โลกของ "ทักษิณ-เหลิม-เหนาะ"


เพิ่มเพื่อน    

    ช่วงนี้หูจะเปียกหน่อย
    เพราะสงครามน้ำลายเปิดฉากแล้ว 
    ได้บรรยากาศย้อนยุคการเมืองไทยกับ "ดร.เหลิม" แม้จะเสียรสชาติไปนิด เพราะดุดันน้อยลง แต่ยังคงความโฉ่งฉ่างไว้เหมือนเดิม
    ในพรรคเพื่อไทยก็ต้องมีคนแบบนี้อยู่ล่ะครับ ถือเป็นการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมของนายทักษิณ ชินวัตร เขาล่ะ
    น้าเหลิมมีวลีเด็ดประจำตัว "ไปทะเลเจอฉลาม มาสภาฯ เจอเฉลิม"
    แต่ของทักษิณนั้นต่างออกไป 
    มาเพื่อไทยต้องเจอทั้ง "เฉลิม" และ "เสนาะ"  
    มี "วัน อยู่บำรุง" เป็นของแถม
    นึกไม่ออกจริงๆ ถ้าหากพรรคเพื่อไทยไม่มีผลประโยชน์ให้ "ดร.เหลิม" กับ "เฒ่าเหนาะ" จะอยู่ร่วมพรรคกันได้อย่างไร     
    ความขัดแย้งระหว่าง "เฉลิม" กับ "เสนาะ" นั้นฝังรากลึกมานาน 
    ย้อนกลับไปปี ๒๕๕๒ เปิดศึกไม่เผาผี
    เหตุจากพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ "ดร.เหลิม" เป็นนายกรัฐมนตรี แนบไปกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ 
    ครั้งนั้น เสนาะ เทียนทอง ค้านสุดลิ่ม!
    "....อยากเตือนพรรคเพื่อไทยว่า อย่าทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ รู้ว่าไม่ได้อยู่แล้ว แล้วจะทำทำไม 
    เห็นอยู่ว่าบ้านเมืองมีวิกฤติยังจะเอาน้ำมันไปราด 
    ทำแล้วไม่มีเหตุผลอายเขาเปล่าๆ 
    เพราะการแก้ปัญหาคือ เอาสิ่งที่ดีไปหักล้างกับสิ่งที่ไม่ดี ไม่ใช่เอาสิ่งไม่ดีมาหักล้างกัน 
    อย่างผมที่เสนอ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกฯ ไม่ใช่เพราะ พล.ต.อ.ประชาเก่งกว่า แต่เพราะต้องทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบเรียบร้อย 
    ไม่ใช่ว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่เก่ง แต่ว่าเก่งเกินไป 
    อีกทั้ง ร.ต.อ.เฉลิมยังมีอดีตที่ล้างไม่ออก 
    คนที่จะปกครองบ้านเมืองต้องไม่มีอดีต ที่พูดแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกเกลียดชัง ร.ต.อ.เฉลิม แต่ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้น
    เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเอาชนะกัน เพราะทำแบบนี้ก็จะมีแต่ความแตกแยกไม่จบสิ้น 
    ตอนที่เป็นรัฐบาลขั้วเดิม ก็มีอีกขั้วหนึ่งออกมาต่อต้าน ทำลายบ้านเมืองจนเละเทะไปหมด และก็มีรัฐบาลชุดนี้ขึ้นมาท่ามกลางความขัดแย้งอย่างรุนแรง
    แล้วยังมาเสนอของเก่าที่มีแต่ความแตกแยกแล้วจะจบอย่างไร
    ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย โทร.มาหาผมหลายคน 
    บอกว่าเห็นด้วยกับแนวคิดของผม และรับไม่ได้ที่จะใส่ชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นนายกฯ" .....
