ศาลอนุมัติหมายจับโจ๋ทุบยายดับ


เพิ่มเพื่อน    

    ศาลอนุมัติหมายจับ "เบนซ์ เทพารักษ์" โจ๋วัย 17 ทุบหญิงวัย 62 ปีจนตาย ตำรวจเร่งล่าตัว พบประวัติเป็นคนก้าวร้าว เป็นอันธพาลคุมซอย เผยผู้ตายถูกทำร้ายจนซี่โครงหักหลายซี่ กะโหลกร้าว  
    เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมนี้ พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เรียกประชุมติดตามคดี หลังศาลจังหวัดขอนแก่นอนุมัติหมายจับนายเบนซ์ เจ้าของฉายา "เบนซ์ เทพารักษ์" อายุ 17 ปี ในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจับภาพขณะนายเบนซ์ ทำร้ายร่างกายนางวนิดา แพรนุ่น อายุ 62 ปี แม่ค้าร้านขายของชำ จนเสียชีวิต เหตุเกิดในชุมชนเทพารักษ์ 1 ริมถนนเทพารักษ์ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น
    พ.ต.อ.จำลองกล่าวว่า ตามคลิป นางวนิดามีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่น 5 คน จากนั้นนายเบนซ์ได้ปรี่เข้าไปชี้หน้าพร้อมกับด่าทอ ก่อนจะตบเข้าที่ใบหน้าผู้ตายจนเกือบล้ม แม้เพื่อนๆ จะพยายามห้ามปราม แต่นายเบนซ์ก็ไม่ฟัง ยังตบหน้านางวนิดาอีกหลายครั้ง กระทั่งผู้ตายหมดสติล้มลงไป ต่อมาพลเมืองดีมาพบร่างผู้ตายในเช้าวันถัดมา จึงรีบแจ้งกู้ภัยนำส่ง รพ.ขอนแก่น แต่เสียชีวิตในที่สุด
    "ผู้ต้องหาเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี  มีฉายาว่า เบนซ์ เทพารักษ์ มีนิสัยก้าวร้าว ชอบมีเรื่องกับคนอื่นเป็นประจำ ทำตัวเป็นจิ๊กโก๋หรืออันธพาลคุมซอย ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากความไม่พอใจในบางเรื่องกับผู้ตาย แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร คาดว่าเจ้าตัวยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ขอนแก่น ยังไม่ได้ข้ามจังหวัดไป" พ.ต.อ.จำลองระบุ
    นายนฤดล แพนุ่น อายุ 32 ปี ลูกชายนางวนิดา หรือยายติ๋ม เปิดเผยว่า ปกติไม่ได้อาศัยอยู่กับมารดา เพราะต้องทำงาน โดยที่มารดาหลังจากบิดาเสียชีวิต ก็ได้มาเช่าที่ริมถนนเทพารักษ์แห่งนี้เพื่อขายของชำเล็กๆ น้อยๆ เป็นเวลาราว 30 ปีแล้ว โดยที่ตนเองกับพี่สาวที่รับราชการอยู่ต่างพื้นที่จะแวะเวียนมาเยี่ยมแม่ ยืนยันว่าแม่และครอบครัวไม่เคยมีปัญหากับใคร 
    นายนฤดลกล่าวว่า จากการสอบถามคนในชุมชนทราบว่า หลังจากแม่เปิดร้านในช่วงเช้าตรู่ก็นั่งดื่มกาแฟอยู่หน้าร้าน นายเบนซ์เดินเข้ามาพูดคุยทวงเงินจากแม่จำนวน 1 หมื่นบาท หลังนายเบนซ์ไปขอเงินยาย แต่ได้รับคำตอบว่าให้แม่ตนเองยืมไปหมดแล้ว จนเกิดโต้เถียงกัน ซึ่งเหตุที่แม่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตหลังเดินไปที่บ้านยายนายเบนซ์เพื่อเคลียร์เรื่องเงินยืม ก็คงมาจากเรื่องนี้ และจากการตรวจสภาพศพของแพทย์ พบว่าแม่ซี่โครงหักหลายซี่ กะโหลกศีรษะด้านซ้ายแตกร้าว สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ และสร้อยข้อมือหนัก 50 สตางค์ ที่แม่สวมใส่ประจำได้หายไป เหลือเพียงแหวนพระเท่านั้น 
    นายนฤดลกล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในความยุติธรรมของกฎหมาย แต่หากกฎหมายทำอะไรไม่ได้ ตนก็อยากจะทำเหมือนที่ผู้ก่อเหตุทำขึ้นเหมือนกัน เพราะแม่ใครใครก็รัก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"