เพื่อชาติขอเป็น'เกาะกลาง'ยุติสงคราม'จตุพร'วอนอย่าบิดเบือนสมคบเผด็จการ!


เพิ่มเพื่อน    

30 พ.ย.61 - ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าววานนี้  พรรคเพื่อชาติ(พพช.)จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชน นำโดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคและทีมโฆษกพรรค นำโดย น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ และมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติเข้าร่วม

นายยงยุทธ กล่าวว่า ความปรองดองไม่ใช่จับมือเผด็จการ แต่หมายถึงต้องมีพื้นที่พูดคุย เหมือนนักมวยก็มีกติกา อย่างเกาหลีเหนือเกาหลีใต้ที่เคยรบกันเป็นสงครามมาจากคนยุแยง สุดท้ายคนที่ตายคือคนเกาหลีเอง สังคมไทยยังไม่ถึงขั้นสงคราม แต่เป็นพหุนิยมต้องอยู่ด้วยกันได้ นโยบายพรรคจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่ทรัพย์สินของคนรวยเพียง 5% มารวมกัน มากกว่าทรัพย์สินของคนจนถึง 70 % หัวหน้าพรรคนี้สร้างตัวมาตั้งแต่ขายของจนมาเป็นนายห้าง วันนี้ขอช่วยเหลือประชาชนในบั้นปลายชีวิต

ด้านนายสงคราม กล่าวว่า ที่ตนรับเป็นหัวหน้าพรรคนี้ เพราะเห็นนโยบายกรรมการบริหารพรรคชุดเก่ามีจุดยืนที่ดี เป็นเกาะกลาง แม้จุดยืนแตกต่างความคิดต้องคุยกันได้ จากที่ผ่านมาบ้านเมืองไปไม่ได้ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมมีมากเหลือเกิน ที่ไหนมีความเหลื่อมล้ำความไม่เป็นธรรมมากจะหาความสงบไม่ได้ ตนสนับสนุนเรื่องการศึกษาต้องสร้างคนจะได้สร้างชาติ แม้ตนเคยยากจน มาวันนี้มีกินแล้วก็ไม่ใช่วัวลืมตีน คิดว่าจะทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ส่วนนายจตุพร กล่าวว่า การเป็นกองเชียร์กดดันกว่าการเป็นผู้เล่น เราเห็นว่าประชาชนมีความหวังกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น วันเลือกตั้งยังไม่ระบุเป็นวันที่ 24 ก.พ. 2562 ร้อยเปอร์เซ็นต์ ภารกิจสำคัญที่ตนกับนายยงยุทธเห็นตรงกันคือการเป็นเกาะกลางให้คนในชาติ พูดคุยกันโดยไม่เปลี่ยนจุดยืนทางการเมือง การแก้ไขความขัดแย้งในอดีตอย่างคำสั่งที่ 66/2523 ยุติสงครามพรรคคอมมิวนิสต์นั้น ไม่ใช่ยุติได้ด้วยคำสั่งฉบับเดียว ความจริงได้คุยเจรจากันเป็นเวลานานให้ทุกคนเห็นพ้องในการพัฒนาชาติ จนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจวางปืนลง เรื่องความเหลื่อมล้ำ สิทธิ คอร์รัปชัน ความเป็นธรรม รัฐบาลจะดำเนินการเอง ก่อนหน้านั้นฆ่ากันมานับ 10 ปี เขายุติได้เพราะแต่ละฝ่ายรู้สึกว่าฆ่ากันไม่เจรจาได้ ทุกฝ่ายก็ตายและเป็นคนไทยทั้งคู่

นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า วันนี้ถ้าไม่ออกจากความขัดแย้งไม่มีทางแก้ไขปัญหาชาติได้ รัฐธรรมนูญปัจจุบันนำพาสู่วิกฤติได้ทุกวัน การเลือกตั้งจะนำความหวังมาสู่คนไทยอย่างแท้จริง วันนี้คนไทยกลัวความไม่สงบ ต้องการเลือกตั้ง และมีปัญหาปากท้อง ทั้งสามเรื่องเป็นภาระหน้าที่ของพรรคการเมือง เราจะเดินสู่การเลือกตั้งที่เรียบร้อยอย่างไรเป็นเรื่องใหญ่ ควรจะเป็นการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม ผู้มีอำนาจตกลงสัญญาประชาคมกัน วิกฤตจะไม่เกิด ถ้าไม่เป็นธรรมจะเกิดความขัดแย้งอีก ทุกตำแหน่งล้วนมีอดีตอธิบาย เราจะจบอย่างไรให้ลูกหลานจดจำ หัวหน้าพรรคบอกว่าต้องไม่ส่งมรดกบาปให้ลูกหลาน และอย่าบิดเบือนการเปิดเวทีคุยเป็นเผด็จการหรือสมคบเผด็จการ ถ้าไม่คุยกันไม่มีสัญญาประชาคมจะไม่เป็นที่ยุติ

ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันที่ 7 ธ.ค. ที่ คสช.เชิญพรรคการเมืองหารือจะเข้าร่วมหรือไม่ นายสงคราม กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นเรื่องของ กกต. ไม่เกี่ยวกับ คสช. เราก็ไม่รู้ไปเพื่ออะไร อย่างไรก็ตาม พรรคจะปรึกษากันก่อนว่าควรจะไปหรือไม่ ไปแล้วได้อะไร

เมื่อถามนายจตุพรว่าเมื่อไหร่ถึงจะมั่นใจได้ว่าจะมีการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทยเคยมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้วไม่มีเลือกตั้ง เช่นในปี 2549 จะมั่นใจวันไหนต้องดูวันเลือกตั้งเท่านั้น แม้มีประกาศก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ได้เลือกตั้งแล้วก็ไม่รู้เลือกตั้งจะโมฆะหรือไม่ ประวัติศาสตร์บอกแล้วว่าการเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอน

ถามถึงการแบ่งเขตเลือกตั้ง นายจตุพร กล่าวว่า พรรคการเมืองถ้าคิดจะต่อสู้ทั้ง 350 เขต ไม่ว่าจะสลับเขตเลือกตั้งอย่างไร พรรคเพื่อชาติไม่ได้รับผลกระทบต่อการแบ่งเขตครั้งนี้ และไม่รู้สึกกังวลใดๆ เลย แต่ยืนยันว่าพรรคจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันครบทุกเขต ส่วนจะได้ที่นั่งกี่ที่นั้นเป็นเรื่องการตัดสินใจของประชาชน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"