ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์

มฤตยูจร(0)เดินอยู่ในราศีเมษ

พฤหัสบดีจร(5)เดินอยู่ในราศีพิจิก-เล็งพระอังคารดวงเดิมที่สถิตราศีพฤษภ

และถึงพระราหูดวงเดิม(๘)ที่สถิตราศีมีน

               

                ระยะนี้เจอหน้าแฟนคลับที่ไหนผู้เขียนมักจะถูกถามว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป การเลือกตั้งจะมีหรือไม่แล้วผลจะออกมาอย่างไร ฯลฯ จึงจะขอค่อยๆ สะกัดรหัสทางโหรดวงชะตาเมืองออกมาจากที่เคยเขียนภาพรวมทั้งหมดไว้ในหนังสือศาสตร์แห่งโหรปี 2562 ของสำนักพิมพ์มติชนที่กำลังวางจำหน่ายในขณะนี้ และบางส่วนจากแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 236 ชื่อตอนช่วยเทวดาประจำเมืองฟันฝ่าอีกรอบ

                โดยขอคำทำนาย-และคาดหมายคือ

                1.ย้ำเหมือนเดิมคือปรากฏการณ์ทางโหรบ่งบอก ภาพรวม ว่า กระบวนการเลือกตั้งมีแน่ โดยจะ เริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ยาวนานไปถึง  30 ตุลาคม 2562 (เกณฑ์พฤหัสบดีจร 5 อันหมายถึงสภาที่ปรึกษาหรือสภาที่มาจากการแต่งตั้งหรือวุฒิสภาเดินอยู่ในราศีพิจิกทำมุมถึงพระราหูดวงเดิม 8 อันหมายถึงสภาที่มาจากการเลือกตั้ง)

                2.ในท่ามกลางความเป็นไปของกระบวนการเลือกตั้งนั้น ตั้งแต่ประมาณวันที่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นมา เกิดปรากฏการณ์ทางโหรคือพฤหัสบดีจร (5) ที่ราศีพิจิก เล็งใส่พระอังคารดวงเดิมซึ่งเป็นดาวประจำชีพของเมืองที่สถิตเสถียรอยู่ที่ราศีพฤษภ เลยเกิดผลตามโฉลกดังที่ตำราจักรทีปนีบอกไว้คือ.. พฤหัสบดี ปะทะภุม์มะภิปราย(พฤหัสบดีจรถึงพระอังคารดวงเดิม) สุรโทษชนทั้งหลาย จะประจักษ์กะตน...

                โฉลกนี้อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ครูโหรผู้ล่วงลับอธิบายไว้ในหนังสือโหราศาสตร์ปริทรรศน์ ภาคสอง ครหวินิจฉัยว่า หากปรากฏในดวงชะตาใดระยะนั้น จะมีคนกล่าวแกล้งรุมทำร้ายป้ายสี 

                และสำหรับดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์แล้วพฤหัสบดีดวงเดิม (5) อยู่ในมุมที่เบียดเบียนกับพระอังคารดวงเดิม (เป็นอริ-มรณะต่อกัน) ด้วย ปรากฏการณ์ ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน จะเกิดให้เห็น เต็มเมืองไปหมด

                ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจกับการเกิดขึ้นของแรปประเทศกูมี หรือวิวาทะเรื่องเกณฑ์ ไม่เกณฑ์ทหาร การพยายามสู้กันทางความคิดเรื่องเศรษฐกิจดีไม่ดี ฯลฯ ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้ก็เป็นธรรมดาของโลก ประเทศ คนอยู่แล้ว เพียงแต่ระยะที่จะทำ ศึกชิงอำนาจทางการเมือง ก็คงจะมีมากเป็นพิเศษ

                ส่วนอีกหนึ่งที่แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดก่อนการเลือกตั้งอีกเหมือนกันคือการเคลื่อนไหวทางการเมืองในการตั้ง หาสมาชิก ย้ายพรรคของนักการเมือง ที่คึกคักสุดขีด เพราะเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งเปลี่ยนใหม่ ทำให้ชาวบ้านบางจำพวกที่คุ้นเคยกับระยะสี่ปีหลังรัฐประการ 22 พฤษภาคม 2557 ไม่สบายใจเกิดอาการตามเกณฑ์โหร คือคิดว่า คนอะไรผุดขึ้นเต็มเมืองไปหมด เช่น

                การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคที่เต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวอย่างพรรคไทยรักษาชาติ หรือแม้กระทั่งการคารวะแผ่นดินของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็อาจไปกระทบใจคนอีกฟากได้ตามที่เห็นๆ คือได้ทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ ฯลฯ

                คำถามคือในทางดวงชะตาเมืองปรากฏการณ์นี้จะทำไปสู่อะไร ผู้เขียนพยายามอ่านจากรหัสที่ส่งออกมาจากดวงดาวเพื่อสะกิดไว้ก่อนคือ

