ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน


เพิ่มเพื่อน    

        เห็นข่าวพาดหัวตัวเบ้อเร่อเห้อ...ของ ไทยโพสต์ ฉบับวันวาน ว่าด้วยกรณี อำนาจเก่าป่วน รปช. หรือป่วนพรรค รวมพลังประชาชาติไทย ขณะออกเดินหน้าหาเสียง หรือที่เรียกๆ กันเองว่า เดินคารวะแผ่นดิน แล้วอดเหนื่อยใจ เพลียใจ ขึ้นมาเอาดื้อๆ คือไม่ว่าจะ อำนาจ หรือ อำนวย ก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเก่า หรือใหม่ แต่ถ้าหากลองเจอเข้ากับปฏิกิริยาทำนองนี้ ก็อดเหนื่อยใจ เพลียใจ แทนพรรคพวก เพื่อนฝูง ผู้ซึ่งอุตส่าห์ไหลเข้าไปรวมตัวอยู่ในพรรคๆ นี้ขึ้นมามิได้...

                                    -----------------------------------------------

        โดยเฉพาะคุณพี่ สำราญ รอดเพชร ของ ท่านขุนน้อย...ที่นอกจากจะเคยเสี่ยงอันตราย เสี่ยงกระสุน เสี่ยงระเบิด เมื่อครั้งที่ทำหน้าที่เป็น โฆษก กปปส. แล้ว ยังต้องมาเสี่ยงกับ สากกะเบือบิน หรือคำด่าว่า ด่าทอ ที่สาดใส่เข้าหา โดยอำนาจเก่า หรืออำนวยใหม่ ก็แล้วแต่ ระหว่างหันมารับหน้าที่เป็น พิธีกร ให้กับรายการ เดินคารวะแผ่นดิน ในฐานะหนึ่งในสมาชิกพรรคอีกด้วย ซึ่งก็คงไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ คือถ้าหากต้องเจอกับกระสุน กับระเบิด ไม่ว่าตาย-ไม่ตาย อันนั้น...ก็ยังอาจเป็นอะไรที่ดูเก๋ ดูเท่ อยู่บ้างเล็กน้อย แต่ถ้าหากต้องมาเจอคำด่า คำเสียดสี เยาะเย้ย แม้ว่าไม่ถึงกับตาย แต่ออกจะเป็นอะไรที่เสียหน้า เสียรังวัด หรือเสียสุนัข อยู่พอสมควร เผลอๆ...อาจอยากกลั้นใจตาย ให้รู้แล้ว รู้แรด ไปเลยก็ไม่แน่...

                                     ------------------------------------------------

        คือเอาเข้าจริงๆ แล้ว...ไม่ว่าคุณพี่ สำราญ รอดเพชร คุณเพื่อนอาจารย์ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ คุณน้าขุนศึกข่าวกรอง พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ฯลฯลฯลฯ ไปจนถึงคุณลุง เทพเทือก โน่นเลย ล้วนแล้วแต่น่าจะคิดว่าตัวเองกำลังกระทำการในสิ่งที่ออกไปทาง เสียสละเพื่อผู้อื่น ไม่น่าจะเป็นการกระทำการ เพื่อตัวเอง อะไรเอาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งโดยเฉพาะคุณลุง เทพเทือก ด้วยแล้ว การที่ขึ้นชั้น ขึ้นหิ้ง ไปในระดับไม่ต่างอะไรไปจาก วีรบุรุษ ของผู้คนนับล้านๆ เมื่อครั้ง กปปส. ไปจนเลื่อนระดับไปอีกขั้น เมื่อคิดโกนหัวเข้าวัด บวชเป็นพระสวนโมกข์ แต่กลับต้องโดดจากหิ้งลงมาคลุกดิน คลุกทราย กันอีกครั้ง การเสียสละเช่นนี้ อาจต้องถือเป็น ภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ เอาเลยก็ว่าได้...

                                   ------------------------------------------------

        แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่าวีรบุรุษ วีรชน ทุรบุษ ทุรชน ใดๆ ก็แล้วแต่ ลองขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ เป็นสรรพสิ่ง ที่ต้องเกิด ต้องดับ ไปตามกฎเหล็กแห่งธรรมชาติ หรือตามกฎจาตุราริยสัจแล้ว โอกาสที่จะไปยึดถือ ยึดมั่น กับสถานะ ตัวตน หรือสิ่งที่เคยกระทำ สิ่งที่เคยเป็นมา เมื่อครั้งอดีต ยังไงๆ...มันคงไม่ถูกเรื่อง ถูกราว อยู่แล้วแน่ๆ แม้การกระทำนั้นๆ จะเป็นไปเพื่อความดี ความงาม ความเสียสละใดๆ ก็แล้วแต่ แต่ถ้าหากมันไม่สอดคล้อง ต้องกัน กับฉากสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงอันเป็นนิรันดร ไม่ว่าวีรบุรุษ วีรชน ทุรบุษ ทุรชน ใดๆ ก็ตาม ย่อมมีสิทธิ์ ตกม้าตาย ได้เสมอๆ...

