จ่อฟัน50ดารา เอี่ยวเมจิกสกิน


เพิ่มเพื่อน    

    "วิระชัย" แย้มดารากว่า 50 คนติดร่างแหร่วม "เมจิก สกิน" ฉ้อโกงประชาชน รอ อย.แจ้งรายชื่อพร้อมข้อหาอาทิตย์หน้าก่อนออกหมายเรียก ด้านผู้เสียหายกว่าร้อยยื่นหนังสือถึง อสส.ข้องใจอัยการยื้อสำนวน สั่งสอบประเด็นยิบย่อย หวั่นขาดอายุความทั้งที่รอง ผบ.ตร.ยันสำนวนสมบูรณ์ รองโฆษกแจงต้องพิจารณารอบคอบ ซัดกลับตำรวจไม่มีหน้าที่ฟ้องศาล 
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 6 ธันวาคมนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีเมจิก สกิน พร้อมเปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เพื่อติดตามคดีมี 3 ประเด็นด้วยกันคือ 1.ติดตามความคืบหน้ากลุ่มบริษัท เมจิก สกิน และผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นนิติบุคคล 5 ราย บุคคลธรรมดา 15 คน แต่บางรายอาจผิดหลายข้อหา พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดไปยังอัยการแล้ว มีบางประเด็นที่อัยการสั่งให้สอบเพิ่มเติม ในการประชุมวันนี้จะทำการสรุปแล้วส่งให้อัยการ เพื่อฟ้องศาลต่อไป
    2.การยึดทรัพย์กลุ่มบริษัทเมจิกสกินและผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้รับเป็นคดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน เพราะกลุ่มบริษัท เมจิก สกิน และผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน เข้ามูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.การฟอกเงิน ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ยึดทรัพย์ที่เป็นเงินสดมากกว่า 19 ล้านบาท และรถยนต์หรูคันละ 20 ล้านบาท 2 คัน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเตรียมอายัดเพิ่มเติม ฝากไปยังผู้เสียหายทั่วประเทศให้นำหลักฐานความเสียหายเพื่อไปขอเฉลี่ยทรัพย์ไปแจ้งที่ ปปง. ยื่นความจำนงเพื่อเฉลี่ยทรัพย์ในคดีนี้ แสดงตัวภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ขณะนี้ยังไม่ได้ประกาศ แต่สามารถไปยื่นไว้ก่อนได้
    3.การดำเนินคดีกับกลุ่มศิลปินดาราที่รีวิวสินค้าให้กับบริษัท เมจิก สกิน ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานอาหารและยา (อย.) ฟันธงมีดาราเข้าข่ายการกระทำความผิดอาญาไม่น้อยกว่า 50 คน ทาง อย.จะได้ส่งรายชื่อมาให้พนักงานสอบสวนเพื่อออกหมายเรียกมาแจ้งข้อหาตามกฎหมาย คาดว่าสัปดาห์หน้าจะทราบว่าใครทำผิดข้อหาไหนตามที่ อย.ระบุ และเรียกมารับทราบข้อหาได้ในวันไหน เพราะมีหลายคน     
    ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก กลุ่มผู้เสียหายจากบริษัทในเครือเมจิก สกิน จำนวนกว่า 140 คน เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รับข้อร้องเรียน
    กลุ่มผู้ร้องเรียนระบุว่า ภายหลังจากพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหามาแล้ว ทางพนักงานอัยการได้มีคำสั่งให้เลื่อนฟังคำสั่งคดีออกไปหลายครั้ง จนเกรงว่าจะไม่ได้ความเป็นธรรมและประวิงคดีจนอายุความหมดลง อีกทั้งทราบว่าพนักงานอัยการได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายแล้วมีอาการแพ้ ซึ่งมองว่าเป็นคนละประเด็นกับเรื่องที่พวกตนเป็นผู้เสียหายจากการถูกผู้ต้องหาฉ้อโกง อีกทั้งมีความยากลำบากในการนำตัวผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มาให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มตามคำสั่งอัยการ เนื่องจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่มีใครยอมมา
    ผู้ร้องระบุด้วยว่า ได้ทราบจาก พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ว่าสำนวนสอบสวนน่าจะครบถ้วนสมบูรณ์พอฟ้องได้แล้ว 
    ขณะที่นายโกศลวัฒน์กล่าวว่า คดีนี้พนักงานอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากรได้นัดฟังคำสั่งคดีอีกครั้ง ในวันที่ 13, 14 และ 18 ธันวาคม ทางอัยการไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ได้สั่งกำชับให้ความสำคัญกับคดีนี้มาโดยตลอด โดยทางอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากรได้พิจารณาสำนวนในรูปแบบคณะทำงาน มีการตั้งระดับรองอธิบดี อัยการพิเศษฝ่าย พิจารณาสำนวน เรื้องนี้ไม่ได้เป็นการพิจารณาล่าช้า แต่เพราะมีผู้เสียหายมาก ขณะนี้อัยการได้รับแล้ว 3 สำนวน มีผู้เสียหาย 300 คน ต้องอ่านคำให้การผู้เสียหายหมดทุกคน ถ้าตรงไหนที่เห็นว่าไม่ครบถ้วนก็ต้องสั่งสอบเพิ่ม ซึ่งรวมถึงเรื่องการขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย 
    "ที่บอกว่ามีตำรวจบอกพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว ต้องเข้าใจว่าต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ ทางตำรวจไม่ได้มีหน้าที่ไปยื่นฟ้องในศาล คนที่ไปยื่นฟ้องในศาลคืออัยการ ทุกคนก็มีหน้าที่ของตนที่ต้องทำให้ดีที่สุด การสั่งสอบเพิ่มเติมคณะทำงานของอัยการก็ได้พิจารณาแล้ว".  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"