หนุนโซนนิงร้านเหล้า สถานศึกษาปลอดภัย


เพิ่มเพื่อน    

      เปลี่ยนร้านเหล้า...เจ้าปัญหา

      เป็นร้านหนังสือรอบมหา'ลัย

      ปัจจุบันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ขยายเข้าสู่กลุ่มเด็กและเยาวชนมากขึ้นจากปัจจัยหลายด้านที่ขาดการควบคุมจากภาครัฐอย่างจริงจัง ตลอดจนกลยุทธ์ของธุรกิจสุราที่พยายามรุกเข้าหาสถานศึกษาในรูปแบบต่างๆ ส่งผลกระทบกับอนาคตของชาติในด้านการเรียน คุณภาพชีวิต รวมทั้งก่อให้เกิดอุบัติเหตุ สูญเสียชีวิตจำนวนมาก

      สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ สร้างสังคมปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อมุ่งไปสู่การสร้างสังคมสุขภาวะให้เกิดขึ้นในสถานศึกษา โดยมีสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ 70 สถาบันทั่วประเทศ

      ล่าสุด เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา ร่วมกับมหาวิทยาลัยปลอดเหล้าทั้ง 70 แห่ง และ สสส. จัดกิจกรรม คุมโซนนิงร้านเหล้ารอบสถานศึกษา พัฒนาให้ยั่งยืนได้อย่างไร ภายในงานมีการแสดงละครชุด ปกป้องเยาวชนจากภัยน้ำเมา พร้อมทั้งโชว์แบบสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และภูมิภาค ต่อกรณีโซนนิงควบคุมร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ที่สำรวจระหว่างวันที่ 25-30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จำนวน 1,500 คน 

      จากผลสำรวจพบกลุ่มตัวอย่าง 1 ใน 3 หรือร้อยละ 32.56 เท่านั้นที่รับรู้กฎหมายโซนนิงควบคุมร้านเหล้าตามคำสั่ง คสช. โดยส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่า คือการห้ามมีร้านเหล้ารอบสถานศึกษา นอกจากนี้ ร้อยละ 65.39 ยังระบุว่า การมีคำสั่ง คสช.ทำให้ร้านเหล้าลดลง ที่น่าห่วงคือ กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่ง ร้อยละ 52.39 ชี้ว่า ยังไม่เคยพบเห็นเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจร้านเหล้ารอบสถานศึกษาเลย

      แต่เมื่อถามว่า เคยทราบหรือพบเห็นร้านเหล้าทำผิดกฎหมายแล้วสั่งปิดหรือไม่ กว่าร้อยละ 67.03 ตอบว่า เคยทราบและพบเห็น นอกจากนี้ 1ใน 4 ยังทราบอีกว่า หลายแห่งถูกสั่งปิดไปแล้ว ยังกลับมาเปิดใหม่ได้ แค่เปลี่ยนชื่อร้าน ย้ายที่ตั้ง เปลี่ยนเจ้าของ  

(คำรณ ชูเดชา)

      นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า จากผลสำรวจสะท้อนชัดเจนว่าผลกระทบที่เกิดจากร้านเหล้ารอบสถานศึกษา คือเสียงดัง ทะเลาะวิวาท จราจรติดขัด อาชญากรรม อุบัติเหตุ การล่วงละเมิดทางเพศ ยาเสพติด และเมื่อมีกฎหมายนี้ ทำให้ร้านเหล้าลดลงจริง ข้อสำคัญคือร้านรายใหม่ก็จะมาเปิดในพื้นที่นี้ไม่ได้ ปัญหาต่างๆ โดยรวมมีแนวโน้มลดลง ส่งผลดีขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ร้านนม ร้านอาหาร ร้านหนังสือ เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เครือข่ายต้องการเห็นความยั่งยืนของคำสั่งนี้ด้วยการสนับสนุนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ในกระทรวงยุติธรรมมีสถานะความเป็นเจ้าภาพที่ชัดเจน มีความเข้มแข็ง มีงบประมาณและคนทำงานที่มากขึ้น เพื่อรับมือกับภารกิจสำคัญนี้ ซึ่งเป็นการจัดการกับปัญหาที่ต้นน้ำ ไม่ใช่จัดการแค่คนที่ทำผิดมาแล้ว

      ขณะที่นักศึกษาชั้นปีที่ 2 นายสนธยา เขียวแก้ง มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ระบุว่า เห็นด้วยและชื่นชมอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับมาตรการโซนนิงควบคุมร้านเหล้ารอบสถานศึกษา เพราะมันส่งผลให้สถานศึกษาหลายแห่งปลอดภัยจากร้านเหล้า อบายมุข จากแต่ก่อนที่มักเห็นกลุ่มเพื่อนนักศึกษาหลายคน ตกเย็นหลังเลิกเรียนชวนกันไปตั้งวงดื่มเหล้าในร้านเหล้า ยิ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ยิ่งแน่นร้าน แต่พอมีการจัดระเบียบทำให้รู้สึกว่าปลอดภัย ไม่ต้องไปหมกมุ่นอยู่กับร้านเหล้า 

