คลังขีดเส้นกรมสรรพากร เก็บภาษีหุ้นชิน1.7หมื่นล.


เพิ่มเพื่อน    

     ป่านนี้ยังเก็บภาษีนักโทษหนีคุกไม่ได้ "คลัง" ตามบี้ “สรรพากร” ตั้งกรรมการสอบก่อนสรุปผลสอบละเว้นประเมินเก็บภาษีจากการขายหุ้นชินของ“ทักษิณ” 1.7 หมื่นล้านบาท ลั่นสิ้นปีนี้ได้ข้อสรุป
     เมื่อวันพุธ นายยุทธนา หยิมการุณ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีกรมสรรพากรละเว้นการประเมินการเก็บภาษีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการซื้อขายหุ้น 1.7 หมื่นล้านบาท เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือให้กรมสรรพากรชี้แจงเรื่องดังกล่าว และติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อสรุปผลสอบให้ได้ภายในปีนี้
    ทั้งนี้ จากการส่งหนังสือติดตามล่าสุด ทางกรมสรรพากรชี้แจงว่า ได้ส่งเรื่องให้สรรพากรภาค 3 ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจประเมินการเก็บภาษีหุ้นกรณีดังกล่าวพิจารณาข้อเท็จจริง ซึ่งทางสรรพากรภาค 3 อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา แต่เกิดความล่าช้า เนื่องจากผู้บริหารสรรพากรภาค 3 เกษียณอายุราชการในช่วงสิ้นปีงบประมาณที่ผ่านมา ทำให้คนใหม่ต้องมาดำเนินการต่อ นอกจากนี้ ทางสำนักงานอัยการยังไม่ส่งรายชื่อบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกรรมการพิจารณา ทำให้คณะกรรมการของสรรพากรภาค 3 ยังดำเนินการพิจารณาไม่ได้
    "คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องนี้ตลอด เมื่อเดือน มิ.ย.2561 ก็ทำหนังสือถามถึงสรรพากรภาค 3 ว่าดำเนินการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องดังกล่าวหรือยัง และผลของการพิจารณาออกมาอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่ผมเป็นประธานจะต้องมีผลสรุปออกมาอย่างแน่นอนว่ากรมสรรพากรละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ประเมินการเสียภาษีดังกล่าวหรือไม่" นายยุทธนากล่าว
    นายยุทธนากล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้สรุปผลการสอบกรณีที่กรมสรรพากรไม่ยื่นอุทธรณ์ศาลภาษีสูงสุด เพื่อเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นของบุคคลในครอบครัวนายทักษิณ ซึ่งผลสอบพบว่ามีมูลความผิด และทางกรมสรรพากรได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงผู้เกี่ยวข้องและยังรับราชการอยู่ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องแต่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ต้องดำเนินการเอาผิดทางแพ่ง เพื่อให้ชดใช้ความเสียหายจากการเก็บภาษีไม่ได้ต่อไป
    ก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้สอบสวนในเรื่องการไม่ส่งอุทธรณ์การเก็บภาษีของเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่ภาค 3 ในขณะนั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นอำนาจในระดับนโยบาย และสาเหตุอีกประการที่ไม่อุทธรณ์ก็คือ ต้องมีการวางเงินประกันในคดีนี้ถึง 23 ล้านบาท เกรงกรมจะเสียหายหากแพ้คดี 
    ส่วนกรณีที่ไม่ประเมินภาษีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จากธุรกรรมการซื้อขายหุ้นชิน เจ้าหน้าที่สรรพากรขณะนั้นให้เหตุผลว่า เนื่องจากศาลภาษีอากรกลางในปี 2553 ยกคำร้องของกรมสรรพากรในการประเมินภาษีนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร (คุณากรวงศ์) บุตรชายและบุตรสาวนายทักษิณ จากธุรกรรมซื้อขายหุ้นชิน เนื่องจากศาลภาษีได้อ้างคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า หุ้นดังกล่าวไม่ได้เป็นทรัพย์สินของนายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา แต่เป็นของนายทักษิณ
    อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลชุดนี้เข้ามา และอายุความภาษีหมดลง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 กรมสรรพากรได้นำหมายไปติดประกาศที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อประเมินภาษีการซื้อขายหุ้นชินจากนายทักษิณ เป็นวงเงินค่าภาษีบวกค่าปรับและเงินเพิ่ม (เงินเพิ่มคือดอกเบี้ย) รวมเป็นเงิน 1.76 หมื่นล้านบาท โดยนายทักษิณได้ให้ทนายความยื่นอุทธรณ์แล้ว ซึ่งกรมสรรพากรสามารถใช้ระยะเวลานานสุด 2 ปีในการพิจารณาคำอุทธรณ์.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"