"ไอติม" ไม่ถอดใจ เดินหน้าชง ปชป.เลิกเกณฑ์ทหารต่อ ชู 2 แนวทางสู่ระบบสมัครใจ ยันตอบโจทย์ทุกฝ่าย พร้อมคืนศักดิ์ศรีกองทัพ "หมวดเจี๊ยบ" บี้ "บิ๊กตู่" โชว์ความจริงใจ เริ่ม เม.ย.62 ทบ.เปิดค่ายทหารให้บุพการีญาติพี่น้องดูความเป็นอยู่ ลบภาพธำรงวินัยโหด
    เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม แกนนำคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ หลานชายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นเรื่องการเกณฑ์ทหารในหัวข้อ "ปรับจากระบบเกณฑ์ทหาร มาเป็นระบบสมัครใจ" ว่า ไม่น่าจะเป็นคนเดียวหรือคนแรกที่เล็งเห็นถึงความเหมาะสมของการปรับแบบนี้ แต่คำถามที่สำคัญคือ เราจะทำให้เป็นจริงได้อย่างไร? ซึ่งต้องดูถึงรายละเอียดของแผนที่ตนเตรียมจะนำเสนอต่อพรรคและประชาชนในเร็วๆ นี้ 
    ทั้งนี้ คิดว่าเราต้องคำนึงถึง 2 ข้อ 1.กองทัพจะต้องมีกำลังทหารเพียงพอสำหรับปฏิบัติหน้าที่หลักในการป้องกันประเทศ ซึ่งต้องมาจากทั้ง 1.1 การประเมินและลดยอดพลทหารที่ไม่จำเป็นต่อความมั่นคง (เช่น พลทหารรับใช้ การลดไขมันในองค์กร) ควบคู่ไปกับ 1.2 การเพิ่มคุณภาพชีวิตพลทหารให้อาชีพทหารเป็นอาชีพที่น่าดึงดูดขึ้น ด้วยการรับรองค่าตอบแทนต่อเดือนที่เหมาะสมต่อค่าครองชีพและไม่โดนหักโดยไม่จำเป็น การขยายสวัสดิการที่ครอบคลุมความต้องการของพลทหารมากขึ้น และการกำจัดความรุนแรงในค่ายทหารให้หายไป 2.เรื่องนี้ต้องไม่กลายเป็นประเด็นทางการเมือง หรือถูกมองว่าเป็นการต่อสู้กับกองทัพ หน้าที่ของฝ่ายการเมือง จึงจำเป็นต้องทำให้กองทัพ (ในฐานะองค์กรที่มีส่วนได้เสีย) ให้การยอมรับข้อเสนอนี้ เพื่อจะปรับตัวไปพร้อมกัน
    "ผมได้ฟังบทสัมภาษณ์ของท่าน ผบ.ทบ.ฉบับเต็มแล้ว ความจริงถ้าเราตัดประโยคพาดหัวที่ท่านพูดว่า “มันเป็นไปไม่ได้” สิ่งอื่นที่ท่านพูด มันกลับไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นเช่นนั้น ผมกลับมองว่าหลายอย่างที่ท่านพูดบ่งบอกด้วยซ้ำว่า “มันเป็นไปได้” วันหลังผมจะมาอธิบายว่าทำไมผมถึงยังไม่รู้สึกหมดหวังหลังได้ฟังคำพูดของท่าน ผบ. ทบ. และลงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอของผม แต่ผมหวังว่าแนวทางนี้จะตอบโจทย์ทุกฝ่าย" นายพริษฐ์ระบุ
    สำหรับแนวทางนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งผู้ที่ต้องการเป็นทหาร และผู้ที่ต้องการทำอาชีพอื่น แนวทางนี้จะคืนศักดิ์ศรีให้กองทัพ ให้พ้นครหา “สถาบันอำนาจนิยม” ไปสู่ “กองทัพยุคใหม่” ที่แม้เล็กลงด้วยขนาด แต่แข็งแกร่งด้วยประสิทธิภาพ เต็มไปด้วยบุคลากรที่สมัครใจทำงานและพร้อมทุ่มเทให้องค์กรอย่างแท้จริง แนวทางนี้จะตอบโจทย์ความมั่นคงของชาติในโลกสมัยใหม่ ทำให้ประเทศไทยรับมือกับภัยคุกคามในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างเท่าทัน “ทหารสมัครใจ ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่นใจ”
    ด้าน ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงเสียงเรียกร้องให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารมาใช้ระบบสมัครใจว่า จะเกิดได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความจริงใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้นำเหล่าทัพ ว่าจะเตะถ่วงการปฏิรูปกองทัพหรือไม่ ลำพังแค่ ผบ.ทบ.คนเดียว คงไม่สามารถเปลี่ยนหลักเกณฑ์ตรงนี้ได้ แต่โดยหลักการแล้วการลดขนาดกองทัพและการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารเป็นสิ่งที่ทำได้ และกองทัพเคยทำมาแล้วถึงสองครั้งในอดีตเมื่อราวๆ ปี 2530 และ 2542 และทุกปีจะมีคนสมัครใจประมาณ 4-5 หมื่นคน ทั้งนี้ กองทัพน่าจะยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารตั้งแต่เดือน เม.ย.2562 เสียเลย ขณะเดียวกันต้องมีการปฏิรูปกองทัพในทุกๆ ด้านควบคู่กันไปด้วย 
    ที่กรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนา ต.กะลุวอ อ.เมืองนราธิวาส พ.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พูลทรัพย์ ผู้บังคับกองร้อย 151 พัน 1 ได้จัดโครงการให้เครือญาติเข้าเยี่ยมทหารใหม่ รุ่นปี 2561 ผลัดที่ 2 ตามนโยบายของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) โดยได้นำบิดามารดา ภรรยาและบุตร หรือญาติของทหารใหม่ ได้เยี่ยมชมการฝึกของลูกหลาน รวมถึงเยี่ยมชมอาคารเรือนนอน จากนั้นได้ร่วมรับประทานอาหารกับทหารใหม่เป็นมื้อแรกหลังจากที่ได้เข้าทำการฝึก ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น 
    พ.ท.ณรงค์ฤทธิ์เปิดเผยว่า เป็นไปตามนโยบายกองทัพบกที่ต้องการสร้างความโปร่งใส โดยให้บิดา มารดา หรือญาติของทหารเกณฑ์ในทุกกรมกองได้มาดูด้วยตัวเอง จะเป็นที่ประจักษ์ว่าค่ายทหารมีการดูแลทหารใหม่เป็นอย่างดี ไม่ได้เป็นภาพลบที่อย่างที่เข้าใจ.