, 58.3% ระบุช่วยกันเป็นหูเป็นตา ดูแลความปลอดภัย, 57.1% ระบุทำความดี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และ 33.9% ระบุอื่นๆ อาทิ ร่วมกันแก้ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ เลือกตั้งคนดีปกครองบ้านเมือง ละเลิกยุยงปลุกปั่นความแตกแยกของคนในชาติ เป็นต้น
    “ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่ 93.2% ยังคงมีความหวังจะก้าวต่อไป ในขณะที่ 6.8% มีความกลัวต่อสถานการณ์การเมืองข้างหน้า” ซูเปอร์โพลระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"