กกต.ถกด่วนบัตรเลือกตั้ง


เพิ่มเพื่อน    

    กกต.นัดถกอังคารนี้ หลังโดนสหบาทา เละ! ปมชงบัตรเลือกตั้งไม่มีชื่อ-โลโก้พรรค "จรุงวิทย์" แจงหวั่นพิมพ์บัตรส่งไปเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไม่ทัน จับตาถอย-เดินหน้า ปชป.หวดหนัก แนะแก้ กม.เลือกตั้ง ส.ส. ขู่จับมือพรรคการเมืองก่อหวอด ประชาธิปัตย์-เพื่อไทยเห็นตรงกัน เชื่อเป็นอีกหมากกลนำไปสู่การเลือกตั้งสกปรก อาจซ้ำรอยปี 2500 "สมชัย" เตือนถึงขั้นโมฆะ 7 เสือ กกต.ระวังเจอคุก 
    หลังทุกพรรคการเมืองออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะให้พิมพ์บัตรเลือกตั้ง ส.ส. โดยไม่มีโลโก้พรรคและชื่อพรรคการเมือง ในบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส.โดยให้มีแต่ชื่อกับเบอร์เท่านั้น ต้องจับตาว่าสุดท้ายแล้ว กกต.จะมีท่าทีในเรื่องนี้อย่างไร 
    โดยนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กกต. เปิดเผยว่า กกต.จะประชุมประจำสัปดาห์ในวันอังคารและพุธนี้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องดูว่าประธาน กกต.จะนำมาหารือในสัปดาห์นี้เลยหรือไม่ แต่ดูแล้วเรื่องนี้ กกต.คงต้องนำมาพิจารณากันในที่ประชุม 
    ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เรื่องการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ส.ส. ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต. ซึ่งพร้อมรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย รวมถึงพรรคการเมืองด้วย การที่ กกต.จะกำหนดว่าบัตรเลือกตั้งควรมีลักษณะใด มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความเท่าเทียมกันของพรรคใหญ่ พรรคเล็ก และพรรคใหม่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก การรักษาสิทธิของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ การป้องกัน การปลอมแปลงบัตร ระยะเวลาการจัดพิมพ์ และการขนส่ง
    “ตามปฏิทินการทำงานที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสนอต่อที่ประชุมร่วมพรรคการเมืองเมื่อ 7 ธันวาคม ถ้าปิดรับสมัครในวันที่ 18 ม.ค.2562 ในวันที่  25 ม.ค. กกต.ประกาศรายชื่อผู้สมัครแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ และวันที่ 4-16 ก.พ.เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เท่ากับระยะเวลาในการจัดพิมพ์บัตรและส่งบัตรก่อนที่จะถึงห้วงแรกที่คนไทยในต่างประเทศใช้สิทธิเลือกตั้งค่อนข้างกระชั้น จึงไม่อยากให้ทุกฝ่ายมองเรื่องบัตรเลือกตั้งเชิงการเมืองเพียงอย่างเดียว ต้องนำปัจจัยต่างๆ  รวมทั้งความเห็นทั้งหมดนำเสนอ กกต.เพื่อพิจารณาต่อไป” พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว
    กระนั้นฝ่ายพรรคการเมืองต่างๆ ก็ยังแสดงความเห็นคัดค้านเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เริ่มที่พรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า เหตุผลที่ กกต.อ้างความไม่สะดวกในการพิมพ์ และการจัดส่งบัตรเลือกตั้งให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักรมีน้ำหนักไม่พอ กกต.ต้องยึดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งเป็นหลักเหนือกว่าปัญหาทางเทคนิค จึงขอเสนอแนวทางแก้ไข 2 ประการให้ กกต.พิจารณา คือ 1.พิมพ์ชื่อและโลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้งเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยการเลือกตั้งแบบใหม่ใช้บัตรใบเดียวเลือกทั้ง ส.ส.เขตและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือเลือกพรรคนั่นเอง ดังนั้นชื่อพรรคหรือโลโก้ของพรรคจึงเป็นสัญลักษณ์ของ ส.ส.บัญชีราชชื่อ 150 คน และรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรคการเมือง จึงถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของบัตรเลือกตั้ง วิธีนี้ กกต.สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองตามอำนาจหน้าที่ในมาตรา 85 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
