ขายฝันคนกรุงเทพ 'อนค.-ภท.'แห่ชู'นโยบาย' โพลหนุนบัตรติดชื่อ-โลโก้


เพิ่มเพื่อน    

    สวนดุสิตโพลระบุ ปชช.ส่วนใหญ่อยากได้บัตรเลือกตั้งที่มีชื่อโลโก้และชื่อพรรคครบถ้วน ชี้ถ้ามีแต่เบอร์ทำให้สับสน อาจเกิดการทุจริตโกงเลือกตั้งได้ง่าย เลขาธิการ กกต.เผยทุกพรรคตอบรับหารือ 19 ธ.ค.นี้ ปชป.ข้องใจทำไมไม่ให้ใช้ภาพผู้สมัครบัญชีรายชื่อหาเสียง ซัด 4 รมต.ไม่ลาออกไม่ต่างคนหนีคดี "เพื่อไทย" หนุนแก้ กม.ให้ผู้สมัครจากพรรคเดียวใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ "หญิงหน่อย" โวยลงพื้นที่โดนขวางไม่ให้พบชาวบ้าน ภท.ยก "บุรีรัมย์โมเดล" ขายฝันคนกรุง "อนค." คึกชูนโยบาย 12 วาระ ลั่นลดขนาดกองทัพให้เล็กลงพร้อมเช็กบิล คสช. แต่ไม่แก้ ม.112
    เมื่อวันอาทิตย์ สวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "บัตรเลือกตั้งแบบไหนที่ผู้ใช้สิทธิ์ต้องการ" โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวน 1,139 คน ระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม 256 สรุปผลได้ดังนี้ 1.ปัญหาที่ประชาชนพบจาก “การไปเลือกตั้ง” ครั้งที่ผ่านมาคือ อันดับ 1 ไม่ทราบขั้นตอนวิธีการใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องค้นหารายชื่อ คิวยาว 32.55%, อันดับ 2 หน่วยเลือกตั้งอยู่ไกล ไปผิดหน่วย เสียเวลา 30.35%, อันดับ 3 ต้องกลับไปเลือกที่บ้านเกิด เดินทางลำบาก ต้องเสียค่าใช้จ่าย 24.11%, อันดับ 4    กาผิด ลืมชื่อ ลืมเบอร์ จำรายชื่อผู้สมัครไม่ได้ 21.59%, อันดับ 5 พบเห็นการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ถูกบังคับ ถูกสวมสิทธิ์    10.29%   
        2.ปัญหาที่ประชาชนพบจาก “บัตรเลือกตั้ง” ที่ผ่านมาคือ อันดับ 1 ตัวหนังสือแน่น รายละเอียดเยอะ ลายตา 38.79%, อันดับ 2 ชื่อพรรคและโลโก้พรรคไม่ชัด ทำให้ดูลำบาก 34.54%, อันดับ 3 มีบัตรหลายใบ จำไม่ได้ว่าต้องกาใบไหนแบบไหน 19.09%, อันดับ 4กาผิด ไม่รู้ว่าต้องแก้ไขอย่างไร ทำให้บัตรเสีย 14.85%, อันดับ 5    บัตรเลือกตั้งปลอม 6.90%
      3.ประชาชนคิดอย่างไร? กับ “บัตรเลือกตั้ง” ที่เป็นแบบมีแต่เบอร์เท่านั้น (ไม่มีโลโก้และชื่อพรรค)อันดับ 1 ทำให้สับสน จำชื่อและหมายเลขพรรคไม่ได้ 40.55%, อันดับ 2 อาจเกิดการทุจริต โกงเลือกตั้งได้ง่าย 24.62%, อันดับ 3 ไม่เป็นมาตรฐาน ไม่เป็นสากล 20.74%, อันดับ 4    กกต.ควรพิจารณาให้เหมาะสม เป็นธรรมกับทุกฝ่าย 14.61%, อันดับ 5 อาจช่วยให้ตอบง่าย โล่ง สบายตา 12.97%
    4.ประชาชนอยากให้บัตรเลือกตั้ง ในวันที่ 24 ก.พ.62 นี้เป็นอย่างไร? อันดับ 1    มีชื่อผู้สมัคร โลโก้ ชื่อพรรคครบถ้วน ชัดเจน 48.13%, อันดับ 2 กระดาษดี สีสด ตัวหนังสือชัด 22.70%, อันดับ 3    มีช่องให้กากบาทสะดวก ตัวเลือกไม่สับสน เข้าใจง่าย 21.11%, อันดับ 4    เป็นสากล มีมาตรฐานเหมือนกับต่างประเทศ 11.92%, อันดับ 5 มีการชี้แจงบอกวิธีการเลือก และรายละเอียดครบถ้วน 7.72%
     นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวถึงผลสำรวจ “สวนดุสิตโพล”ว่า อยากฝากเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งกำกับดูแลเรื่องบัตรเลือกตั้งโดยตรง ให้รับฟังความต้องการของประชาชนที่สะท้อนออกมาตามโพลต่างๆ เพราะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือการเลือกตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน จึงต้องสร้างวิธีการให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ นานาประเทศกำลังจับตามองเกี่ยวกับการเลือกตั้งในบ้านเรา พร้อมแสดงความกังวลเรื่องปัญหาการทุจริต โดยการทำบัตรเลือกตั้งให้มีความชัดเจน จึงถือเป็นแนวทางหนึ่งในการแสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ให้มีความโปร่งใสและยุติธรรมมากที่สุด อีกทั้งยังช่วยลบข้อครหาต่างๆ อีกด้วย
