เฮโลถอนเงิน500 กลัวรัฐบาลเอาคืน


เพิ่มเพื่อน    

    ไม่ต้องแย่งกัน กรมบัญชีกลางแจงเงินโบนัส 500 บาทในบัตร ไม่มีการดึงคืน เก็บไว้ใช้ได้ยาวๆ การันตีวันที่ 10 ธ.ค.โอนเงินของขวัญปีใหม่ถึงมือ 11.4 ล้านคน 5,700 ล้านบาท ขณะที่ประชาชนยังเฮโลไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทย เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลแจกเงินแค่ 3 วัน ธุรกิจรับจ้างกดเงินเฟื่องฟูเพราะคนแก่สับสน 
    นางญาณี แสงศรีจันทร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง และโฆษกกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ กรมบัญชีกลางจะสามารถโอนเงินของขวัญปีใหม่ 500 บาท เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ครบทั้งหมด 11.4 ล้านคน วงเงินรวมกว่า 5,700 ล้านบาท ซึ่งในวันสุดท้ายจะจ่ายเงินให้แก่ผู้มีเลขบัตรประชาชนขึ้นต้นด้วยเลข 1 2 4 5 และ 8 โดยกรมยืนยันว่าเงินในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์จะเก็บไว้ใช้ได้ตลอดเวลา ไม่มีการดึงเงินกลับ ดังนั้นประชาชนไม่จำเป็นต้องแย่งออกไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม หรือเร่งรีบนำออกไปใช้จ่ายจนหมด
    คำชี้แจงของนางญาณี สืบเนื่องจากผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนมากมีความเข้าใจว่า รัฐบาลจะให้เบิกเงินคนละ 500 บาทจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยในระยะเวลาแค่ 3 วันเท่านั้น หลังรัฐบาลระบุว่าจะเริ่มโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายในวันที่ 8-10 ธ.ค. ทำให้ผู้มีร่ายได้น้อยแห่กันไปกดเงินจนเข้าคิวต่อแถวยาวเกิดการกระทบกระทั่งกัน รวมทั้งเหล่ามิจฉาชีพต้มตุ๋นในรูปแบบต่างๆ
    “กรมยืนยันว่าเงินในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์จะไม่จำกัดเวลาในการใช้ ซึ่งแตกต่างจากวงเงินสวัสดิการซื้อสินค้าธงฟ้า 200-300 บาท ซึ่งต้องใช้จ่ายให้หมดภายในเดือนนั้น ดังนั้นผู้มีสิทธิ์ไม่จำเป็นต้องถอนเงินตอนนี้ เงินของขวัญ 500 บาท ก็จะคงอยู่ในบัตรตลอดไปจนกว่าผู้มีสิทธิ์มีความจำเป็นต้องใช้ โดยสามารกดเป็นเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มกรุงไทย หรือถอนเงินจากบัตรที่สาขาธนาคารกรุงไทย เพื่อนำไปใช้จ่ายอะไรก็ได้ หรือนำวงเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายที่ร้านธงฟ้า รวมทั้งร้านค้าเอกชนอื่นที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” นางญาณีกล่าว
    ด้านบรรยากาศตามจังหวัดต่างๆ เมื่อวันจันทร์ ตำรวจ สภ.เมืองตราดได้รับแจ้งจากพลเมืองดีมีผู้หาผลประโยชน์จากการกดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยการเรียกเงิน หลังช่วยกดเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยสาขาตราด ต.บางพระ อ.เมืองตราด จึงได้ส่งตำรวจสายตรวจไปตรวจสอบ พบชาวบ้านกว่า 10 คน ถือบัตรประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยืนต่อแถวเตรียมกดเงินเอทีเอ็ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เบื้องต้นยังไม่พบการเรียกเงิน แต่ผู้สูงอายุร้องว่าการกดเงินมีขั้นตอนยุ่งยาก เพราะไม่เคยเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มมาก่อน ต้องให้ผู้ที่มีความรู้ช่วยเหลือ เพราะวันนี้เป็นวันหยุด เจ้าหน้าที่ธนาคารไม่มาทำงาน
    อย่างไรก็ตาม มีชาวบ้านบางรายให้ข้อมูลกับตำรวจว่า มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งใน จ.ตราดรับจ้างกดเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เก็บค่าจ้างคนละ 10 บาท และใช้เวลาในการกดเงินนานมาก เพราะรับจ้างกดเงินให้หลายคน ทำให้ผู้ที่รอต่อคิวต้องรอนานมาก