    2.แก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 48 เพื่อให้เลขประจำตัวผู้สมัครของ ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อพรรคเป็นหมายเลขเดียวกันทุกเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยรูปแบบบัตรเลือกตั้งต้องมีชื่อและโลโก้พรรคการเมืองด้วยดังเช่นเคยปฏิบัติมาในอดีต วิธีการนี้ กกต.ต้องเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบ
     “ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์เมื่อ 8 ธ.ค. ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับรูปแบบบัตรเลือกตั้งของ กกต. และหากยังไม่ทบทวนก็จะประสานหารือกับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่มีจุดยืนตรงกันในการแสดงท่าทีคัดค้านและกำหนดมาตรการดำเนินการร่วมกันต่อไป" นายอลงกรณ์กล่าว
    ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวเช่นกันว่า เรื่องนี้เสมือนจงใจปกปิดข้อมูลที่ผู้ไปลงคะแนนควรรู้ก่อนลงคะแนน และเสมือนจงใจปิดตาผู้เข้าคูหาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไม่ต้องการให้รู้ว่าผู้สมัครหมายเลขนั้นสังกัดพรรคการเมืองไหน เหมือนกลัวว่าพรรคการเมืองนั้นจะได้คะแนน และหากมองลึกลงไปทำให้เห็นเจตนา คือการทำลายความสำคัญของพรรคการเมือง มุ่งหวังตัดคะแนนของพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองบางพรรคที่ถืออำนาจรัฐ แต่มุ่งขายคนมากกว่าขายพรรค ซึ่งเป็นวิธีการเอาเปรียบ 
    "หาก กกต.ยอมตาม ก็จะทำให้ กกต.หมดความน่าเชื่อถือ การเลือกตั้งที่จะหวังว่าต่อจากนี้จะหลงเหลือความยุติธรรมอยู่บ้างก็คงหวังยาก และอาจเป็นอีกครั้งหนึ่งที่นำไปสู่การเลือกตั้งสกปรกในอนาคต"
    เช่นเดียวกับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ที่ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรค ปชป. ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “มุกตื้น เจอ มุกมักง่าย กลายเป็นมุกแป้ก” มีเนื้อหาว่า มุกตื้นๆ ของการมีบัตรเลือกตั้งที่ใส่แค่เบอร์ และชื่อของผู้สมัคร คือ ให้นักการเมืองที่มีชื่อคุ้นเคยของประชาชนได้เปรียบ เพราะชื่อเหล่านี้วันนี้ย้ายพรรคไปแล้ว เผื่อชาวบ้านจะยังนึกว่าอยู่พรรคเดิม กาลงคะแนนให้ คนได้ประโยชน์คือ พรรคที่ดูดเอานักการเมืองเก่าๆไปสังกัดเยอะๆ พรรคไหน ไปตามข่าวกันเอง
    "มุกมักง่ายของการจะพิมพ์บัตรเลือกตั้งโหล คือ มีแค่เบอร์ ไม่ต้องมีรายละเอียดอื่น ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้สมัคร ชื่อพรรค หรือโลโก้พรรค คือ พิมพ์ง่าย พิมพ์แค่โรงพิมพ์เดียวส่งทั่วประเทศ ไม่ต้องไปออกแบบบัตรต่างกัน 350 แบบ มุกแป้ก ที่เกิดขึ้นจากการเสนอมุมตื้นๆ และมุกมักง่าย คือ คนด่าทั้งประเทศ และหากจะดันทุรังเดินหน้าพิมพ์บัตรโหลกันต่อ คือ จะนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และถึงวันนั้น หากศาลตัดสินว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ใครต้องชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งเกือบ 5,000 ล้านบาท ใครจะโดนข้อหากระทำการโดยประมาททำให้ราชการเกิดความเสียหาย น่าจะเดาได้ไม่ยากว่ามี 7 คน" อดีต กกต.ระบุ
