สอบบิดคดีรุมโทรม เหยื่อโผล่อีก1ราย


เพิ่มเพื่อน    

    คดี 5 วัยรุ่นรุมโทรมเด็กหญิงวัย 12 ประธานสภา อบต.ผึ้งรวงทนแรงบีบไม่ไหวลาออกแล้วหลังมีข่าวกล่อมเหยื่อให้ยอมความ กองปราบฯ เข้าพื้นที่ รอผู้เสียหายร้องขอโอนคดีจะรับทำเต็มตัว รอง ผบช.ภ.1 เต้นข่าวตำรวจท้องที่เข้าข้างผู้ต้องหา สั่งสอบยันผิดจริงฟันแน่ พ่อเหยื่อระบุคุยกับเพื่อนลูกพบถูกรุมโทรมพร้อมกัน ผู้ก่อเหตุเพิ่มเป็น 7 คน และมีผู้รู้เห็นอีก 2 ด้านสหวิชาชีพสอบ 5 โจ๋ รับแล้ว 3 อีก 2 อ้างแค่ดู
    เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมนี้ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีวัยรุ่นชาย 5 คน ฉุดเด็กหญิงอายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ไปรุมโทรม ว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสามและวรรคสี่ บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปีอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง และเด็กนั้นไม่ยินยอม ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาเป็นเด็กหรือเยาวชน จึงต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 คือ พนักงานสอบสวนต้องนำตัวเด็กหรือเยาวชนไปศาลเยาวชนฯ ในเขตอำนาจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
    นายธวัชชัยกล่าวว่า ในส่วนของเด็กหญิงผู้เสียหายสามารถได้รับเงินค่าตอบแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากหรือเนื่องจากมีการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รับคำขอต่อไป รวมถึงการให้คำแนะนำการขอรับความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีจากกองทุนยุติธรรมด้วย โดยสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระบุรีจะได้เข้าไปแจ้งสิทธิรับคำขอให้คำปรึกษาข้อกฎหมายและให้ความช่วยเหลืออื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป 
    คดีนี้ได้ตกเป็นที่จับตาของสังคม เมื่อมีข่าวว่าสมาชิก อบต.คนหนึ่งเข้าไปยุ่งเกี่ยว พยายามเจรจายอมความและเสนอจ่ายเงินให้ผู้เสียหายเพื่อให้เรื่องจบ ซึ่งคลิปการเจรจาที่แพร่ออกสู่สาธารณะมีการนำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเผชิญหน้ากัน และหว่านล้อมว่า "เด็กมันก็แค่มั่วกัน มาคุยกันก่อนว่าจะเอาอย่างไร" ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย
    นายสังวาลย์ สิทธิปัญญา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลผึ้งรวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี กล่าวว่า ไม่ได้ไปเคลียร์คดีดังกล่าว เป็นเพียงไปสังเกตการณ์ในฐานะญาติของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งตนเองไม่ได้รู้จักนายตำรวจคนใด ส่วนที่บอกว่าไปต่อรองเรื่องเงิน ให้จ่ายแค่คนละ 10,000 บาทนั้น ยืนยันไม่เคยพูด อาจจะมีผู้ปกครองของเด็ก 1 ใน 5 คน ที่พูดก็เป็นได้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของตน จึงอยากให้ประชาชนและผู้คนในโลกออนไลน์ที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ให้ความเป็นธรรมกับตนบ้าง
    ขณะที่นายสิริชัย ประทุมมา ปลัด อบต.ผึ้งรวง กล่าวยอมรับว่า กรณีนายสังวาลย์ไปปรากฏตัวและเป็นผู้ไกล่เกลี่ยให้มีการยอมความกันระหว่างผู้เสียหายกับกลุ่มผู้ถูกกล่าวหารุมโทรม ในคลิปที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ อบต.ผึ้งรวงเป็นอย่างมาก และขัดจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิก อบต.ผึ้งรวง จึงมีความเห็นร่วมกันกับสมาชิกว่านายสังวาลย์ไม่เหมาะสมที่จะเป็นสมาชิก อบต.ผึ้งรวง และประธานสภา อบต.รวงผึ้งรวง อีกต่อไป โดยจะเชิญนายสังวาลย์มาคุย และขอให้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกและประธานสภา หากนายสังวาลย์ไม่ยินยอมลาออกก็จะทำหนังสือถึงนายอำเภอเมืองสระบุรี เพื่อขออนุมัติเปิดสภาวิสามัญพิจารณาวาระเร่งด่วน ให้สมาชิกลงคะแนนเสียง 2 ใน 3 ถอดถอนนายสังวาลย์ออกจากการเป็นสมาชิก อบต.และพ้นจากตำแหน่งประธานสภา อบต.ผึ้งรวง 
    มีรายงานต่อมาว่า นายสังวาลย์ ประธาน อบต.ผึ้งรวง ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการแล้ว โดยมีผลในทันที 
    คดีนี้ยังเป็นที่จับตาของสังคมต่อการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี หลังพ่อผู้เสียหายแสดงความไม่พอใจที่ไม่จับกุมผู้ก่อเหตุดำเนินคดี โดยตำรวจระบุว่าเนื่องจากไม่ใช่การกระทำผิดซึ่งหน้า จึงต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาจนกว่าจะสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งต่อมามีรายงานว่า พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีดังกล่าว
    พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก. 2 บก.ป. เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจาก ผบก.ป. ให้เข้าคลี่คลายคดีรุมโทรมเด็กหญิงอายุ 12 ปีแล้ว และได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ พร้อมประสานงานพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ว่ามีความล่าช้า หรือตัดขัดอะไรบ้าง โดยทางพนักงานสอบสวนยืนยันว่าคดีไม่ติดขัดอะไร การสอบสวนดำเนินการไปตามกระบวนการ ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน ต้องสอบสวนตามกระบวนการสหวิชาชีพ
    "เบื้องต้นพบว่าพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดทั้ง 5 คน ซึ่งเป็นเยาวชน อาจจะเข้าข่ายผิดข้อหาร่วมกันกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดา, พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปกระทำอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง และร่วมกันโทรมหญิง อย่างไรก็ตาม คดีนี้หากฝ่ายผู้เสียหายเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปรามได้ ซึ่งก็ยินดี แม้เป็นคดีที่ไม่มีความซับซ้อน รู้ตัวผู้ก่อเหตุอยู่แล้ว แต่เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ และเป็นคนที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน กองปราบปรามก็จะเข้าไปจัดการให้" พ.ต.อ.อรุณกล่าว
    พ.ต.อ.อรุณเปิดเผยต่อมาว่า ขณะนี้ผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คนยังไม่ได้หลบหนีไปไหน และตำรวจกองปราบฯ สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย ในส่วนของผู้เสียหายยังไม่มาแจ้งความให้กองปราบฯ เป็นผู้รับคดี ดังนั้นจึงต้องเข้าไปร่วมดูแลคดีดังกล่าวกับพื้นที่ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเด็กหญิงที่เป็นเหยื่อสมยอมนั้น ตนยังไม่มีข้อมูล แต่ถึงอย่างไร ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายก็ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดชัดเจน ส่วนเรื่องทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่ายังทำไม่ได้ เนื่องจากมีชาวบ้านจำนวนมากที่ไม่พอใจกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ รวมตัวกันมาดักรอทำร้าย
    ล่าสุด พ.ต.อ.อรุณเปิดเผยว่า ทราบว่าสหวิชาชีพที่ประกอบด้วยตำรวจ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา และอัยการ ได้ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 5 รายแล้ว เบื้องต้นวัยรุ่น 3 รายยอมรับสารภาพว่าทำผิดจริง แต่ทำไปโดยความคึกคะนอง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตขนาดนี้ ส่วนวัยรุ่นอีก 2 คน ยังคงให้การภาคเสธ ยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่ไม่ได้ร่วมข่มขืน
    ที่ สภ.เมืองสระบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 เรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนี้ โดยมี พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ วิเชียรสรรค์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เรืองยศ โสภาพล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง 
    ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ธนายุตม์ได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร้านจำหน่ายสินค้า 10 บาททุกชนิด ตั้งอยู่ริมถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ตรงข้ามวิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี พร้อมชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ปรากฏว่าร้านปิดเนื่องจากเจ้าของร้านเดินทางไปต่างจังหวัด และได้ฝากกุญแจไว้กับพนักงานสอบสวน แต่ทางเจ้าหน้าที่จะรอเจ้าของกลับมาก่อน ส่วนเด็กและผู้ปกครองฝ่ายผู้เสียหายนั้น ตำรวจได้ส่งไปที่สำนักงานอัยการ เพื่อให้สหวิชาชีพได้ทำการสอบสวนตามกฎหมายเยาวชน
    พล.ต.ต.ธนายุตม์กล่าวว่า ทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญคดีนี้เป็นอย่างมาก โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ทำคดีแบบตรงไปตรงมา ซึ่งวันนี้ได้ประชุมชุดสืบสวนสอบสวนไปแล้ว คาดว่าวันเดียวกันทุกอย่างคงเสร็จสิ้น ทั้งการสอบสวนผู้เสียหายและทางคดี ขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวนที่ญาติผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น ตนได้ให้รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ หากตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่มีการรู้เห็นก็จะดำเนินการทางวินัยต่อไป 
    ยังมีประเด็นที่น่าสนใจ เมื่อผู้เป็นพ่อเด็กหญิงผู้เสียหายโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ระบุว่าได้คุยกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่ไปกับลูกสาวในคืนเกิดเหตุ ปรากฏว่าทั้งลูกและเด็กหญิงคนนั้นถูกกลุ่มวัยรุ่นฉุดไปรุมโทรม สรุปคือ มีเด็กผู้ชายที่รู้เห็นและรุมโทรมรวม 9 คน โดยมี 7 คนที่รุมโทรม ส่วนเจ้าของร้านก็นั่งเล่นเกมอยู่ระหว่างที่ 7 คนกำลังโทรม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"