                                ----------------------------------------------------

        ซึ่งสำหรับฉากสถานการณ์ทุกวันนี้...มันคงไม่ได้ใกล้เคียงกับเมื่อช่วงครั้ง กปปส. มากมายซักเท่าไหร่ ไม่ว่าในแง่ปรากฏการณ์ ทัศนะ ความรู้สึก อย่างน้อย...ในช่วงระยะ 4ปี 5 ปี ของ คสช. ก็น่าจะทำให้อะไรต่อมิอะไรไม่น่าจะเหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่ว่าจะในแง่บวก หรือลบ ก็ตามแต่ การประดิษฐ์ คิดค้น มุก ใหม่ๆ จึงถือเป็นความจำเป็น และเป็นสิ่งสำคัญเอามากๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยากจะดำรงความ เสียสละ ให้สืบเนื่องต่อไป คือในขณะที่ใครก็ไม่รู้ แถมไม่ต้องเสียเวลาผ่านร้อน ผ่านหนาว อะไรกันมากมาย มันออกมา แรป แค่เพลงเดียว ผู้คนหันไป วิว กันเป็นสิบล้าน ยี่สิบล้าน วีรบุรุษ วีรชน จะยังมัวเดินตุปัดตุเป๋ อยู่ตามถนน รนแคม ไปเรื่อยๆ มันเลยอาจไม่ถึงกับ เวิร์ก ซักเท่าไหร่...

                              --------------------------------------------------------

        ยิ่งเป็น มุกทางการเมือง ด้วยแล้ว...ยังไงๆ ย่อมแตกต่างไปจาก มุกหนังไทย อยู่แล้วแน่ๆ คืออันนั้น...แค่ วิ่งหนีผีลงตุ่ม ผู้คนก็พร้อมที่จะฮาแล้ว ฮาเล่า ชนิดสามารถผลิตหนัง หอแต๋วแตก ไปได้ถึงภาค 5 ภาค 6 แต่สำหรับการเมืองแล้ว...หนีไม่พ้นต้องเจอกับพวก อำนาจเก่า หรือ อำนวยใหม่ ก็แล้วแต่ ที่พร้อมดักรอซุ่มอยู่ตามหัวมุมถนน พร้อมสาด สากกะเบือบิน เข้าใส่ได้ทุกเมื่อ เล่นเอาวีรบุรุษ วีรชน แทบต้องกลั้นใจตายเอาง่ายๆ ด้วยเหตุนี้...คงหนีไม่พ้นต้องกลับไปนั่งคิด นั่งนึก นั่งตรึกตรองกันให้ละเอียด ไม่ว่าจะในแง่ เป้าหมาย หรือ กรรมวิธี ยิ่งถ้านึกไปไกลถึงขั้นที่ก่อให้เกิดความ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อกฎเกณฑ์ความเป็นไปของธรรมชาติ กฎจาตุราริยสัจ ที่ ท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านเทศน์ๆ เอาไว้ ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะไม่ว่าจะเป็นความดี ความชั่ว ความรัก ความชัง สุดท้ายแล้ว...มันย่อม เป็นเช่นนั้นเอง หรือมัน เป็นพรรค์นั้นแหละ ไปทุกเรื่องทุกราว ทุกๆ กรณี...

                                 -------------------------------------------------------

        สรุปรวมความแล้ว...เอาเป็นว่า ด้วยความเป็นห่วงพรรคพวกเพื่อนฝูงนั่นเอง ไม่อยากให้เสียหน้า เสียตา เสียรังวัด เสียสิ่งที่เคยได้สร้าง ได้กระทำเอาไว้แล้ว หรือแม้กระทั่ง เสียใจ ต่อ ความเสียสละ ที่ตัวเองออกเรี่ยว ออกแรง ได้ตั้งความปรารถนา ความต้องการเอาไว้ ทำไงได้...ในเมื่อสิ่งที่เรียกว่า การเมือง มันคงต้องออกไปในแนวนี้นั่นแหละ มีได้-มีเสีย มีขึ้น-มีลง มีลาภ-เสื่อมลาภ มียศ-เสื่อมยศ จะไปยึดมั่น ถือมั่น อะไรเอาไว้คงมิได้ แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งดีๆ หรือกระทั่งเป็น ความดี ก็ตาม...

                                 --------------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Dhammapada... “That which seems ever-lasting will perish; that which is high will be laid low; where meeting is, parting will be; where birth is, death will come.- สิ่งใดดูคงทนถาวรตลอดไป สิ่งนั้นย่อมพินาศพังภินท์ สิ่งใดสูงส่ง สิ่งนั้นย่อมตกต่ำ ล่มสลาย สิ่งใดสนิทชิดชอบ สิ่งนั้นย่อมพลัดพรากจากกัน ที่ใดมีเกิด ที่นั้นย่อมมีตาย...”

                                 -----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"