"หมอจรัส"ชี้ภาคเอกชนเรียกร้อง"ปฎิรูปการศึกษา "ต้องเติมเต็มคุณสมบัติ"ซื่อสัตย์-สู้งาน "


เพิ่มเพื่อน    

 

“หมอจรัส” เผย 17 เดือนปฎิรูปการศึกษาที่ผ่านมา ค้นพบสภาพการศึกษาไทยต่ำมาก  ตกมาตรฐานสากล หากยังไปต่อในลักษณะเดิม จะไปมีที่ยืนในโลก  ชี้ผู้ประกอบการมองไม่ใช่แค่ให้วิชาการหรือความรู้เท่าทันโลกกับผู้เรียนเท่านั้น แต่ยังต้องเติมเต็ม คุณธรรมจริยธรรม ความรับผิดชอบ การมีจิตสาธารณะ ความซื่อสัตย์สุจริต ความขยันขันแข็ง สู้งาน ให้กับคนไทยอีกด้วย ขณะที่คกก.อิสระ เหลือเวลาทำงานอีกแค่ 7เดือน

 

 

ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) - สกศ. ร่วมกับ คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา จัดการประชุมเรื่อง “ความคาดหวังในการปฏิรูปการศึกษาของสถานประกอบการ” โดย นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระฯ กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง “ทิศทางการปฏิรูปการศึกษาให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ” ตอนหนึ่งว่า การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรก ที่ได้เชิญผู้ประกอบการในด้านต่างๆ ทั้งองค์กร และเอกชน เพื่อเข้าร่วมพิจารณาเรื่องการปฏิรูปการศึกษา รับฟังมุมมองความสำเร็จของประเทศว่าควรปฏิรูปการศึกษาไปในทิศทางใด ซึ่งคณะกรรมการอิสระฯ มีระยะเวลาในการปฏิรูปการศึกษา 2 ปี ซึ่งตอนนี้ใช้เวลาไปแล้ว 17 เดือน เหลืออีก 7 เดือน ดังนั้นเราพยายามดำเนินการต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะหากเรายังเดินไปในลักษณะเดิมประเทศไทยจะไปอยู่ที่ไหนในโลก ซึ่งสภาพการศึกษาไทยมีคุณภาพต่ำมาก ไม่ได้มาตรฐานไทยและสากล มีความเหลื่อมล้ำสูงติดกับดักความยากจน ใช้งบประมาณด้านการศึกษามาก แต่คุณภาพยังไม่ได้เท่าที่ควร ดังนั้นการปฏิรูปการศึกษาในครั้งนี้ต้องเกิดขึ้นให้ได้ เพื่อแก้ปัญหาการศึกษาต่างๆ เนื่องจากประเทศกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ รอบด้าน และการเปลี่ยนแปลงภาครัฐเป็นการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างช้า อาจจะไม่ทันการณ์ ไม่ทันโลกที่ก้าวไปข้างหน้ามาก ถ้าภาคผู้ประกอบการ ธุรกิจเอกชนของไทยก้าวไม่ทันก็คงไม่สามารถอยู่รอดได้ คณะกรรมการอิสระฯ ซึ่งมีหน้าที่ในการศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะ ยกร่างกฎหมาย พระราชบัญญัติต่างๆ

 

นพ.จรัส กล่าวต่อว่า และจากการประชุมรับฟังความคิดเห็นเกิดบทเรียนมากมาย เช่น บทเรียนการศึกษาต้องแก้จากข้างล่าง โดยเฉพาะระดับพื้นฐาน เพราะถ้าระดับพื้นฐานไม่มีคุณภาพ การศึกษาระดับต่อไปก็ไม่มีทางมีคุณภาพ ขณะเดียวกัน ต้องปรับปรุงแรงงาน ปรับบุคลากรของประเทศ ที่ต้องมีความรู้ ความสามารถเพิ่มมากขึ้น ต้องมีการปรับการศึกษาทั้งระบบตั้งแต่การศึกษาพื้นฐาน การศึกษาตามอัธยาศัย อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา โดยเน้นการสร้างสมรรถนะ ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยดูแลในทุกระดับ นอกจากนั้น การเรียนรู้ในโลกปัจจุบันและโลกอนาคต ไม่ใช่เรื่องวิชาการหรือความรู้  ความสามารถเท่าทันที่มนุษย์ต้องมีเท่านั้น แต่ต้องมีคุณธรรมจริยธรรม ความรับผิดชอบ การมีจิตสาธารณะ ความซื่อสัตย์สุจริต มีความขยันขันแข็ง สู้งาน ซึ่งผู้ประกอบการรู้สึกว่าคนไทยยังมีเป็นปัญหาในเรื่องนี้  และปัญหาดังกล่าวเกิดจากระบบการศึกษา เพราะเมื่อส่งคนไทยไปเรียนในประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศญี่ปุ่น กลับแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ดังนั้น แสดงให้เห็นชัดว่าการปฏิรูปการศึกษา ต้องมีขอบเขตกว้างขวาง เป็นการศึกษาตลอดชีวิต ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ในทุกกลุ่ม ทุกด้านของการศึกษา

 

“ผู้ประกอบการ ภาคเอกชนตั้งใจจะช่วย และเหมือนกับว่ามีความคล่องตัวพอสมควร เนื่องจากขณะนี้หลายอย่างต้องปลดล็อคให้สามารถดำเนินการได้ เช่น มีภาคเอกชนที่จัดการศึกษาเองได้ มีสถานศึกษาในระดับต่างๆ เกิดขึ้นในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และมีความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ภาครัฐ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ก็มีข้อเสนอให้มีความหนักแน่นมากขึ้น โดยจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับในบางเรื่อง เช่น ทวิศึกษา ที่ภาครัฐ และภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ได้ร่วมมือกันในการทำงาน ซึ่งถ้ามีกฎหมายรองรับให้เกิดขึ้นในทวิภาคี จะทำให้การดำเนินการดีขึ้น เป็นต้น โดยข้อเสนอดังกล่าว ไม่ได้เป็นการเรียกร้อง แต่ให้ความเห็นว่าจะทำให้ดีขึ้นต้องดำเนินการอย่างไร”ประธาน คกก.อิสระฯ กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"