หงษ์ทองบุกตลาดล่าง หลังข้าวหอมแพงขึ้น 40%


เพิ่มเพื่อน    

 

ข้าวหงษ์ทอง ปรับแผนลุยตลาดระดับล่าง หลังพบราคาข้าวหอมปรับสูงขึ้น 30-40% กระทบผู้บริโภคชะลอซื้อกลุ่มบน พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ ควบขยายออนไลน์ หวังโกยยอดปีหน้าแตะ 2,500 ล้านบาท 

นายกัมปนาท มานะธัญญา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวแบรนด์ “หงษ์ทอง” เปิดเผยว่า แนวทางในการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ จะเติมเต็มสินค้าให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น โดยเฉพาะข้าวในตลาดระดับล่าง ซึ่งต้องยอมรับว่าจากราคาข้าหอมที่ปรับตัวสูงขึ้น 30-40% ที่ผ่านมา มีผลต่อการตัดสินใจซื้อข้าวระดับบนที่ราคาค่อนข้างสูง ผู้บริโภคหันไปซื้อข้าวขาวและข้าวผสมแทน บริษัทจึงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์แบรนด์หงษ์ทองได้มากขึ้น

สำหรับการบุกตลาดข้าวระดับล่างของบริษัท จะเริ่มทำนำข้าวหอมผสมทดลองตลาดช่วงต้นปี 2562 เพื่อดูผลตอบรับจากผู้บริโภคและคู่แข่งในตลาดว่าเป็นอย่างไร โดยเดิมทีบริษัทเคยทำตลาดข้าวระดับล่างมาก่อนแล้ว แต่ไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ ในครั้งนี้นับเป็นการปัดฝุ่นและเลือกจะลุยเซ็กเมนต์นี้ให้หนักกว่าทุกครั้ง เพราะแนวโน้มของราคาข้าวในปีหน้า มีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก เนื่องจากราคา ณ เดือน พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งควรจะต้องราคาถูกกว่านี้ แต่กลับพบว่าราคาค่อนข้างสูง หากรับซื้อมาในราคาที่แพง คงไม่สามารถผลิตและจำหน่ายราคาที่ถูกกว่ารับซื้อมาได้

พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้มีการออกสินค้าใหม่ช่วงปลายปี 2561 นี้ ได้แก่ ข้าวกล้อง และข้าวหอมปทุม ซึ่งมีผลตอบรับค่อนข้างดี เชื่อว่าจะส่งผลต่อเนื่องไปยังปี 2562 ให้บริษัทมียอดขายที่เติบโตมากขึ้น โดยยังเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดในปีหน้าควบคู่กันไปด้วย

ขณะเดียวกันบริษัทยังได้จำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยที่ผ่านมามีการเติบโตมากกว่า 500% ทำให้วางแผนขยายช่องทางตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นในปี 2562 นอกจากนี้เราได้เตรียมการลงทุนด้านเพิ่มขึ้นบางส่วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มสินค้าใหม่เพื่อเพิ่มทางเลือก และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น, การจัดการระบบแพ็คกิ้งและการจัดส่งเพื่อรองรับการเติบโตที่จะเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงในส่วนของการผลิตที่เปิดสายการผลิตใหม่นำเครื่องจักรโรบอทมาใช้เพิ่มขึ้น คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี หลังจากปรับมาให้ความสำคัญกับตลาดข้าวสารบรรจุถุงระดับล่าง บวกกับการออกสินค้าใหม่ และเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการในปีหน้า โดยวางเป้าหมายเติบโต 25% หรือคิดเป็น 2,500 ล้านบาท หรืออย่างน้อยเติบโตที่ 5%


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"