ลำไยไหทองคำเฮ พ้นละเมิดลิขสิทธิ์


เพิ่มเพื่อน    

    อัจฉริยะรุกหนัก ยื่น ปปง.สอบประจักษ์ชัย-เมีย และลำไย ไหทองคำ ส่อเลี่ยงภาษีทั้งที่มีรายได้รวมกันมากกว่า 100 ล้าน ชี้หากผิดจริงจะเจอข้อหาฟอกเงินด้วย ด้านคดีอดีต ผจก.นักร้องดัง ฟ้องลำไย-ประจักษ์ชัยละเมิดลิขสิทธิ์ ศาลยกฟ้อง 
    ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เวลา 10.00 น. วันที่ 31 ตุลาคมนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม สำนักงาน ปปง. เพื่อยื่นหนังสือให้ตรวจสอบการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีของนายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์, นางโยษิตา เนาวรัตน์ ภรรยาของนายประจักษ์ชัย และ น.ส.สุพรรณษา เวชกามา หรือลำไย ไหทองคำ นักร้อง ตามประมวลรัษฎากร ฐานร่วมกันฟอกเงิน
    นายอัจฉริยะกล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 ต.ค.ได้มีคำกลางโทรศัพท์มาหาตน เพื่อขอค่าฉีกสัญญาของอาม ชุติมา จำนวน 2 ล้านบาท ให้นายประจักษ์ชัย โดยสัญญาเหลืออีก 2 ปี 7 เดือน แต่ตนมองว่าไม่ควรจ่าย เพราะที่ผ่านมาถูกเอาเปรียบมาตลอด และอาม ชุติมา ก็ไม่มีเงินมากพอขณะนั้น โดยในสัญญาระบุเพียงว่าหากผิดสัญญาถึงสามารถฟ้องทางแพ่งได้ รวมทั้งตามกฎหมายภาษีอากรของกรมสรรพากร ซึ่งแก้ไขใหม่ ได้กำหนดให้ความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษี ฉ้อโกงภาษี ขอคืนภาษีเป็นเท็จ เป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน จึงมายื่นหนังสือต่อ ปปง.ช่วยตรวจสอบความผิดฐานฟอกเงินกับนายประจักษ์ชัยและพวก เพราะมีรายได้รวมกันมากกว่า 100 ล้านบาท
    นายอัจฉริยะกล่าวว่า ช่วงระหว่างปี 59-60 บริษัท ไหทองคำ เรคคอร์ด จำกัด ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่เพิ่งมาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2561 โดยมีชื่อภรรยาของนายประจักษ์ชัยเป็นเจ้าของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว นอกจากนี้ พบว่าบุคคลทั้งสามมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี และไม่เคยเสียภาษี ซึ่งกฎหมายสรรพากรระบุว่า บุคคลที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม จะให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่สรรพากรบางรายเพราะอาจมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย 
    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบตามขั้นตอน ก่อนพิจารณาตามกระบวนการกฎหมายต่อไป
    ด้านนายบุญถาวร ปัญญามณีโชติ ทนายความของนายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ เจ้าของค่ายไหทองคำ เรคคอร์ด กล่าวว่า ขอยืนยันการหลีกเลี่ยงภาษี 150 ล้านบาท หรือ 100 ล้านบาท ตามที่นายอัจฉริยะกล่าวอ้าง ไม่เป็นความจริง ปีที่แล้วมีการเสียภาษีหลายล้านบาท จะบอกว่าเลี่ยงภาษีคงไม่ใช่ เป็นการใส่ความนายประจักษ์ชัยให้เสียหาย ที่ไปร้อง ปปง.ถามว่าไปร้องเรื่องอะไร เราไม่ได้ค้ายาบ้า ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากไปร้อง ปปง., สรรพากร ถ้าเป็นเรื่องเท็จก็เป็นการแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานด้วย
    "ต้องถามคนที่เกี่ยวข้องกับอาม ชุติมา ว่าได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ วันนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของทางค่ายไหทองคำไปยื่นตรวจสอบการเสียภาษีของอาม ชุติมา และหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งไอ้โม่งจอมแฉจอมฉก" นายบุญถาวรกล่าว
    อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายณรงค์วัฒน์ หรือบ่าวเอก ยันตะพันธ์ ผู้จัดการเก่าของลำไย ไหทองคำ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ตั้งแต่เดือน ก.ย.2560 กรณีที่กล่าวอ้างว่า น.ส.สุพรรณษา เวชกามา หรือลำไย ไหทองคำ และนายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ ผู้จัดการและผู้บริหารไหทองคำ เรคคอร์ด ละเมิดสัญญานักแสดง เรียกค่าเสียหายด้วยจำนวน 3 ล้านบาทนั้น 
    โดยเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้ออกนั่งพิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวที่ยื่นฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.710/2560 โดยนายณรงค์วัฒน์ ยันตะพันธ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท พีอาร์ เรคคอร์ด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.สุพรรณษา เวชกามา หรือลำไย ไหทองคำ จำเลยที่ 1 และนายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ ผู้จัดการและดูแลการแสดง จำเลยที่ 2 ในความผิดต่อ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 
    โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดง โดยรับโอนสิทธิของมาจากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนักแสดง (นักร้อง) มีกำหนด 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.2557-12 ส.ค.2562 ตามหนังสือสัญญานักร้องลงวันที่ 12 ส.ค.2557 จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันละเมิดสิทธินักแสดงโดยแพร่เสียง, แพร่ภาพ หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งการแสดง บันทึกการแสดงที่ยังไม่มีการบันทึกไว้, ทำซ้ำซึ่งสิ่งบันทึกการแสดงที่มีผู้บันทึกไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดง โดยใช้นามแฝงว่า “ลำไย ไหทองคำ” ซึ่งได้แสดงไว้เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2560 เวลาประมาณ 14.00-16.00 น. ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระรามสอง แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
    ศาลพิพากษาว่า พยานหลักฐานของโจทก์ที่ไต่สวนมายังฟังไม่ได้ว่า โจทก์ได้รับโอนสิทธิอันเกี่ยวกับการแสดงของจำเลยที่ 1 มาแล้วโดยชอบ เมื่อโจทก์ไม่ใช่ผู้ได้รับโอนสิทธิมาจากจำเลยที่ 1 โจทก์ย่อมไม่ใช่เจ้าของสิทธิประเภทสิทธิของนักแสดงดังฟ้อง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง คดีของโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำตัดสินนี้เป็นการพิจารณาของศาลชั้นต้น ซึ่งหากคู่ความยังติดใจก็สามารถยื่นอุทธรณ์คดีได้ตามกฎหมาย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"