ตำรวจรวบพ่อใจทรามข่มขืนลูกสาวในไส้


เพิ่มเพื่อน    

2 ก.พ.61 -  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.วสุวัฒน์ ปานเจริญ รอง สว.สส.ส.วิภาวดี   ร่วมกับ พ.ต.ต.ชาติชาย มูลลักษณ์ สว.สส. ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ เพ็งรัตน์ รอง สว.สส.สภ.หลังสวน จ.ชุมพร  นำลังเข้าจับกุม นายจอมพล หรือเก่ง ชูเพชรสมบูรณ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/3 หมู่ 13 ตำบลตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวนที่ 15/2561 ลงวันที่ 1 ก.พ.2561 โดยกล่าวหาว่าข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 13 ปี พรากผู้เยาว์ไปเพื่ออนาจาร จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าห้องแถวไม่มีเลขที่ ม.1 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกับควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.หลังสวน จ.ชุมพร

คดีดังกล่าว นายจอมพล หรือเก่ง ชูเพชรสมบูรณ์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.59  หลังมีหญิงคนหนึ่งอายุ 50 ปี พาหลานสาวอายุ 13 ปี เข้าแจ้งความกับเจตำรวจ สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมหลักฐานนำกระดาษสมุดที่เขียนด้วยลายมือของหลานสาว มีข้อความระบายความใจความว่า  “หนูโดนพ่อข่มขืนครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้ง 3 พร้อมทั้งระบุวันเวลา สถานที่ข่มขืนมากกว่า 3 ครั้ง” ในกระดาษยังระบุต่อไปว่า “หนูอยากเรียนหนังสือ หนูกลัวพ่อจะมากวนเพราะเวลาอยู่กับพ่อชอบบังคับทุบตีหนู“หนูอยากมีอิสระ”พ่อขู่จะฆ่าครอบครัวหนูหนูสงสารยาย”

กระดาษอีกแผ่นหนึ่ง เขียนว่า “เพราะเมื่อก่อนหนูอยู่กับตากับยายพ่อไม่เคยมาสนใจเลี้ยงดูพึ่งมาสนใจตอนหนูโต หนูอยากยู่กับยาย หนูไม่อยากยู่กับพ่อ ถ้าไม่จับพ่อ พ่อก็จะมาหาหนูอีก หนูไม่อยากไป หนูจะเรียนหนังสือ อยู่กับยาย ค่ะ”

 ด้านยายของเด็กสาวที่เดินทางมาปากคำกับตำรวจ สภ.หลังสวนเพิ่มเติม  กล่าวว่า เมื่อสิบกว่าปีก่อนลูกสาวคือแม่ของเด็กได้อยู่กินกับ นายจอมพล ผู้ต้องหา เมื่อลูกสาวตั้งท้องได้ 3 เดือน นายจอมพลก็ไปมีเมียใหม่ และเลิกกับลูกสาวตน ส่วนแม่ของเด็กก็มีสามีใหม่ย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นเช่นกัน ทิ้งลูกสาวไว้กับตาและยาย จนเด็กสาวอายุ 2 ขวบ นายจอมพล แวะมาหาลูกบ้างเป็นครั้งคราวโดยแต่ละครั้งพาเมียใหม่มาด้วย มีการดูแลบ้างแต่เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ และทิ้งระยะห่าง มาเยี่ยมปีละครั้งสองครั้ง

กระทั่งในปี 2557 เด็กสาว อายุ 10 ขวบ นายจอมพลได้มาที่บ้านในอาการเมายาอย่างหนักมารับเด็กสาว ออกไปจากบ้าน ยายเห็นว่า เป็นพ่อจึงไม่ได้สงสัย จนต่อมาหลานสาวเรียนหนังสือระดับมัธยม 1 เริ่มคบเพื่อนผู้ชาย จนจับได้ว่าได้เสียกันยายจึงบอกพ่อของเด็กสาวให้ไปแจ้งความ

"แต่แทนที่พ่อของเด็กสาวจะไปแจ้งความกลับตบตีเด็กสาวด้วยความรุนแรง พร้อมกับใช้คำพูดที่ไม่เหมือนพ่อกับลูกแต่เหมือนสามีหึงภรรยามากกว่า"

เธอ เล่าว่าบางครั้งว่า“กูโทรไปทำไมไม่รับวันๆมัวแต่ทำอะไรทำไมไม่ไลน์มาหากู” เป็นต้นแล้วนำตัวเด็กสาวไปกักตัวไว้ที่บ้านของตนเองร่วม 2 สัปดาห์ ไม่ยอมให้ติดต่อกับใคร ต่อมาตนได้ไปพบกระดาษที่เด็กสาวเขียนไว้ในห้องนอนจึงทราบความจริงว่าหลานถูกพ่อแท้ๆข่มขืนตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนถึงครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน ต.ค.59 ตอนนั้นอายุ 13 ปี โดยทุกครั้งพ่อข่มขู่จะฆ่าถ้านำเรื่องไปบอกใคร และบังคับให้เสพยาไอซ์ จะได้กระตุ้นการมีเซ็กส์แต่เด็กสาวไม่ยอมเสพ จึงพาหลานสาวไปแจ้งความกับตำรวจดังกล่าว

จากนั้นได้นำตัวเด็กสาว ไปตรวจร่างกายก่อนจะขอหมายจับจากศาลจังหวัดหลังสวน อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 1 ก.พ.61 ที่ผ่านมา และตำรวจ สภ.หลังสวน ติดตามจับกุมได้เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 ก.พ.61 ในพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานีดังกล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"