ผู้ส่งออกข้าว'สวน'คลัง บาทแข็งส่งผลราคาตก


เพิ่มเพื่อน    

          ในขณะที่หน่วยงานรัฐนำโดยกระทรวงการคลัง ต่างพาเหรดออกมายืนยันว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าตั้งแต่ปลายปี 2560 จนถึงขณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกหรือภาวะเศรษฐกิจโดยรวมนั้น  ล่าสุด นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กลับมีความเห็นที่แตกต่าง โดยระบุว่า การส่งออกข้าวในปี 2561 คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยรัฐบาลควรลงมาดูแลไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเร็วจนเกินไป ซึ่งระดับค่าเงินบาทที่ผู้ส่งออกข้าวแข่งขันราคากับข้าวของประเทศคู่แข่งได้ควรอยู่ที่ 33-33.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ           

           ทั้งนี้ในปี 2560 พบว่าการส่งออกข้าวไทยทำสถิติส่งออกปริมาณสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ปริมาณ 11.63 ล้านตัน มูลค่า 1.73 แสนล้านบาท แต่จากผลกระทบของค่าบาทแข็งค่าเมื่อปี 2560 ประมาณ 9%พบว่าทำให้รายได้เงินบาทจากการส่งออกข้าวหายไป 1 หมื่นล้านบาท

           สำหรับในปี 2561 มีความเป็นห่วงว่าหากค่าเงินยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งที่ส่งออกข้าว โดยเฉพาะประเทศเวียดนามจะส่งผลกระทบไปถึงเกษตรกร ที่จะขายข้าวได้ราคาลดลง โดยเฉพาะช่วงที่ผลผลิตข้าวนาปีของเวียดนามจะออกมาระหว่างมี.ค.-พ.ค. 2561 ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดข้าวเพิ่มสูงขึ้น และผู้ประกอบการไทยอาจต้องซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคาถูกลง เพื่อให้มีต้นทุนแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้            

           ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่าการส่งออกข้าวของไทยในปี 2561 นั้น คาดในช่วงครึ่งปีแรกการส่งออกข้าวยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยจากตลาดที่สำคัญในภูมิภาคแอฟริกา และเอชียยังคงมีความต้องการนำเข้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าการส่งออกข้าวอาจจะเผชิญอุปสรรค ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกคาดปริมาณการส่งออกข้าวของไทย อยู่ที่ 9.5 ล้านตัน หรือมีมูลค่าประมาณ 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 137,000 ล้านบาท.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"