        ผมว่าคำสั่งหัวหน้า คสช.ช่วยจัดระเบียบได้มาก ปัญหาต่างๆ ลดลงเยอะ แทนที่วันศุกร์นักศึกษาจะไปดื่มเหล้า ตอนนี้ก็เอาเวลาไปทบทวนอ่านหนังสือ อยู่ครอบครัว หรือทำกิจกรรมทดแทนการดื่ม เช่น จัดปาร์ตี้หมูกระทะ สังสรรค์อย่างอื่นที่ไม่ใช่การดื่มเหล้า นายสนธยาทิ้งท้าย

(พีระพงศ์ สวัสดิ์โกมล)

      ด้านนายพีระพงศ์ สวัสดิ์โกมล นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ก็ตรงกับเป้าหมายที่มหาวิทยาลัยวางแนวทางไว้ให้ปฏิบัติตาม การสั่งปิดร้านเหล้าเป็นการตอบสนองคำสั่ง คสช. และช่วยให้เป้าหมายของมหาวิทยาลัยบรรลุผล เป็นการช่วยเด็ก ช่วยชุมชน เมื่อก่อนมีการร้องเรียนมาก เสียงดัง ทะเลาะวิวาท มีร้านติดหอพัก เดี๋ยวนี้ไม่เกิดขึ้นเลย ลดภาวะความตึงเครียดได้มาก อยากให้ช่วยกันรณรงค์และสร้างการรับรู้ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ กิจกรรมดีๆ แบบนี้ควรจัดขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนและนำความรู้มาปรับใช้จนเกิดประโยชน์สูงสุด

(ปิยวัชน์ คงอินทร์)

      นายปิยวัชน์ คงอินทร์ อาจารย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กล่าวว่า การควบคุมโซนนิงร้านเหล้ารอบสถานศึกษาตามคำสั่ง คสช.22/2558 ถือเป็นเครื่องมือสำคัญ สามารถคุมร้านเหล้าให้อยู่ในที่ในทาง ร้านใหม่ไม่เพิ่ม ร้านเดิมทำตามกฎหมาย ที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยได้ให้ความร่วมมือสอดส่องเฝ้าระวัง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสรรพสามิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ออกตรวจย้ำเตือนผู้ประกอบการห้ามทำผิดกฎหมาย หยุดธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จัดโปรโมชั่น โฆษณากระตุ้นยอดขายด้วย 

        เราต่อสู้กับค่านิยมนี้มานานมาก และคงต้องทำอย่างต่อเนื่อง เน้นกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เชียร์ ชื่นชม ให้กำลังใจร้านนม ร้านอาหารที่เข้ามาทดแทนร้านเหล้า สื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริหารในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งนี้ ใกล้ถึงช่วงเลือกตั้งจึงอยากเรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ ที่กำลังหาเสียงอยู่ขณะนี้เสนอนโยบายที่ชัดเจน เน้นปกป้องคุ้มครองเด็กเยาวชนจากปัญหาอบายมุข ของมึนเมา และหากเข้ามาทำหน้าที่จะต้องกล้าหาญต่อสู้กับกลุ่มทุนที่มีอิทธิพลที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เพราะทุกวันนี้กลุ่มทุนได้ครอบงำสังคมไปมากแล้ว นายปิยวัชน์กล่าว

(สุภาภรณ์ ชมชัย)

      ขณะที่นางสาวสุภาภรณ์ ชมชัย เลขาฯ คณะกรรมการศูนย์อำนวยการกำกับติดตามผลการดำเนินงานตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 (ศอกต.) กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายโซนนิงควบคุมร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ประสบความสำเร็จได้ผลยั่งยืนนั้น มาจากปัจจัยหลายส่วน ทั้งต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือของชุมชน ภาคประชาสังคม สถานศึกษา นักเรียน ช่วยดูแลสอดส่อง คอยแจ้งเหตุ ทำให้ปัญหาอบายมุขรอบสถานศึกษาทั้งกว่า 3 หมื่นแห่งลดลงอย่างต่อเนื่อง

        ล่าสุด ศอกต.ได้ประชุมหารือและวางกรอบแนวทางไว้ว่าต้องมีการทบทวนปรับปรุงมาตรการกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้ง พ.ร.บ.สุรา ของกรมสรรพสามิต พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ร.บ.สถานประกอบการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายให้ยั่งยืน กำหนดคำนิยามให้ครอบคลุมทุกสถานประกอบการ เนื่องจากในอนาคตหลังเลือกตั้ง ถ้าหากไม่มีคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 แล้ว มาตรการทางกฎหมาย รูปแบบนโยบายการดำเนินงานต่างๆ ต้องสานต่อ เพื่อไม่ให้ปัญหาเดิมกลับมาอีก ขณะเดียวกัน ศอกต.ยังเปิดรับการแจ้งเหตุร้องเรียนการทำผิดกฎหมายของสถานประกอบการได้ที่เบอร์ 0-2141-6501 นางสาวสุภาภรณ์กล่าวทิ้งท้าย

        เชื่อว่าเสียงสะท้อนของคำสั่งที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมเช่นนี้ จะดังไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ให้สานต่อการปกป้องเยาวชนจากภัยของสุราอย่างแน่นอน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"