    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้า ปชป. แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ตอนหนึ่งว่า อย่าเถียงกันเลย เราเป็นคนว่านอนสอนง่ายดีกว่า ท่านว่ามาอย่างไรก็เอาอย่างนั้นแหละ พกความแค้นเข้าไปกากบาทในคูหากันดีกว่า
    เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็ออกมาแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง เช่น นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พท. ที่กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์กำลังแสดงให้เห็นถึงปรากฏการณ์เอาเปรียบการเลือกตั้ง แทรกแซงทุกอย่าง แม้แต่ กกต. แล้วจะเลือกตั้งกันไปทำไม คนแก่คนเฒ่าเขาจำชื่อและโลโก้พรรค แบบนี้สับสนทำการเลือกตั้งโกลาหลวุ่นวายแน่นอน ขอให้เลิกใช้กลไกต่างๆ เพื่อกลโกงในกลเกมนี้ได้แล้ว 
    สอดรับกับนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค พท. โพสต์เฟซบุ๊ก โดยเขียนถึงข้อมูลการเลือกตั้งเมื่อ 26 ก.พ.2500 ที่ถูกระบุว่าเป็นการเลือกตั้งสกปรกที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะมีการใช้วิธีต่างๆ เช่น พลร่ม-ไพ่ไฟ ตลอดจนแอบเปลี่ยนหีบเลือกตั้งในที่ลับตาคน รุนแรงถึงขนาดมีการฆาตกรรมคนที่สนับสนุนผู้สมัครบางคนด้วย อีกทั้งการนับคะแนนยังใช้เวลานับกันยาวนานถึง 7 วัน 7 คืน แต่การเลือกตั้ง 2562 จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ว่าเป็นการเลือกตั้งที่อยุติธรรมที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
    นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะสมาชิก พท. โพสต์เฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “แบร่... แบร่... แบร่...กะอีแค่โลโก้พรรคเพื่อไทย  ลุง..จะกลัวอะไรปานนั้นครับ" ระบุว่า คนไทยเขาจะไปเลือกผู้แทนราษฎรตามระบอบประชาธิปไตยกันไม่ได้ไปซื้อหวยเถื่อนหน้าปากซอย จะได้ท่องเบอร์กันตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน เล่นไม่ใส่โลโก้ แล้วจะกาบัตรคนที่รัก-พรรคที่ชอบกันได้อย่างไร ขอเตือนว่าคนไทยขี้สงสารและมีจิตใจรักความเป็นธรรม พร้อมยืนอยู่ข้างผู้ที่โดนกลั่นแกล้ง โดนรังแกเสมอ
    “เรื่องโลโก้พรรคบอกไว้เลย หากวันใดที่ กกต.ตกเป็นทาสในเรือนเบี้ย ต้องคอยรับคำสั่งของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ยอมใส่โลโก้ไม่ยอมใส่ชื่อพรรคการเมืองเข้าไปในบัตรเลือกตั้ง ผมจะชวนผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดของพรรคไปอำเภอแจ้งเปลี่ยนนามสกุลเป็นพรรคเพื่อไทยกันให้หมด เตรียมตัวพบกันได้เลย” นายพานทองแท้ระบุ
    นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ขทพ.) กล่าวเช่นกันว่า ปัญหาที่น่าเป็นห่วงมากคือ ถ้าจะมีการโกงกัน คือการนำบัตรอีกเขตหนึ่งคร่อมไปไว้อีกเขตหนึ่ง ก็เหมือนกันไปหมด เพราะถ้ามีการพิมพ์ซ้ำบัตรเลือกตั้งไม่มีทางรู้ได้เลย แล้วยิ่งถ้ากามาเป็นเขตอีกชุดหนึ่งเหมือนสมัยก่อนที่มีการโกงกันนั้น ก็จะเป็นบัตรผีเอาไปสลับกับบัตรจริง ก็จะไม่มีโอกาสรู้ได้เลย ในประเด็นนี้ ขอเสนอทางออกให้มีการพิมพ์รันนิ่งนัมเบอร์ เหมือนแบงก์ทั่วประเทศ และอาจมีลายน้ำหรือมีสัญลักษณ์อะไรที่ปลอมไม่ได้ด้วย
    “ปัญหานี้เป็นปัญหาในเชิงข้อกฎหมายที่สลับซับซ้อนมาก สมควรที่ทุกฝ่ายต้องมาพูดคุยกันว่าควรจะหาทางออกกันอย่างไร เพราะหากไม่ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อการเลือกตั้ง จะกลายเป็นการเลือกตั้งที่ลำบากมาก” นายนิกรกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"