ดร.กฤต เลิศเศรษฐการ : ปฏิวัติไม่ทำให้อะไรดีขึ้น


เพิ่มเพื่อน    

พรรคการเมืองใหญ่ๆ ต่างทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ให้เห็นหน้าคร่าตากันบ้างแล้ว เรียกเสียงฮือฮา ทั้งอดีตนักการเมืองหน้าเก่า และทายาทนักการเมืองหน้าใหม่ ต่างแต่งตัวรอนับวันเลือกตั้ง แต่จะเป็นวันที่ 24 ก.พ.62 ตามที่กำหนดไว้หรือไม่นั้น ไม่มีอะไรรับประกันได้  

แต่ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแม่ยกของกลุ่มนักการเมืองหน้าใหม่หนีไม่พื้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ  และ "ไอติม" พริษฐ์ วัชรสินธุ จากพรรคประชาธิปัตย์  

อีกพรรคการเมืองที่ไม่สามารถมองข้ามได้ แม้หัวหน้าพรรคหน้าเก่า แต่ถือว่าใหม่ในสนามเลือกตั้งที่จะถึงนี้คือ  “พรรคเสรีรวมไทย” ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวช อดีต ผบ.ตร. นำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง ที่สมาชิกส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ 30 เขต ที่ต้องสู้กับอดีต  ส.ส.เจ้าถิ่นเขี้ยวรากดินพรรคประชาธิปัตย์ จะสามารถเจาะฐานเสียงได้หรือไม่   

หนึ่งในนั้นผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทยที่จะลงสู้ศึกเลือกตั้งเขต 5 “ดินแดง-ห้วยขวาง” โปรไฟล์ไม่ธรรมดาเป็นถึง “ดอกเตอร์” หรือ ดร.กฤต เลิศเศรษฐการ ปริญญาเอกรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาการจัดการภาครัฐและเอกชน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (Nida) ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ บ.ปิ่นเพชรโกลบอล จำกัด เป็นโรงงานผลิตทิชชูเปียกและเครื่องสำอาง ที่ควบคุมคุณภาพการผลิตตามมาตรฐาน GMP และ IOS 22716 แต่การชิงฐานเสียงครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อต้องแข่ง นายธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.ดินแดง และอดีตประธานสภากรุงเทพมหานคร

เขาเล่าถึงเหตุผลที่ลงสู่สนามการเมือง เพราะที่ผ่านมาเห็นการเมืองไทยล้มลุกคลุกคลาน มีการปฏิวัติรัฐประหารหลายรอบในยุคของคนรุ่นใหม่ การปฏิวัติแต่ละครั้งจะใช้เหตุผลการ “ทุจริตคอร์รัปชัน ความขัดแย้งทางสังคม” หรือเหตุผลอะไรหลายๆ อย่าง แต่สุดท้ายหลังจากปฏิวัติ “ทหาร” จะเข้ามาทุกรอบ แต่ “ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น” การทุจริตคอร์รัปชันความขัดแย้ง ยังเป็นเหตุผลที่ทหารใช้เป็นเหตุผลในการปฏิวัติ จริงๆ แล้วประชาธิปไตยของเมืองไทย ต่อให้เกิดความขัดแย้งยังไงก็แล้วแต่ ยังมีช่องทางที่จะสามารถก้าวข้ามกำแพงนั้น ถ้าไม่มีฝ่ายใดมาสนับสนุนหรือเซี่ยมให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ

เหตุผลที่เลือกพรรคเสรีรวมไทย เริ่มจาก “ความศรัทธา” ในตัวของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรค ได้ติดตามผลงานของท่านมา สมัยยังรับราชการเป็นตำรวจตงฉิน พูดจริง ทำจริง เวลามองคนผมจะมองที่ประวัติการทำงาน โปรไฟล์ของหัวหน้าพรรคคนนี้ใช่เลย 

ขณะเดียวกัน นโยบายปลดล็อกประเทศไทยด้วย 6 หยุด 1.หยุดความยากจน แก้ปัญหาปากท้อง สร้างความกินดีอยู่ดี 2.หยุดคอร์รัปชันฉ้อราษฎร์บังหลวง เอาเงินของชาติคืนประชาชน 3.หยุดยาเสพติดขจัดผู้มีอิทธิพลให้สิ้นซาก 

