ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงรองเลขาฯ ป.ป.ช.ชักปืนเล็งแท็กซี่ หลังผลสอบข้อเท็จจริงพบพฤติการณ์มีมูล แต่ก็ยังไม่พักราชการ เลขาฯ ปปช.ระบุจะให้ทำงานที่ไม่มีความสำคัญด้านคดี
     นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ว่า ตามที่ปรากฏข่าวมีคลิปบิ๊กข้าราชการ ป.ป.ช. ซึ่งมีรูปพรรณเหมือนนายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีพฤติการณ์ขับรถปาดหน้าซึ่งกันและกัน ตลอดจนมีการบีบแตรใส่ซึ่งกันและกัน จนมีการลงจากรถและชักปืนเล็งขู่ผู้ขับขี่ที่ตามหลังรถมา 
    ต่อมาสำนักงาน ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบแล้ว บุคคลดังกล่าวคือนายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และให้นายพิเศษ นาคะพันธุ์ รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวแล้ว และเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วน รอบด้าน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมีนางณัชชา เกิดศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกรรมการ และให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบภายใน 15 วัน 
    บัดนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้รายงานผลการตรวจสอบแล้ว มีความเห็นว่า ในวันและเวลาเกิดเหตุ การกระทำดังกล่าวตามที่ปรากฏคือ นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พฤติการณ์มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง สำนักงาน ป.ป.ช.จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง โดยมีนายธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 ผลการดำเนินการเป็นอย่างไร จะแถลงให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เพิกถอนใบอนุญาตการใช้อาวุธปืน นายพิเศษ นาคะพันธุ์ แล้ว
    ต่อมา นายวรวิทย์ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ระหว่างรอการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายพิเศษ ยังไม่จำเป็นต้องสำรองราชการ หรือพักราชการไว้ก่อน ดังนั้นนายพิเศษยังปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ เพราะการมอบหมายหน้าที่ให้ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ ป.ป.ช. ดังนั้นตนในฐานะผู้บังคับบัญชาจะมอบหมายหน้าที่ในส่วนที่ไม่มีความสำคัญด้านคดีให้นายพิเศษทำในช่วงนี้ และคงยังตอบไม่ได้จะใช้เวลาสอบวินัยร้ายแรงเท่าใด แต่จะให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม การสอบวินัยเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน ส่วนทางคดีอาญาก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องว่ากันไป.