    อุทัยธานี ประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปเข้าคิวที่หน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยกันแน่นขนัด จากการสอบถามต่างคนเข้าใจว่าวันที่ 10 คือวันสุดท้ายที่จะเบิกเงิน 500 บาท โดยที่ธนาคารกรุงไทยสาขาหนองฉาง บางคนไปเข้าคิวรอตั้งแต่ 04.00 น. บอกว่าต้องรีบนำเงินออกมาใช้ก่อนที่รัฐบาลจะดึงกลับคืน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้ข่าวนี้มาจากไหน ประชาชนก็บอกว่าได้ยินมาปากต่อปาก 
    พะเยา เกิดความวุ่นวายตามจุดต่างๆ เช่นกัน โดยประชาชนส่วนหนึ่งไม่เข้าใจการปฏิบัติตามขั้นตอน จึงต้องอาศัยไหว้วานคนอื่นช่วยดำเนินการให้ บ้างก็จ้างรายละ 10 บาท บางคนก็ให้ลูกหลานนำบัตรมากดแทน บางคนทำผิดขั้นตอนเงินไม่ออก ขณะที่คนต่อคิวก็พยายามเร่งเร้าเพื่อให้ถึงคิวของตนเร็วๆ เพราะกลัวเงินหมดตู้ อีกทั้งเกือบทั้งหมดเข้าใจว่าวันที่ 10 ธ.ค.เป็นวันสุดท้ายที่จะเบิกเงินได้
    จันทบุรี ผู้สื่อข่าวได้สำรวจบรรยากาศที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาจันทบุรี ถนนท่าแฉลบ ต.ตลาด อ.เมืองจันทบุรี มีประชาชนจำนวนมากไปรอเข้าคิวตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ จากการสอบถามประชาชนที่เดินทางมากดเงินบอกว่า รู้สึกดีใจที่รัฐบาลยังดูแลและช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนยังสามารถนำมาใช้จ่ายเป็นค่าน้ำค่าไฟได้ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้บ้าง แต่ปัญหาของผู้มากดเงินบางรายคือ ไม่เข้าใจขั้นตอนการกดเงินที่ยุ่งยาก ต้องอาศัยผู้มีความรู้ บางคนลืมรหัสผ่านของบัตร
    อ่างทอง บรรยากาศวันที่ 3 ประชาชนแห่กดเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ธนาคารกรุงไทยสาขาอ่างทอง ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง กันอย่างคึกคัก แต่ปรากฏว่าชั่วไม่นาน ตู้เอทีเอ็มก็ขึ้นตัวหนังสือ "หยุดบริการชั่วคราว" เข้าใจว่าเงินหมดตู้ ต้องย้ายไปเข้าแถวรอที่ตู้อื่นซึ่งอยู่ใกล้กัน นอกจากนี้บางคนรับจ้างเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง หอบบัตรหลายใบมากดเงิน ทำให้ผู้ที่รอต่อคิวหงุดหงิดมาก แต่ยังดีที่ไม่เกิดการกระทบกระทั่ง
    ขอนแก่น ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยทุกแห่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ไปเข้าคิวกดเงิน โดยในวันที่ 10 ธ.ค. เป็นการอนุมัติจ่ายเงินให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขึ้นต้นด้วยเลข 1-2-4-5 และ 8 ซึ่งทั่วทั้งประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 2,964,325 ราย
    นางจันทร์เพ็ญ ภูเด่นผา อายุ 49 ปี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐบาลนั้นได้ให้ความสำคัญและลดความเหลื่อมล้ำของกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นการจัดสวัสดิการแห่งรัฐเฉพาะกลุ่มที่มาถูกทางแล้ว 
    “ถ้ามีการเลือกตั้ง ครอบครัวก็จะเลือกลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะโครงการนี้จะได้อยู่ต่อ อีกทั้งเงินที่ได้รับในวันนี้จะนำไปไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ซื้อของใช้และซื้อเสื้อผ้าให้กับหลานๆ ช่วงปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง” นางจันทร์เพ็ญกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"