                1.อย่าลืมว่านอกจากลัคนาเมืองที่ถูกมฤตยูจร (0) เจ้าของภัย อาเพศ เหตุร้าย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหันทันทีทันใดโดยไม่คาดคิด การปฏิวัติ ล้ำสมัยชนิดที่คนรับไม่ได้มองว่าวิตถาร ฯลฯ ที่เดินอยู่ในราศีเมษทับลัคนาเมืองแล้ว พระอาทิตย์ดวงเดิมของเมือง (๑) ที่สถิตราศีเมษก็ถูกมฤตยูจรทับด้วยดังที่เขียนมาบ่อยๆ นั้น  ฉะนั้นการเมือง สภาวะการเมือง ผู้นำองค์กรต่างๆ คนมียศ มีศักดิ์ ฯลฯ ก็ จะถูกเขย่า เปลี่ยนแปลง ปฏิวัติอย่างหนักเพื่อหาทางใหม่ก้าวหน้าล้ำสมัย บางคราวเลยไปถึงวิตถารตามอาการของมฤตยู

                2.พระอาทิตย์ดวงเดิมของเมือง (๑) ที่มฤตยูจรทับอยู่นี้ยังเป็นตัวแทน ภพปุตตะ อันหมายถึงเด็กๆ วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ของเมือง ฉะนั้น เมื่อพฤหัสบดีจรเล็งพระอังคารดวงเดิม (๓) เป็นสื่อแทรกเข้ามา คนอะไรประเภท เด็กๆ  วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ หัวก้าวหน้าล้ำหรือท้าทายบรรทัดฐานเดิมของสังคม จึงปรากฏโฉมหน้าให้เห็นมากเป็นพิเศษในระดับ โดดเด่นตีคู่กับคนรุ่นเก่า-เก๋า เลยทีเดียว  ซึ่งผู้เขียนมีความเห็นว่าคนเหล่านี้ ขี่คลื่นมฤตยู ออกมากันเลยทีเดียว

                3.อีกประการหนึ่งที่ ขอให้จับตาเป็นพิเศษคือ ในทางโหรพระอาทิตย์ดวงเดิมนี้ (๑) เป็น ตัวแทนจิตใจ หรือที่ทางโหรเรียก ตนุเศษ ของเมืองรัตนโกสินทร์ด้วย ฉะนั้นเมื่อถูกมฤตยูจรมาทับเช่นนี้ จิตใจของคนในเมืองย่อมมีหวั่นไหว กระทบกระเทือน เปลี่ยนไปแบบคาดไม่ถึง

                4.ทีนี้ลองมาคาดหมายผลจากพระอาทิตย์ดวงเดิมถูกมฤตยูจรทับด้านดีคือจะมีการริเริ่มอะไรใหม่ๆ กำลังเข้มแข็ง ได้ผลดีทางเสนออะไรใหม่ๆ ประดิษฐ์คิดค้น (รวมทั้งการเมืองแนวใหม่)

                ส่วนด้านร้ายคือ อาจเกิดเข้าใจผิดกับผู้ใหญ่ ร่วมงานกับคนอื่นไร้ผล ซึ่งผลด้านนี้ผู้เขียนเป็นห่วงว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่อาจจะปะทะกันทางความคิดรุนแรงกับกลุ่มคนที่เป็นผู้ใหญ่ของเมือง หรือกลุ่มที่เหนียวแน่นอยู่กับบรรทัดฐานเดิมของสังคมจนเกิดอันตราย เพราะในตำรานั้นเมื่อพระมฤตยูทับพระอาทิตย์ชัดเจนว่า เป็นระยะที่ต้องระวังอันตรายจากอารมณ์ที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุม

                ซึ่งปรากฏการณ์ ปะทะกันระหว่างแนวความคิดเดิม กับ ความคิดใหม่บางอย่างที่จะเกิดขึ้นนี้ สอดคล้องกับ การมาถึงของยุคใหม่ยุคที่ 13 ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่กำลังจะปรากฏขึ้นปลายขอบฟ้าในอีกไม่นานนี้ ที่จะมีการต่อสู้ทางความคิดบางเรื่องที่ยาวนาน ซึ่งหากจัดการไม่ดีไม่ยอมรับกันละกันอาจจะกลายเป็นมากกว่าต่อสู้กันทางความคิด

                ซึ่งจะได้เขียนขยายผลความสุ่มเสี่ยงความขัดแย้งด้านความคิดในตอนต่อไป เพราะเรื่องนี้คาดหมายไว้นานแล้วในหนังสือที่ชื่อ ลอกคราบใหม่ประเทศไทย โดยสำนักพิมพ์ กรีน ปัญญาญาณ พิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่มกราคม 2558

ฟองสนาน จามรจันทร์