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ทุกพรรคการเมืองตอบรับที่จะมารับฟังการชี้แจง และหารือรายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระหว่าง กกต.และพรรคการเมือง ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ โดย กกต.จะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกพรรคการเมือง ขณะเดียวกัน กกต.จะชี้แจงเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งหาเสียงว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ที่ผ่านมาได้พิจารณาเรื่องการทำป้ายหาเสียงที่อยู่ในระหว่างการรับฟังความเห็นจากแต่ละพรรคการเมือง และทางโซเชียลฯ ด้วย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ก่อนที่ กกต.จะออกระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ต่อไป 
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ในส่วนของ กกต.จะช่วยพรรคการเมืองจัดทำป้ายหาเสียงไวนิลให้ทุกพรรคการเมือง เพื่อความเท่าเทียมกันและเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้พรรคการเมืองด้วย อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีการขึ้นป้ายผู้สมัครคู่กับบุคคลทางการเมือง เช่น นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยระบุเพียงว่า ต้องรอตัวแทนจากพรรคการเมืองในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ 
หนุนบัตรเดียวเบอร์เดียวทั้ง ปท.
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกต.กำหนด 3 ประเด็น ในการประชุมร่วมระหว่างพรรคการเมืองและ กกต.ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ประกอบด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายของผู้สมัครและพรรคการเมืองในการหาเสียงเลือกตั้ง การหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ และการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียง เพื่อที่จะนำความเห็นของพรรคการเมืองไปพิจารณาปรับปรุงร่างระเบียบ กกต. เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.และร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนเสนอที่ประชุม กกต. ให้ความเห็นชอบและบังคับใช้ เมื่อ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง ส.ส.มีผลใช้บังคับแล้ว
    ด้านนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ระเบียบ กกต.ในเรื่องการจัดทำแผ่นป้ายที่ กกต.กำหนดบางเรื่องไม่มีความชัดเจน อาทิ สาระหรือภาพในป้ายที่มีข่าวว่าจะกำหนดให้มีรูปเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.เขต หัวหน้าพรรค และว่าที่นายกรัฐมนตรี ตามที่พรรคการเมืองเสนอเท่านั้น แต่ห้ามใช้รูปบุคคลอื่นจึงมีคำถามว่า ทำไมไม่อนุญาตให้ใส่ภาพผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง 150 คน ของแต่ละพรรคด้วย เพราะคะแนนที่ประชาชนเลือกจะนำไปสู่การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคด้วย การที่พรรคใดจะใช้ภาพใครนั้น เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค ไม่ใช่ย้อนยุคที่ปิดบังบัญชีรายชื่อ เป็นระบบอีแอบ ประชาชนไม่รู้ว่ามีใครแอบอยู่ในบัญชีรายชื่อแต่ละพรรคบ้าง และตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการเลือก 1 ใบ 2 ระบบ ประชาชนจึงควรทราบข้อมูลทุกด้านอย่างครบถ้วน เช่นเดียวกับใบลงคะแนนที่ควรมีชื่อ ผู้สมัครเขต โลโก้พรรค และชื่อพรรค เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณี กกต.ห้ามใช้รูปนายทักษิณ ชินวัตร, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป. ขึ้นป้ายหาเสียง ว่า กกต.จะนัดหารือกับพรรคการเมืองต่างๆ ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ เพื่อพูดคุยถึงกฎกติกาและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงว่าจะทำอะไรได้บ้าง คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในวันดังกล่าว แต่กรณีของนายชวนนั้น ถือเป็นผู้สมัคร ส.ส.และเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ด้วย คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา กกต.ควรต้องไปดูว่าภาพของบุคคลที่จะเอามาใช้ในป้ายหาเสียงนั้น เขาเป็นผู้สมัครส.ส. เป็นสมาชิกพรรคนั้นๆ ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ เราต้องการให้การปฏิบัติมีความง่ายและชัดเจน รวมถึงทำอย่างไรให้ประชาชนมีความตื่นตัว และได้รับรู้ รับทราบเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด
    นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขณะนี้พรรครอให้ กกต.พิจารณาว่าจะใส่โลโก้และชื่อพรรคในบัตรเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งบัตรเลือกตั้งเช่นนี้ กกต.ก็เคยทำมา ครั้งนี้ก็ควรทำเช่นเดิม เพื่อให้ผู้ไปเลือกตั้งมีข้อมูลเลือกคนและพรรคถูกต้องตรงใจ ไม่สับสน ในการเลือกตั้งครั้งหน้าในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้านี้ ผู้สมัครจากพรรคเดียวกันในแต่ละเขตจะมีเบอร์แตกต่างกันไป ซึ่งเห็นว่าควรแก้กฎหมายให้ผู้สมัครจากพรรคเดียวกันในทุกเขตเลือกตั้งใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ จะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการใช้สิทธิ เลือกพรรคถูกต้องตรงใจ จำง่าย ไม่สับสน ลดบัตรเสีย และทุกพรรคไม่ได้เปรียบเสียเปรียบ ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง
    "โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนจะกาบัตรเพียงใบเดียว ไม่ใช่สองใบเช่นที่ผ่านมา ดังนั้นคนจะเลือกทั้งคนทั้งพรรค จึงควรให้พรรคเดียวกันใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนเราเคยเขียนกฎหมายให้พรรคเดียวใช้เบอร์เดียวกัน ซึ่งมีเหตุผล และสังคมขานรับ ไม่มีปัญหาใดๆ ประชาชนคุ้นเคยกับวิธีการ จึงเสนอให้ทุกภาคส่วนได้พิจารณาและช่วยกันผลักดัน เพราะทุกฝ่ายได้ประโยชน์ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่จะออกไปใช้สิทธิ์" นายนพดลกล่าว
     นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค พท. กล่าวภึงกรณี กกต.ออกระเบียบกำหนดให้ใช้เฉพาะรูปผู้สมัคร ส.ส.เขตแต่ละเขต หัวหน้าพรรค และว่าที่นายกฯ ตามที่พรรคการเมืองเสนอ โดยไม่สามารถใช้รูปบุคคลอื่นหรือผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในการหาเสียงได้ ซึ่งจะส่งผลให้พรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติไม่สามารถใช้ภาพนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในการหาเสียงได้ ว่าผลงานที่นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำไว้อยู่ในใจคนไทยตลอด จะลบอย่างไรก็ไม่ออก ดังนั้นระเบียบของ กกต.ในเรื่องนี้จึงไม่ส่งผลกระทบต่อพรรค พท. ที่สำคัญทั้งสองท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของพรรคอยู่แล้ว ทุกวันนี้กระแสความนิยมและเชื่อมั่นในผลงานของอดีตนายกฯ ทักษิณยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะรัฐบาล คสช. แม้จะบริหารประเทศมานานถึง 4 ปีแล้ว แต่เศรษฐกิจยังตกต่ำ ผู้คนอดอยากปากแห้ง หันไปทางไหนมีแต่ความทุกข์ ไม่เหมือนสมัยรัฐบาลอดีตนายกฯ ทักษิณ หันไปทางไหนมีแต่คนยิ้ม มีความสุขเพราะเศรษฐกิจดี
จี้รัฐบาลหยุดเอาเปรียบ
    "อยากขอร้องให้ กกต.เข้มงวดเรื่องการใช้อำนาจรัฐหาเสียงหรือเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้พรรคใดพรรคหนึ่ง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะไม่มีอำนาจพิเศษมากดดัน แทรกแซงจนทำให้ กกต.สูญเสียความเป็นกลางในการทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม กกต.ต้องอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิ์ของประชาชน และไม่ให้เกิดความสับสน ความผิดพลาดในการกาบัตรเลือกตั้ง ซึ่งควรใส่โลโก้พรรคและชื่อพรรคในบัตรเลือกตั้ง และทุกพรรคควรใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ" นางลดาวัลลิ์กล่าว 
    นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ได้โพสต์ข้อความว่า เพื่อให้การเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม ผมได้รวบรวมปัญหาที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ และขอเสนอดังนี้ 1.ยุติการแจกจ่ายงบประมาณในโครงการต่างๆ และในพื้นที่ต่างๆ ยกเว้นกรณีฉุกเฉินจำเป็นจริงๆ 2.ไม่อนุมัติงบประมาณผูกพันข้ามปี 3.การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการต้องได้รับการเห็นชอบจาก กกต.เสียก่อน 4.ยกเลิกคำสั่งที่ให้ทหารจับกุมตรวจค้นโดยไม่ต้องขออนุญาตศาล 5.หยุดใช้อำนาจตามมาตรา 44 ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทุกกรณี 6.อนุญาตและสนับสนุนให้ตัวแทนรัฐบาลนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งตามมาตรฐานสากลที่ใช้กับประเทศที่กำลังคืนอำนาจให้ประชาชน  7.หยุดจำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน หยุดการเซ็นเซอร์รายการต่างๆ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองทั้งโดยรัฐบาล คสช.และ กสทช. 
    "ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า เมื่อรวบรวมข้อเสนอได้แล้ว ถ้าจะให้เป็นตามนี้ คงหลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้า คสช. หรือทั้งสองตำแหน่ง" นายจาตุรนต์ ระบุ
    น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรค ทษช.กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่ทราบว่าจะถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดต ยิ่งตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยอมรับแล้วว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัว ทั้งนี้ การลงพื้นที่แต่ละครั้งทำให้ทุกคนคิดได้ว่ามีวัตถุประสงค์แอบแฝงในการสร้างคะแนนนิยมให้กับพรรคการเมืองที่มีชื่อเดียวกันกับโครงการของรัฐ แบบนี้การเลือกตั้งจะเกิดความเป็นธรรมหรือไม่ ด้วยสภาวะที่รัฐบาลยังออกมาตรการต่างๆ โดยใช้งบประมาณของรัฐแก้ปัญหาปากท้องที่ปลายเหตุเช่นนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ซื่อสัตย์และไม่จริงใจต่อประชาชน เราจึงต้องร่วมกันป้องกันตรวจสอบไม่ให้มีกลโกงเกิดขึ้น  
    น.ส.พรพรหม พรหมชาติ รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีเพจทีมลุงตู่โพสต์ผังรวมของขวัญปีใหม่ 2562 ว่า กรณีดังกล่าวถือว่าผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 73 ข้อ 1 หรือไม่ ตามที่มีผลบังคับใช้ 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2561 โดยในมาตรา 73 ได้ระบุไว้ว่า ไม่ให้กระทำการสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปลงคะแนนให้ตนเองหรือผู้อื่นด้วยวิธีการต่อไปนี้ ในข้อหนึ่งระบุว่า การจัดทำเสนอสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นได้อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เป็นการกระทำผิดกฎหมายฉบับนี้
      "การโพสต์ผังรวมของขวัญปีใหม่ 2562 จากภาครัฐของเพจทีมลุงตู่น่าจะเข้าข่ายเสนอจะให้ผลประโยชน์อันอาจคำนวณเป็นเงินได้ ขอถามว่ากรณีนี้ลุงตู่ที่จัดเป็นผู้รักษากฎหมายเอง ควรกำชับทีมไม่ให้ทำอะไรที่เข้าข่ายต่อการผิดกฎหมายหรือไม่" น.ส.พรพรหมกล่าว
    นายจุฤทธิ์กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ชี้แจงว่ารัฐบาลจะทำอะไรก็ได้ระหว่างการเลือกตั้งที่จะถึง ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรี 4 คน ยังทำงานได้ปกติว่า อยากให้นายวิษณุกลับไปดูคำแนะนำที่ตัวเองพูดไว้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2561 ว่าเมื่อรัฐมนตรีสังกัดพรรคการเมืองแล้ว ถ้าจะทำงานการเมือง ก็ให้ลาออกไป และห้ามทำ 3 ข้อ 1.ใช้เวลาราชการ 2.ใช้ของราชการ 3.ใช้คนของราชการ แต่วันนี้กลับมาพูดใหม่ว่าคนของรัฐบาลมีโอกาสได้เปรียบยังสามารถทำทุกเรื่องได้ตามปกติ ทำไมมาตรฐานในการปฏิบัติตามกฎหมายจึงกลับไปกลับมาได้ ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับรัฐบาลนี้ ถ้าต้องการลดเสียงครหา จะต้องประกาศที่จะปฏิบัติตัวให้เหมือนกับรัฐบาลรักษาการในภาวะการเมืองปกติ ซึ่งมีตัวอย่างที่ปรากฏอยู่ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
โวยโดนขวางไม่ให้พบ ปชช.
    นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการเดินสาย ครม.สัญจรของรัฐบาลว่า ทราบว่า กำลังจะมีรัฐมนตรีในรัฐบาล คสช.มาเดินสายที่ จ.ระยอง ก็อยากให้พรรคการเมืองบางพรรคมีสำนึกถึงการแก้ปัญหาประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านที่ลำบาก ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำบอบช้ำมามาก ร้านอาหารรายใหม่ต้องปิดตัวลงเพราะขาดทุน คนแก้ปัญหาต้องเป็นรัฐบาล แต่กลับไม่แก้ปัญหาระยะยาว และมีพฤติกรรมที่มองเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน ใช้วิธีอะไรก็ได้เพื่อให้มีคะเเนนชนะเลือกตั้งหวังกลับมามีอำนาจอีกครั้ง เป็นแนวคิดหว่านงบซ้ำเติมสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำหนักกว่าเดิม 
    "ยังไม่นับรวมถึงพฤติกรรมที่รัฐมนตรีไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งนั้น ไม่มีจริยธรรม ธรรมาภิบาล ซึ่งคนที่ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว ที่ใช้อำนาจเพื่อตัวเอง พิสูจน์แล้วว่าไม่มีความเหมาะสมจะเข้ามาบริหารประเทศ พฤติกรรมเเทบไม่เเตกต่างกับบุคคลที่เคยถูกศาลพิพากษาแล้วหนีคดีไปกบดานอยู่ต่างประเทศเลย จึงอยากฝากให้สงสารประเทศและประชาชนเถิด อย่านึกถึงแต่ประโยชน์ส่วนตนเลย" นายสาธิตกล่าว  
    วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่รับสมัครสมาชิกพรรค และรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่คลองจั่น เขตบางกะปิ และละแวกใกล้เคียง บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างคึกคัก โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ยังพบการปิดกั้นไม่ให้ประชาชนมาพูดคุย โดยข้าราชการคนมีสีได้ข่มขู่ว่าจะตัดงบประมาณในส่วนต่างๆ รวมถึงการลงพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก มีทหาร ตำรวจติดตามอยู่ แม้จะปลดล็อกให้พรรคทำกิจกรรมแล้วก็ตาม ยังมีการพยายามขัดขวางไม่ให้ชาวบ้านมาพบปะกับพรรค และไม่ให้พรรคไปพบปะรับฟังปัญหาของชาวบ้าน แต่ไม่เป็นไร แม้จะถูกใช้อำนาจมากกว่าคนอื่น แต่ต้องอดทนและเดินหน้าทำงานต่อไปอย่างเต็มที่
     นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพท. กล่าวถึงกรณีนายภิรมย์ พลวิเศษ เลขานุการนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรค พปชร. ระบุว่านายสมศักดิ์จองซื้อเฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจงานในตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่าฝีมือการเป็นรัฐมนตรีในอดีตของนายสมศักดิ์ คนไทยต่างรู้ดีว่าเป็นคนอย่างไร นายสมศักดิ์ ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน ยืนข้างผู้ชนะตลอด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีนักการเมืองคนไหนกระสันอยากเป็นรัฐมนตรีจนตัวสั่นถึงขั้นออกมาประกาศว่าเตรียมซื้อเฮลิคอปเตอร์ใช้ในการทำหน้าที่ล่วงหน้าเช่นนี้ และ รมว.เกษตรฯ ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครใช้เฮลิคอปเตอร์ตรวจราชการ
    "การประกาศเช่นนี้ ท่านมีการตกลงแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรีในกลุ่มของท่านทั้งที่การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ และรู้ได้อย่างไรว่าประชาชนจะเลือกพรรคพลังประชารัฐมาบริหารประเทศต่อ หรือท่านเตรียมทำอะไรไว้ระหว่างการเลือกตั้งจนมั่นใจว่าชนะการเลือกตั้งแน่นอนใช่หรือไม่" นายวรชัยกล่าว 
