ทอท.เคาะเปิดประมูลดิวตี้ฟรีไม่รวมเทอร์มินัล 2 หวั่นโครงการช้า เตรียมชงบอร์ดไฟเขียวเดือนหน้าก่อนเสนอครม.เร่งประมูลโครงการต้นปี 62 ด้าน เล็งชงแผนแม่บทสุวรรณภูมิ ให้บอร์ดเคาะสัปดาห์หน้า

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย(จำกัด)มหาชน หรือ ทอท. เปิดเผยความคืบหน้าโครงการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์และร้านค้าปลอดภาษีอากร(Duty Free) ของสนามบินสุวรรณภูมินั้นขณะนี้ทอท.ได้สรุปร่างรายละเอียดสัญญาและแนวทางการร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์) เรียบร้อยแล้ว โดยจะเลือกเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 พื้นที่ราว 25,000 ตร.ม. รวมกับพื้นที่ของอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (แซทเทิลไลท์) เป็นอาคาร 4 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 216,000 ตร.ม. และร้านค้า 20,000 ตร.ม. 

สำหรับเหตุลผลที่ไม่รวมพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ลงไปนั้นเพราะแผนแม่บทดังกล่าวขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ข้อพิพาทต่างๆ รวมถึงด้านเทคนิค หลังจากมีข้อครหาการคัดเลือกผู้ออกแบบรายนี้ ดังนั้นการสัญญาการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ออกจากกันจะไม่ทำไรแผนพัฒนาดังกล่าวทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องรอข้อสรุปแผนแม่บทสุวรรณภูมิ หากนับมารวมจะทำให้การประมูลออกไปล่าช้า ไม่ทันที่ผู้ประกอบการใหม่จะเข้าใช้พื้นทีได้ทันก่อนหมดสัญญาใน 27 ก.ย. 2563 

อย่างไรก็ตามขณะนี้ทอท.อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมข้อมูลเชิงตัวเลขการเงิน อาทิ ปริมาณผู้โดยสารและปริมาณพื้นที่ซึ่งจะนำมาเปิดประมูล เป็นต้น เพื่อสรุปเป็นตัวเลขอายุสัมปทานและเงื่อนไขการประมูลต่างๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) พิจาณณาได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ม.ค. 2562 เช่นเดียวกับโครงการพัฒนาพื้นที่Duty Free สนามบินหลัก 4 แห่งในภูมิภาคของทอท.ซึ่งจะมีการพิจารณาด้วยเช่นกัน 

"หากบอร์ดมีมติเห็นชอบแนวทางดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการร่างทีโออาร์เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ก่อนเปิดประมูลต่อไปในช่วงไตรมาส1-2 ของปีหน้า ทั้งนี้ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และระบบย่อยส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ 14,235 ล้านบาท เริ่มงานเดือน ก.พ. 2561 จะแล้วเสร็จเดือน พ.ย. 2562"นายนิตินัยกล่าว

นายนิตินัยกล่าวต่อว่าสำหรับกรณีดราม่าแผนแม่บทสุวรรณภูมิเรื่องก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 หลังจากที่ทอท.ได้สั่งชะลอโครงการออกไปเพื่อขอความเห็นจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A โดยขณะนี้ ICAOได้ส่งรายงานความเหมาะสมและความคิดเห็นกลับมายังทอท.แล้ว  ซึ่งได้รับคอมเม้นต์กลับมามากพอสมควรและต้องเร่งทำการบ้านเพิ่มเพื่อให้ข้อมูลสมบูรณ์มากที่สุด 

ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเสนอข้อมูลภาพรวมโครงการทั้งหมดให้บอร์ดพิจาณณาภายในสัปดาห์หน้าว่าจะเดินหน้าต่อหรือยกเลิกแผนก่อสร้างอาคารหลังที่ 2 ดังกล่าว เบื้องต้นมั่นใจว่าด้วยความพร้อมของข้อมูลในขณะนี้คาดว่าจะสามารถเสนอรายละเอียดให้บอร์ดพึงพอใจในการดำเนินโครงการต่อไปได้