อย่าได้แปลกใจ.........

ที่ไม่มีใครในพรรคเพื่อไทยออกมาพูดชัดๆ เกี่ยวกับกรณี "แตกพรรค" และ "พรรคแตก" มีแต่อ้อมแอ้มไปตามหลักการ

เพราะยุทธวิธีนี้ต้องทำแบบเงียบๆ ไม่ต้องเผยที่มาที่ไปเป็นดีที่สุด

พูดมากโอกาสพลาดถึงขั้นถูกยุบพรรคสูง

ขนาดนั้นเลยหรือ?

โดยเฉพาะกรณี "แตกพรรค" น่าเสียวไส้ที่สุด

จนบางทีต้องปล่อยให้เป็นข่าว "พรรคแตก" จะอยู่ในการควบคุมได้ดีกว่า

ณ วันนี้เป็นที่รับรู้กันว่า การแตกพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคไทยรักษาชาติ เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ซึ่งถูกบังคับโดยเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ

พ่อ-แม่ อยู่เพื่อไทย

ส่งลูกไปอยู่พรรคไทยรักษาชาติ

แล้วเคลมว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่

แต่โดยเนื้อแท้เป็นการ "แตก" ภายใต้ "การควบคุม"

อธิบายง่ายๆ เป็นพรรคพ่อ พรรคลูก

ฉะนั้นพรรคลูก ย่อมอยู่ในความควบคุมของพรรคพ่อเป็นธรรมดา โดยเฉพาะเรื่อง "ทุน"

แล้วทำไมต้องเสี่ยงถูกยุบ?

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรค การเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ มีความแตกต่างไปจากกฎหมายพรรค การเมืองฉบับก่อนๆ ในกรณีห้าม "คนนอก" ครอบงำพรรค

มาตรา ๒๘ ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

มาตรา ๒๙ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

ถ้าเข้าหลักเกณฑ์ ๒ ข้อนี้ ก็ต้องดูต่อ

มาตรา ๙๒ เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น

(๓) กระทำการฝ่าฝืนมาตรา ๒๐ วรรคสอง มาตรา ๒๘ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๖ มาตรา ๗๒ หรือมาตรา ๗๔

ดังนั้นหากใครในพรรคเพื่อไทยยอมรับว่า พรรคไทยรักษาชาติ เป็นพรรคลูกของพรรคเพื่อไทย ก็สุ่มเสี่ยงที่พรรคเพื่อไทยจะเข้าไปครอบงำ

และตามกฎหมายพรรคเพื่อไทยถือว่าเป็นคนนอกสำหรับพรรคไทยรักษาชาติ

แต่...ในความเป็นจริง ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ ยำออกมาเป็นไทยรักษาชาติ

ในทางลับทั้งทุนและนโยบายของไทยรักษาชาติล้วนออกมาจากพรรคเพื่อไทย

ฉะนั้นอย่าเผลอ อย่าพลาด เพราะโทษถึงขั้นยุบพรรค.