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า  “ถามว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือเปล่า จองไว้แล้วหรือ จองกับใครล่ะ อย่าลืมว่าประชาชนเป็นผู้เลือก” เมื่อถามว่าการพูดเช่นนี้จะทำให้เกิดกระแสตีกลับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ อาจจะได้เป็นรัฐมนตรีเงาก็ได้
      ที่โรงเรียนลานข่อย ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง  นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรค พปชร., นายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.ตรัง และคณะ เดินทางไปเยี่ยมชมกลุ่มทอผ้าลานข่อย และขึ้นเวทีปราศรัยบนเวทีที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง จัดเตรียมไว้ พบปะประชาชนประมาณ 300 คนที่เดินทางไปรอรับและแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค พปชร. จ.พัทลุง 3 คน เขตที่ 1 นายสมคิด โสมณะ อดีตข้าราชการครู, เขตที่ 2 ดร.พลกฤษณ์  คล้ายวิตภัทร และเขตที่ 3 นายปรัชชา นวลเปียน หลานชายของนายสมคิด นวลเปียน อดีต ส.ส.พัทลุง
พปชร.ลั่นเจาะพัทลุง
    นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ใช้เวลาช่วงวันหยุดเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ใน จ.สงขลา พัทลุง และตรัง เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และจะได้นำข้อเสนอของประชาชนที่แต่ละพื้นที่ ไปดูในรายละเอียด  เพื่อจะได้กำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป อย่างไรก็ตาม เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.พัทลุง มีรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ เป็นอดีต ส.ส. แต่พรรค พปชร.ก็จะส่ง แจ็กมาฆ่ายักษ์ให้ได้
    ขณะที่นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพปชร. นำคณะทำงานของพรรคเดินทางไปพบประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา
    ที่ตลาดประปา ตลาดหัวรถไฟ และตลาดแม่กิมเฮง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และคณะ เดินคารวะแผ่นดินเพื่อหาเสียงกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า โดยมีประชาชนมาขอถ่ายภาพและถ่ายเซลฟีคู่กับนายสุเทพเป็นที่ระลึกคึกคัก ในโอกาสนี้ นายสุเทพได้แนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 1 คือ นายสมชาย พงษ์พินิจกุล นักธุรกิจ เจ้าของ บจก.โคราช ฟูดส์ โปรดักศ์ ให้กับประชาชนได้รับทราบด้วย
    ระหว่างที่นายสุเทพเดินมาถึงแผงขายผัก มะนาว มะเขือ ของนายคณิศ จริยะประพร อายุ 63 ปี นายสุเทพได้ยกมือไหว้ทักทาย แต่นายคณิศได้โบกมือไม่ยอมรับไหว้ และกล่าวสวนออกไปว่า ประเทศชาติยังพังไม่พออีกเหรอ ที่ผ่านมาพวกคุณบอกว่าทำเพื่อประชาชนและประเทศชาตินั้นไม่จริง มีแต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น หยุดได้แล้ว ในขณะที่นายสุเทพไม่ได้ตอบโต้อะไร พูดแต่เพียง ครับ ครับ แล้วก็เดินต่อไป
     จากนั้นนายสุเทพและคณะได้เดินทางไปที่ตลาดหัวรถไฟ ถนนมุขมนตรี เขตเทศบาลนครราชสีมา มีประชาชนมาขอถ่ายรูปด้วยจำนวนมาก และบางคนก็วิ่งเข้ามากอดหอมแก้มอย่างชื่นมื่น นางอรุณรัตน์ กุยกระโทก หมอเพลงโคราชหลานสาวของ "กำปั่น บ้านแท่น" ศิลปินเพลงโคราชชื่อดัง ได้เข้ามาร้องเพลงโคราชอวยพรให้กับนายสุเทพโชคดี มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข ทำเอานายสุเทพยิ้มแก้มปริด้วยความพึงพอใจ และควักเงินใบละ 1,000 บาท เป็นน้ำใจตอบแทนแก่นางอรุณรัตน์อีกด้วย 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรค รปช.จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่ออีกสมัยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้ยึดที่ตัวบุคคล ยึดหลักการมากกว่าว่า 1.คนที่จะให้สนับสนุนในการขึ้นเป็นนายกฯ จะต้องเอาจริงเอาจังในเรื่องของการปฏิรูป 2.ต้องเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาวบ้าน และที่สำคัญ จะต้องเข้ากันได้กับอุดมการณ์ของพรรค รปช.คือ จงรักภักดีเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯ จะต้องลงสมัคร ส.ส.ใช่หรือไม่นั้น ต้องว่าไปตามกฎหมาย ใครอยากเสนอตัวเป็นนายกฯ ก็ให้พรรคการเมืองเสนอเข้ามา หรือถ้าไม่อยากจะเสนอตัว ก็ต้องรอรอบสอง รอบสาม ซึ่งถ้าปฏิบัติตามกฎหมาย พรรคเราก็ไม่ขัดข้อง 
    พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า การเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.ครั้งนี้มีเซอร์ไพรส์แน่ จะเป็นครั้งแรกที่พรรค ภท.ได้ ส.ส.เขตใน กทม. เพราะทันทีที่มีการประกาศแนวคิด “กรุงเทพ สะดวก สบาย” ก็มีเสียงตอบรับที่ดีประชาชนให้ความสนใจในแนวคิดของพรรคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่และผู้บริหารองค์กร พรรคขอประกาศตัวเป็นทางเลือกของประชาชนใน กทม. เราได้ศึกษาเชิงลึก และมองเห็นปัญหาของคน กทม.ที่พรรคการเมืองอื่นไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง และไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตคน กทม. ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ 
    "ที่ผ่านมาเราแก้ปัญหาให้กับ จ.บุรีรัมย์ จนมีความเจริญรุ่งเรือง เกิดเป็นบุรีรัมย์โมเดล และเมื่อเราได้หันมามองปัญหาของ กทม. ซึ่งเป็นปัญหาที่เหมือนเส้นผมบังภูเขา ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมีความมั่นใจอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาให้คน กทม.ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น" โฆษกพรรค ภท.กล่าว
อนค.ขู่เช็กบิล คสช.
     ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นำทีมงานประกาศนโยบาย 12 วาระ ในงาน “เปิดวิสัยทัศน์ เปลี่ยนอนาคต” ได้แก่ 1.ยุติระบบราชการรวมศูนย์ กระจายอำนาจ กระจายคน กระจายงบ 2.ไทยเท่าเทียมสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร 3.ปฏิวัติการศึกษา ลงทุนให้ถูกจุด ลดความเหลื่อมล้ำ 4.ทลายเศรษฐกิจผูกขาด ล้างระบบเส้นสาย หยุดทุนใหญ่กินรวบประเทศ 5.ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน เดินทางได้โดยไม่ต้องซื้อรถ สร้างเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมรถไฟ  6.เกษตรก้าวหน้า ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วยเทคโนโลยี แก้ปัญหาเอกสารสิทธิ ปลดหนี้เกษตรกร 7.เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยี ส่งเสริมธุรกิจยุคใหม่ 8.เปิดข้อมูลรัฐกำจัดการทุจริต สร้างรัฐโปร่งใส ให้อำนาจตรวจสอบในมือประชาชน 9.โอบรับความหลากหลาย เคารพความแตกต่าง ศักดิ์ศรีคนต้องเท่าเทียม 10.สิ่งแวดล้อมยั่งยืน ลดใช้พลาสติก สร้างเศรษฐกิจจากขยะ  11.ปฏิรูปกองทัพ ลดนายพล ละอาวุธ เลิกเกณฑ์ทหาร 12.ปักธงประชาธิปไตย ล้างมรดกรัฐประหาร สร้างการเมืองแบบใหม่ เจ้านายคือประชาชน
    ทั้งนี้ มีนโยบายที่น่าสนใจ อาทิ ปฏิวัติการศึกษา โดยนางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรคอนค. ระบุว่า ขอเสนอ 4 ภารกิจเพื่อยกระดับการศึกษา ภายใต้งบประมาณ 100,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี 
    ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค กล่าวว่า พรรคขอเสนอ 4 แนวทางทำลายการผูกขาด คือ 1.การผูกขาดสัปทานของรัฐต่างๆ ถ้าพรรคได้เข้าไปมีอำนาจจะจัดการประมูลให้โปร่งใส เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการรายใหม่ได้เข้ามา เช่น ดิวตี้ฟรีในสนามบิน พรรคจะแบ่งพื้นที่โดยให้บริษัทเล็กเข้ามามีส่วนร่วม 2.กลุ่มทุนผูกขาดความมั่งคั่งจากกฎหมายบางฉบับที่เอื้อกีดกันการแข่งขันทางการค้า เช่น การผลิตเหล้าและเบียร์ ที่กำหนดให้ผลิต 10 ล้านลิตรต่อปี 3.การเข้าถึงแหล่งทุนต้องถูกปลดปล่อย คนจำนวนมากเข้าไม่ถึงแหล่งทุน และ 4.การบังคับใช้กฎหมายการค้าอย่างจริงจัง ป้องกันการฮั้วราคา กีดกันผู้แข่งรายใหม่
    ขณะที่ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวยืนยันหลักการกองทัพต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน เปลี่ยนมาใช้ระบบเสนาธิการร่วม ลดขนาดกองทัพให้เล็กลง และทันสมัยขึ้น โดยลดกำลังพลลง 40% ลดอัตรานายพลเหลือ 1 ใน 4 เปิดเผยงบประมาณของกองทัพ อย่างการซื้ออาวุธ ที่ให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการซื้ออาวุธ ยกเลิกการเกณฑ์ทหารเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ 
    ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนค. กล่าวว่า พรรคมีนโยบายปักธงประชาธิปไตย ล้างมรดกรัฐบาล 3 เรื่อง 1.ล้างมรดกบาปที่คณะรัฐประหารสร้าง จะนำคำสั่ง คสช.มาทบทวนทั้งหมด 2.ทวงสิทธิเสรีภาพของประชาชนคืนมา จะทบทวนกฎหมายที่มีผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นใหม่ 3.ป้องกันไม่ให้มีการรัฐประหารซ้ำอีก พรรคอนาคตใหม่อาสาเป็นกองหน้าประชาธิปไตยตัวจริง เพื่อยุติวงจรรัฐประหาร ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย
    เมื่อเข้าสู่ช่วงถาม-ตอบของสื่อมวลชน ได้ถามว่า ทางพรรคมีแนวทางอย่างไรกับประมวลกฎหมายอาญา ม.112 น.ส.พรรณิการ์ตอบว่า แม้เราจะพยายามแก้ไขเกี่ยวกับกฎหมายหมิ่นประมาทอื่นๆ แต่สำหรับ ม.112 ยังไม่ใช่แนวนโยบายของพรรคในการดำเนินการต่อข้อกฎหมายดังกล่าว
    ถามว่า การลบล้างผลพวงรัฐประหาร จะพยายามดำเนินคดีกับ คสช.หรือไม่ ข้อหาอะไร นายปิยบุตรกล่าวว่า คสช.ได้รับผลประโยชน์จากนิรโทษกรรม ในรัฐธรรมนูญปี 2557 โดยวิธีการแก้ปัญหาคือ ทำให้กฎหมายนิรโทษดังกล่าวเป็นโมฆะก่อนเป็นอันดับแรก จึงสามารถดำเนินคดีกับทาง คสช.ได้ 
    เมื่อถามว่า หากมีโอกาสจะร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่พร้อมร่วมมือกับทุกพรรคที่มีจุดยืนหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. และแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560
    ขณะที่นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำศูนย์วิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ซึ่งเคยสนับสนุนพรรค อนค. ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ปัญหาของอนาคตใหม่คือ คนพวกนี้คือ debutants ทางการเมือง มือใหม่ ไม่มีประสบการณ์ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ถ้ารู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ดังที่ปรากฏ คนในอนาคตใหม่มีความโอหัง คิดว่ารู้ดีทุกเรื่อง เมื่อผิดแล้วไม่ยอมรับ แต่แถไปเรื่อย บางคนใช้ยุทธศาสตร์ลอยตัว อันนี้เป็นทั้งธนาธรและปิยบุตร ที่น่าเศร้าก็คือ ผมเคยเชื่อว่าพรรคนี้มีอุดมการณ์ แต่คนในพรรคนี้กลายเป็น "นักการเมือง" เต็มตัว ฟังแล้วอาจดูตลก อ้าวก็เค้าเป็นนักการเมืองนิ ที่ผมหมายถึงก็คือ เค้าคำนึงถึงผลลัพธ์มากกว่าอุดมการณ์ที่เค้าหลอกขายแฟนคลับเค้า.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"