คุก2ปีประสิทธิ์! ครองเสื้อเกราะ แดงชิงจากจนท.


เพิ่มเพื่อน    

     ศาลสั่งคุก 2 ปี "จ่าประสิทธิ์" ครอบครองเสื้อเกราะ-หมวกนิรภัยของทหาร เหตุสลายม็อบ นปช. 10 เมษา. 53 ชี้จำเลยเป็นดดีต ตร. ย่อมรู้ว่าเป็นของ จนท. และเป็นแกนนำเสื้อแดงรู้ว่ามีเหตุปะทะ ของกลางเป็นทรัพย์ที่ถูกปล้น จึงมีความผิดฐานรับของโจรด้วย  ศาลให้ประกันตัววางหลักทรัพย์ 2 แสนบาท อุทธรณ์ต่อ
     เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ห้องพิจารณา 714 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1937/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อายุ 53 ปี อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และแนวร่วมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 4, 15, 42 และรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357
     กรณีเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2553 เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถจำเลย พบมีเสื้อเกราะกันกระสุนและหมวกนิรภัยปราบจลาจลซึ่งเป็นเครื่องยุทธภัณฑ์โดยมิได้รับอนุญาต ที่สูญหายไปเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ในเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. และขณะที่ ส.อ.ชนะยุทธ คมสาคร สังกัดกองทัพภาค 1 กำลังปฏิบัติหน้าที่ ได้มีคนร้ายมากกว่า 3 คนขึ้นไป ร่วมกันใช้คันธงยาว 1 เมตร ตีประทุษร้ายและแย่งชิงหมวกนิรภัยปราบจลาจลราคา 3,745 บาท ที่ ส.อ.ชนะยุทธครอบครองที่ศีรษะไปโดยทุจริต เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กาย เหตุเกิดที่แขวง-เขตดุสิต กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
     ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบแล้วเห็นว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ขณะเจ้าหน้าที่ผู้เสียหายปฏิบัติหน้าที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 ถูกผู้ชุมนุม นปช. คนเสื้อแดงชิงเสื้อเกราะและหมวกนิรภัยปราบจลาจลไป ต่อมาวันที่ 22 เม.ย.2553 ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารลาดตระเวน พบจำเลยขับรถผ่านมา ได้เรียกตรวจค้นพบว่ามีเสื้อเกราะและหมวกนิรภัยปราบจลาจลอยู่ท้ายรถ จึงยึดเป็นของกลางส่งพนักงานสอบสวนตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นยุทธภัณฑ์ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องขออนุญาต และเป็นของที่สูญหายไป
     จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ พยานโจทก์ผู้เสียหายเบิกความถึงการถูกทำร้ายและชิงยุทธภัณฑ์ไปเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ได้แจ้งความไว้ต่อ สน.ดุสิต ส่วนพยานเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจค้นเบิกความถึงการตรวจค้นพบเสื้อเกราะและหมวกนิรภัยในรถของจำเลย เป็นประจักษ์พยานผู้ยึดของกลาง และพนักงานสอบสวนเป็นพยานตรวจสอบของกลางซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาต โดยจำเลยไม่เคยได้รับอนุญาตให้ครอบครอง พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องกัน ทำตามหน้าที่ไม่มีเหตุปรักปรำจำเลย มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ
     ขณะที่จำเลยเบิกความยอมรับว่ามีการตรวจค้นพบของกลาง โดยนำสืบว่าเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2553 ขณะจำเลยปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดงมีผู้เก็บของกลางมาให้จำเลยประกาศหาเจ้าของ จากนั้นก็ไม่ทราบว่าของกลางมาอยู่ในรถของจำเลยได้อย่างไร ทราบภายหลังว่ามีการ์ด นปช. 2 คน นำของกลางมาเก็บในรถโดยไม่บอกให้จำเลยทราบ เห็นว่าการหาเจตนาต้องอาศัยเหตุผลพยานแวดล้อม ที่จำเลยให้การอ้างไม่รู้เรื่องของกลางอยู่ในรถนั้น ขัดกันในคำให้การชั้นสอบสวนที่ไม่ได้ให้การว่าการ์ด นปช.ทั้งสองเป็นผู้นำของกลางไปเก็บไว้ท้ายรถ ทั้งที่เคยให้การว่าทราบในวันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุ และยังไม่นำบุคคลทั้งสองไปให้การต่อพนักงานสอบสวน ขณะที่บุคคลทั้งสองมาเป็นพยานจำเลยตอบในการถามค้านได้ความว่า การนำของกลางไปเก็บไว้ท้ายรถ เนื่องจากเห็นฝากระโปรงรถเปิดไว้อยู่แล้ว ทั้งที่รถของจำเลยจอดไว้อยู่ก่อนขับออกไป จึงเป็นพิรุธ ง่ายต่อการอ้าง แม้จะมีพยานจำเลยอื่นเบิกความสนับสนุนก็เป็นญาติกับเพื่อนร่วมงานที่สงสัยได้ว่าช่วยเหลือจำเลย
     พยานจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ เชื่อได้ว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่ามีของกลางอยู่ท้ายรถ เป็นยุทธภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตครอบครอง ในฐานะที่จำเลยเป็นอดีตตำรวจย่อมรู้ว่าเป็นของเจ้าหน้าที่ และเป็นแกนนำคนเสื้อแดงรู้ว่ามีเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ของกลางเป็นทรัพย์ที่ถูกปล้น จำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจรด้วย
     พิพากษาว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ จำเลย กระทำความผิดตามฟ้อง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป โดยให้จำคุกฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 เป็นเวลา 1 ปี และจำคุกฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 เป็นเวลา 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี
     หลังศาลมีคำพิพากษา จ.ส.ต.ประสิทธิ์ จำเลย เตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
     ต่อมาภรรยาของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ จำเลย ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอประกันตัว ซึ่งศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์ โดยตีราคาประกัน 2 แสนบาท.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"