ฟ้องชนบนทางเท้า ขอให้ลงโทษหนัก


เพิ่มเพื่อน    

    ยื่นฟ้องหนุ่มแมสเซ็นเจอร์ขี่จักรยานยนต์บนทางเท้าชน นร.หญิงได้รับบาดเจ็บ อัยการขอให้ลงโทษสถานหนัก ชี้การกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนความสงบสุขและความปลอดภัยของคนเดินเท้า ศาลสั่งสืบประวัติ นัดฟังคำพิพากษา 23 ม.ค.62
    ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถนนรัชดาภิเษก วันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 2 (รัชดาฯ) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายภูวดล ศรีสำโรง อายุ 23 ปี อาชีพพนักงานรับ-ส่งเอกสาร เป็นจำเลยในความผิดฐานขับรถโดยประมาทฯ คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 พ.ย.61 จำเลยได้ขี่รถจักรยานยนต์ ทะเบียน กฏ 6283 กรุงเทพมหานคร มาตามถนนลาดพร้าว มุ่งหน้าย่านบางกะปิ ด้วยความประมาทปราศจากการระมัดระวังโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น มาถึงป้ายรอรถประจำทางบริเวณปากซอยลาดพร้าว 69 จำเลยกลับขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นไปบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควรด้วยความเร็วและความประมาท โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น ก่อนเฉี่ยวชน น.ส.กุลณี จันทรวิทุร นักเรียน รร.บดินทร์ 3 ล้มลงกระแทกพื้น ได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพก และบาดแผลถลอกที่ขาทั้ง 2 ข้าง เหตุเกิดที่แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 
    ต่อมาวันที่ 27 พ.ย. จำเลยได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีข้อหาขับรถประมาทน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นและทรัพย์สิน โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย และขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 390 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 32 43 (4) (7) (8) 157, 160 รวมทั้งขอให้ริบรถจักรยานยนต์ของกลางด้วย
    ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการระบุด้วยว่า การขับขี่รถของจำเลยเป็นการรบกวนความสงบสุขและความปลอดภัยของคนเดินเท้า และเป็นภยันตรายแก่บุคคลและทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด และเพื่อคุ้มครองสังคมและผู้สุจริตชน จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยสถานหนักด้วย
    จำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด และตกลงชดใช้ค่าเสียหายกับผู้เสียหายแล้วเป็นที่พอใจแล้ว
    ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะ ความประพฤติ ประวัติ การศึกษา และอื่นๆ ของจำเลย แล้วรายงานให้ศาลทราบเพื่อประกอบการพิจารณา และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 23 ม.ค.2562 เวลา 09.00 น.
    นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเทศกิจ 50 เขต ถึงการแก้ไขปัญหารถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าว่า ที่ผ่านมาแม้ กทม.จะออกมาตรการอย่างเข้มงวด ตามโครงการจับจริง ปรับจริง ทำให้ในรอบ 4 เดือน สามารถจับผู้กระทำผิดได้กว่า 10,000 ราย และปรับเป็นเงินได้กว่า 4 ล้านบาท แต่จำนวนผู้กระทำผิดกลับไม่ลดลง โดยเฉพาะในบริเวณที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เทศกิจประจำ มักพบผู้ฝ่าฝืนเช่นเดิม ดังนั้น กทม.ต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มงวดขึ้น โดยปรับเพิ่มผู้ขับขี่บนทางเท้า จากอัตราต่ำสุด 500 บาท เป็น 1,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.เป็นต้นไป เชื่อว่าการบังใช้กฎหมายอย่างจริงจังด้วยค่าปรับที่สูงขึ้นจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ 
    นายสกลธีกล่าวว่า ในที่ประชุมยังมีการหารือถึงการเพิ่มโครงการคู่ขนาน ด้วยการนำกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) จับภาพผู้กระทำผิด พร้อมส่งใบสั่งเป็นจดหมายไปยังที่พักอาศัย โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักเทศกิจหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อศึกษารายละเอียดดังกล่าว  
    "ในที่ประชุมยังหารือกรณีจุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) จากเดิมที่กำหนดให้จอดบนทางเท้าเพื่อแก้ไขปัญหากีดขวางการจราจรในบางจุด แต่วันนี้ได้มอบนโยบายสำนักเทศกิจสำรวจทางเท้าที่มีขนาดกว้าง ดำเนินการปาดเกาะเหมือนจุดจอดรถแท็กซี่ ไม่ให้รถจักรยานยนต์รับจ้างนำยานพาหนะไปจอดบนทางเท้าหรือกีดขวางการจราจรบนถนน เบื้องต้นสำรวจ 50 เขต พบมีจำนวน 400 จุด ส่วนทางเท้าที่มีขนาดแคบต้องหาทางแก้ไขในระยะยาว เช่น ย้ายจุดจอดหรือขอใช้พื้นที่เอกชน แต่คงไม่สามารถยกเลิกวินรถจักรยานยนต์ได้ เพราะจะเกิดปัญหากับประชาชน" นายสกลธีกล่าว
    มีรายงานว่า เมื่อเย็นวันพุธที่ผ่านมา พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร พร้อมด้วยนายจิรวัฒน์ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นำกำลังกวดขันวินัยจราจรบนทางเท้าบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าฟอร์จูนทาวน์ แยกพระราม 9 พล.ต.ต.นิธิธรกล่าวว่า ประชาชนที่พบเห็นรถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย โดยประชาชนที่แจ้งเบาะแส อาทิ ภาพถ่าย จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด จะได้รับส่วนแบ่งจากเงินค่าปรับร้อยละ 50. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"