หมายจับคนงานหื่น ลวงแหม่มอนาจาร


เพิ่มเพื่อน    

    งามหน้าท่องเที่ยวไทย แหม่มนิวซีแลนด์ไปดื่มกินกับเพื่อนที่ถนนข้าวสาร ขากลับถูกคนงานชาวไทยลวงเข้าไซต์งานก่อสร้างตรงข้ามวัดราชบพิธฯ ก่อนพยายามจะข่มขืน ผู้เสียหายร่ำไห้ตกใจวิ่งหนีออกมารอดหวุดหวิดแจ้งตำรวจรักษาการณ์ รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับพร้อมเร่งติดตามตัว 
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 3 ธันวาคมนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงว่า ได้รับรายงานจาก สน.สำราญราษฎร์ ว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พานักท่องเที่ยวสัญชาตินิวซีแลนด์ อายุ 29 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ระบุว่า หญิงนักท่องเที่ยวรายนี้ได้วิ่งออกมาจากบริเวณที่ก่อสร้างตรงข้ามวัดราชบพิธฯ เลขที่ 125/5 ถนนเฟื่องนคร แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ และร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ที่บริเวณวัดราชบพิธฯ พามาที่ สน. โดยในระหว่างอยู่ที่สถานีตำรวจ นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวอยู่ในอาการตกใจและร้องไห้ตลอดเวลา พนักงานสอบสวนจึงได้ติดต่อให้เพื่อนของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวมาให้ข้อมูลที่ สน. 
    จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า นักท่องเที่ยวผู้เป็นเพื่อนและผู้เสียหายได้มาเที่ยวและดื่มสุรากันที่ร้านย่านถนนข่าวสาร จากนั้นได้แยกย้ายกันไป โดยผู้เสียหายได้เดินแยกมากับชายผู้หนึ่ง เมื่อเวลาประมาณ 02.23 น. ชายดังกล่าวได้พาผู้เสียหายเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างอยู่ ในเวลาต่อมาผู้เสียหายได้เดินออกมาจากที่เกิดเหตุในสภาพที่ตกใจและร้องไห้อย่างหนัก สอบถามได้ความเบื้องต้นว่าถูกคนร้ายทำอนาจาร พยายามข่มขืน พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ถ่ายภาพ ทำแผนที่เกิดเหตุ ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายกับแพทย์เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบคดี และฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดติดตามเส้นทางหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้แจ้งเหตุชาวต่างชาติตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาไปยังกองบังคับการกองการต่างประเทศ (บก.ตท.) รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูตที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
    รองโฆษก ตร.กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่ออนุมัติให้ออกหมายจับผู้ต้องหารายดังกล่าวในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ยังคงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งข้อมูลให้ตำรวจในสังกัด อาทิเช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจทางหลวง และตามพื้นที่ต่างๆ ช่วยตรวจสอบและทำการสกัดจับคนร้ายที่กำลังหลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า คดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อที่จะได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม
    พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ล่าสุด พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว คือนายอาณัฐ อุดดี อายุ 34 ปี ช่างก่อสร้างใกล้จุดเกิดเหตุ ขณะนี้ขออำนาจศาลออกหมายจับแล้ว อยู่ระหว่างติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา เนื่องจากพฤติกรรมคนร้ายมีเป้าหมายข่มขืนเหยื่อ
    ผบช.น.กล่าวว่า จากการสอบถามผู้เสียหายเบื้องต้น ทราบว่าผู้เสียหายมาท่องเที่ยวและดื่มสุราที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนข้าวสาร กระทั่งเวลาประมาณ 02.23 น. ผู้เสียหายพบนายอาณัฐก่อนจะถูกพาเข้าไปในที่ลับและใช้มือลวนลามจับต้องของสงวน นักท่องเที่ยวจึงตกใจและวิ่งมาขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติเวรรักษาการณ์ ให้พามาแจ้งความที่ สน.สำราญราษฎร์.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"