4.หยุดเผด็จการและปฏิรูปทหาร 5.หยุดไฟใต้ สร้างสังคมสันติสุข สมานฉันท์ และ 6.หยุดสร้างสงครามสีเสื้อ สร้างความปรองดอง ก้าวสู่อนาคตที่โดนใจมากที่สุดคือ “ยกเลิกเกณฑ์ทหาร” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้พูดเรื่องการยกเลิกการเกณฑ์ทหารมากว่า 2 ปีแล้ว เป็นคนแรกที่พูดในเรื่องนี้ มีเหตุและผลรองรับ ทำไมถึงต้องเลิก นอกจากนี้หัวหน้าพรรคยังเป็นผู้ใหญ่หัวทันสมัย เปิดโอกาศให้คนรุ่นใหม่เข้ามาแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่

พร้อมกันนั้นเขายังให้ความเห็นระหว่างการเมืองรุ่นเก่ากับการเมืองรุ่นใหม่ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ว่า การเมืองรุ่นเก่ามีข้อดีเยอะมาก แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีข้อเสียข้อด้อยในเรื่องการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ขัดแย้งเรื่องความคิด แต่คนรุ่นใหม่ “การทำงานไม่ได้มองความขัดแย้งเป็นความขัดแย้ง” เรามอง “ความขัดแย้งเป็นโอกาส”  เพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ตัวแทนผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทย สามารถนำประสบการณ์ของคนรุ่นเก่าบวกกับความสามารถ ความทันสมัยของคนรุ่นใหม่มาปรับใช้

“ถ้าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นสามารถเข้าไปอยู่ในสภาได้ อยากจะผลักดันการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของคนทุกกลุ่ม ถึงแม้ปัจจุบันจะมีบัตรทอง แต่เราสามารถที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นได้ดีกว่านี้ อย่างเช่น กรณีถูกหญิงสาวถูกสาดน้ำกรดจนเสียชีวิต ชนชั้นผู้ป่วยถูกแบ่งแยก รวมถึงความเหลื่อมล้ำของการรักษา เมื่อเกิดเรื่องขึ้นหน่วยงานรัฐกับโรงพยาบาลเขาจะช่วยเหลือกันตลอด ปัญหาที่มักหมมอยู่จึงไม่ถูกแก้จริงๆ จังๆ ควรมีหน่วยงานที่ประชาชนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบได้ กลายเป็นว่าตอนนี้คนจนไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ์การรักษาเบื้องต้น อุบัติเหตุฉุกเฉินที่จะมีผลต่อชีวิตได้เต็มที่”  

เขายังให้ความเห็นการหาเสียงหรือพบปะพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ทั้ง 30 เขตเลือกตั้งใน กทม.ว่า จากการประชุมผู้สมัครของพรรคที่ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ จะเป็นแคมเปญ “ปลดล็อกกรุงเทพฯ” ส.ส.เขตนั้น ไม่จำเป็นต้องดูแลเฉพาะเขตนั้น ส.ส.สามารถช่วยกันข้ามเขตได้ เพราะเราอาสาลงมาทำงานเพื่อประชาชน โดยเฉพาะพรรคของเราเป็นพรรคเล็ก ต้องมีจิตอาสา ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คะแนนเสียงถล่มทลาย คิดแต่ว่าเราอยากมาทำงาน เมื่อคิดว่าอยากมาทำงาน ต้องไม่มีการแบ่งเขต แต่ละเขตสามารถช่วยกันได้ ต้อง "ทำงานเป็นทีม"

 “เชื่อมั่น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นำพาพรรคไปได้ พรรคเสรีรวมไทยไม่ได้ตั้งมาเฉพาะกิจ ตั้งมาตั้งแต่ปี 56 และตั้งมั่นพรรคนี้จะอยู่กับประไทยไปอีก 100 ปี และการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ประเมินตนเองสามารถก้าวเข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชนในสภาได้ เพราะทั้งตัวผู้นำเองเคยรับราชการ มีบารมี วุฒิภาวะ คุณวุฒิ กล้าชนในสิ่งที่คนอื่นลังเล สามารถทำงานกับฝ่ายข้าราชการฝ่ายบริหารได้ดีกว่าเอกชนที่จะรู้เฉพาะในเรื่องเอกชนด้วยกัน”.   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"