พกตะกร้าไปจ่ายตลาด


เพิ่มเพื่อน    

 

        เห็นความตื่นตัวของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะห้างร้านเอกชน รณรงค์ไม่ให้และไม่รับถุงพลาสติก ก็รู้สึกร่วมอนุโมทนาต้องเปล่งวาจา "สาธุ" กับทุกท่าน

      เพราะจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษระบุว่า ปริมาณขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นคิดเป็นร้อยละ 12 ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด หรือประมาณ 2 ล้านตันต่อปี โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ มีการใช้ถุงพลาสติกเฉลี่ยคนละ 8 ใบต่อวัน ทำให้มีขยะพลาสติกมากถึง 80 ล้านใบต่อวัน โดยประเทศไทยติดอันดับ 6 ของโลกในฐานะประเทศที่ปล่อยพลาสติกลงทะเลมากที่สุด

      ต้องใช้เวลาถึง 500 ปี พลาสติกชิ้นเล็กๆ จึงย่อยสลายหมด

      สำหรับมนุษย์ป้าแล้ว เรื่องปฏิเสธถุงพลาสติก อยากจะบอกว่า ...ง่ายมาก เพราะในอดีตตอนเป็นเด็กตัวเล็กๆ ตามแม่ไปจ่ายตลาดนั้น พวกเราก็ไม่เคยต้องอาศัยถุงพลาสติกแม้แต่น้อย เรามีตะกร้าใบหนึ่งก็สามารถใส่ทุกอย่างจากตลาดได้ แม้กระทั่งปลาที่ถูกเชือด เพราะแม่ค้าก็จะร้อยเชือกกล้วยที่ปากของปลา แล้วก็ให้เราถือนั่นเอง

      ส่วนเนื้อหมู เนื้อไก่ เขาก็ใส่ใบตองห่อให้อย่างดี เพื่อป้องกันการเปียกแฉะ 

      ถุงก๊อบแก๊บ หรือพลาสติกนั้นเพิ่งมาใช้กันจนเป็นนิสัยเคยชิน ก็เมื่อห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ มีซูเปอร์มาร์เก็ตผุดขึ้นมาแข่งกับตลาดสดนั่นแหละ!!! ดังนั้น วันนี้พวกห้างใหญ่ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเอง เป็นผู้ริเริ่มทำให้วิถีชีวิตคนไทยติดถุงพลาสติกนั้น ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อแล้ว..จริงไหม

      มันออกจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก สำหรับการเปลี่ยนวิถีที่ชินกับถุงพลาสติกมาเกือบกึ่งศตวรรษ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เพราะพวกเขาเกิดมาก็รู้สึกว่า ถุงก๊อบแก๊บนี่แหละสะดวกดี ทนเปียก ทนการฉีกขาด ดีกว่าถุงกระดาษที่ยุ่ยง่ายเป็นไหนๆ การถือตะกร้า หิ้วปิ่นโต เป็นเรื่องประหลาด แถมยังถูกพ่อค้าแม่ค้าบางรายบ่นว่าวุ่นวายยุ่งยาก เพราะเขาบรรจุแกงหรืออาหารเป็นถุงๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่มีเวลามาจัดใส่ปิ่นโตให้หรอกนะ

      จำได้ว่า เคยนำปิ่นโตไปซื้ออาหารในศูนย์อาหารของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เด็กที่อยู่ในร้านทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว จนมนุษย์ป้าต้องเข้าไปช่วยลงมือทำให้ ซึ่งเรียกว่า...เสียเวลาเอาการ เมื่อเทียบกับชีวิตประจำวันของพวกเขา ที่ถนัดและชำนาญแล้วกับการตักข้าวใส่กล่องโฟม ตักแกงใส่ถุงพลาสติก

      แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย ซึ่งมนุษย์ป้าคิดว่าสถาบันการศึกษา โรงเรียนต่างๆ ช่วยกันเปลี่ยนวิธีคิดและสร้างจิตสำนึกร่วมรับผิดชอบต่อโลกให้กับเด็กตั้งแต่วันนี้ ทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอน เพราะเด็กย่อมเข้าใจว่า สิ่งที่ผู้ใหญ่ขอให้ทำวันนี้ ก็เพื่ออนาคตของพวกเขา ไม่ใช่เพื่อพวกมนุษย์ลุงมนุษย์ป้าที่กำลังจะย่อยสลายตามอายุสังขารเลยนะจ๊ะ.

                                                              "ป้าเอง"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"