    ก็อย่างที่บอก ถ้านักการเมืองมองผลประโยชน์ชาติก่อน "ดร.เหลิม" กับ "เฒ่าเหนาะ" ไม่มีทางอยู่ร่วมพรรคเดียวกัน
    หรืออย่างกรณี "เฒ่าเหนาะ" กับ "ทักษิณ" นี่ก็ยิ่งชัดเจน
    ผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่เหนือชาติ 
    ฉายหนังเก่าซ้ำๆ แต่ดันทันสมัยอยู่เรื่อย 
    จำได้นะครับข้อเขียนของ "เสนาะ เทียนทอง" เรื่อง "จะเอาทักษิณหรือประเทศไทย"
    “การจดทะเบียนคนจนนั้น ผมเคยแนะนำว่ามันทำไม่ได้ ไปประกาศเฉยๆ ไม่ได้ เอามาขึ้นทะเบียนเฉยๆ คนที่เป็นหนี้สินอยู่ที่ไม่ใช่คนจนก็ไปจดทะเบียนด้วย มันจะบานปลายไปใหญ่ พี่ไม่เห็นด้วย มองด้วยจิตสำนึกมันปฏิบัติไม่ได้ มันได้แค่โชว์ตัวเลขตอนเลือกตั้ง จากนั้นไม่มีผลจริง 
    แต่ทักษิณตอบว่า โธ่...พี่เหนาะ คนตาบอดมันกลัวเสือหรอ ถ้าเราไม่พูดแบบนี้เราจะได้เสียงหรอ 
    เขาพูดอย่างนี้แสดงว่าไม่ได้จริงใจกับนโยบาย ประกาศไปก่อนค่อยหาวิธีการทำการตลาดทีหลัง ไปหาเอาข้างหน้าขอให้ได้คะแนนเสียงไว้ก่อน ไม่สนวิธีปฏิบัติราชการ 
    แม้แต่โครงการเอสเอ็มแอล ผมก็เตือนว่าเข้าข่ายซื้อเสียง เพราะอยู่ในภาวะเลือกตั้ง 
    ทักษิณตอบว่า "โธ่..อำนาจอยู่ที่เรา กกต.ก็ของเรา" ล่าสุดก่อนการเลือกตั้ง ๒ เมษายน ๒๕๔๙ มีการกระทำผิดกฎหมาย คือขนคนมาฟังการปราศรัยโดยจ้างมา มันผิดกฎหมายแน่นอน แต่ กกต.กลับเฉย....
    ...ถ้ารัฐมนตรีคนไหนเสนอเรื่องขอใช้งบกลางที่จัดสรรไว้มหาศาล ก็ต้องไปเคลียร์กับคนของเขาให้เรียบร้อยก่อน รัฐมนตรีหลายคนจะมีคนของเขาเข้ามาบอกว่าเดี๋ยวทำงบฯ จะเอากี่พันล้าน แต่ต้องเข้าพรรค ๑๐% หมายความว่าจะไปทำอะไรขึ้นมาก็ได้ ไปเขียนโครงการมา....
    นโยบาย ๑๐% รัฐมนตรีต้องทำโครงการโดยตบแต่งงบประมาณขึ้นมาก่อนว่า มูลค่าโครงการจะครอบคลุม ๑๐% ที่ต้องหักเข้าพรรค จากนั้นไปตกลงกับคนของเขาผ่านคุณหญิงอ้อ เมื่อเรียบร้อยเมื่อใด ก็ส่งมาให้ตัวตายตัวแทนทางการเมืองที่เขาไว้ใจ 
    พอเข้า ครม. นายกฯ จะเสนอโครงการและอนุมัติให้เองเสร็จสรรพ รัฐมนตรีไม่ต้องคิด ไม่ต้องสงสัย ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้ใครเข้าใจว่า ๑๐% มีอยู่เท่าไรแล้ว 
    คงต้องไปถามคุณหญิงอ้อ....
    ....ความขัดแย้งในปัจจุบันมีสาเหตุมาจากตัวปัญหาคนเดียวคือ ทักษิณ คนคนนี้โกงเพื่อเข้ามาสู่อำนาจ เมือมีอำนาจก็โกงอีก อันตรายต่อบ้านเมืองสุดๆ ทักษิณน่ากลัว เพราะเป็นคนมีวุฒิการศึกษา จ้องวางแผนเอาเปรียบคนอื่น ถือว่าต่ำต้อยเหลือเกินในการเป็นผู้นำประเทศ
     “ผมจำคำพูดของทักษิณที่เคยบอกว่า พี่เหนาะผมพอแล้วสมบัติส่วนหนึ่งผมให้ลูก อีกส่วนเก็บไว้สำหรับตายาย กินจนตายก็ไม่หมด สมบัติอีกส่วนจะทำเพื่อบ้านเมือง จะใช้หนี้แผ่นดิน” 
    คำพูดนั้นๆ ผมเคยหลงคิดว่าคนคนหนึ่ง รวยแล้วกลับใจ คิดใช้หนี้แผ่นดิน ตอนนี้ผมรู้ความจริงแล้วว่า รวยจากการโกงชาติ กล้าทำแม้เผาบ้านเผาเมือง เพื่อเอาประกัน คนรวยคนนี้รวยแล้วไม่รู้จักพอ ไม่ใช้หนี้แผ่นดินยังไม่พอ มันยังโกงกิน ทรยศต่อแผ่นดิน”
    ผมเคยพูดและเตือนกับคุณหญิงอ้อว่า “น้อง ถ้ามันได้มาอีกแสนล้าน เอาไปทำไม” เขาพากันตอบว่า “ก็รู้ แต่ในเมื่อเล่นการเมืองมันต้องควักเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นธุรกิจ” เคยเตือนหนักๆ ถึงขั้นว่า “ในอนาคต ถ้ามันจะเดือดร้อนหนักๆ คือคนเป็นหัวนะ” 
    เขาก็ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ก็รู้ ถ้าพี่ทักษิณจะลง ต้องให้พรรคไทยรักไทยมีอำนาจอย่างน้อย 2 สมัยถึงจะปลอดภัย”.....
    ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนคนจน ที่มองคนจนเยี่ยงทาส
    การเอารัดเอาเปรียบในการเลือกตั้ง เพราะมี กกต.ยุค สามหนาห้าห่วง พลตำรวจเอกวาสนา เพิ่มลาก เป็นลูกไก่ในกำมือ
    นโยบาย ๑๐%  
    "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" เผ่นไปแล้ว
    "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" ล่องหน! ทั้งๆ ที่ยังไม่เป็นคดีว่าโกง
    นั่นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังดำเนินอยู่
    และวันนี้ทั้ง "ทักษิณ-ดร.เหลิม-เฒ่าเหนาะ" ต่างยินยอมพร้อมใจ กอดคอ พกความกระหายมาเต็มเปี่ยมหวังจะสร้างดาวดวงเดียวด้วยกัน 
    อดีตที่ลากไส้กันเละเทะแค่ไหนอย่าได้แคร์
    เพื่อผลประโยชน์ก็ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ 
    ก็ขุดเรื่องเก่ามาเล่าสู่กันฟัง ก่อนที่จะเลือนไป เพราะ "ดร.เหลิม" มองบน ประกาศเลือกตั้งรอบนี้จะขยันแบบทิ้งทวน 
    เพราะแก่แล้ว!!!
    จะจริงหรือไม่ก็ฟังหูไว้หู 
    แต่ "ดร.เหลิม" พูดถูกอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือ...
    "สังคมเปลี่ยน การเมืองเปลี่ยน พี่น้องประชาชนก็เปลี่ยน การเมืองเขาเห็นกันหมด 
    เอาเด็กมาด่าผมว่า เป็นนักต่อรอง 
    ชีวิตผมไม่มีคดีทุจริต ไม่เหมือนพวกจันทร์อับ มีคดีใน ป.ป.ช.เต็มไปหมด 
    แต่ผมมีแค่คดีเดียว แต่ไอ้พวกจันทร์ไม่กล้าพูดในสภาฯ" 
    ที่บอกว่าพูดถูก ไม่ใช่เรื่อง "ดร.เหลิม" ไม่โกง เพราะไม่มีอะไรมายืนยันกันตรงนี้ ที่ถูกล้านเปอร์เซ็นต์คือ พวกจันอับ มีคดีใน ป.ป.ช.เต็มไปหมด 
    เดาทางคนระดับ "ดร.เหลิม" ยากจริงๆ ไม่รู้ว่า "จันอับ" หรือจันทร์อับ" เพราะความหมายต่างกันคนละเรื่อง แต่พออนุมานได้ว่าคือพวกที่มีคดีใน ป.ป.ช.
    ก็เยอะครับ!
    บิ๊กป้อมก็มี นาฬิกาเพื่อนไง
    แกนนำเสื้อแดงนี่ก็เยอะ
    ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ นี่ก็ใช่ ศาลตัดสินแล้วเผ่นทั้งคู่
    เยาวภาอีกคน ป.ป.ช.ก็กำลังไต่สวนกันอยู่ 
    ที่จริง "ดร.เหลิม" กับ "ทักษิณ" มีข่าวคราวว่าต่างฝ่ายต่างกุมความลับกันไว้เยอะ   
    เยอะขนาดที่ว่า "ดร.เหลิม" มองข้ามช็อตประกาศตัวเป็นขี้ข้าทักษิณ 
    ก็พอมองภาพออกว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินไปทางไหน หากชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล มี ส.ว.แหกค่ายให้การสนับสนุน
    ที่เห็นเพ้อเจ้อเรื่องประชาธิปไตย ผุดแคมเปญต่อต้านการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ ก็แค่กลยุทธ์เพื่อจะเข้าสู่อำนาจ
    และถ้าดูโครงสร้างของพรรคเพื่อไทยเลยไปถึงพรรคไทยรักษาชาติ ก็ยิ่งเห็นถึงความเป็นเผด็จการของการบริหารจัดการโดยทักษิณ 
    พรรคการเมืองที่เรียกร้องประชาธิปไตย กลับต้องฟังคำสั่งจากเผด็จการเจ้าของพรรค
    สับหลีกพื้นที่เลือกตั้ง 
    เพื่อไทยส่ง ส.ส. ๒๐๐ เขต เอาที่ตัวเองคิดว่าได้แน่ ส่วนไทยรักษาชาติไม่ส่งแข่ง แต่ให้ไปตามเก็บจากเขตเลือกตั้งอื่น
    ในแง่อุดมการณ์พรรคถือว่าอยู่ในขั้น "เลวร้าย"
    พรรคอย่างไทยรักษาชาติไม่ควรเกิดมาด้วยซ้ำ 
    แต่กลับเกิดมาเพื่อฮั้วพื้นที่เลือกตั้งกับเพื่อไทย
    ก็...สรุปบนพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่าง ทักษิณ ดร.เหลิม และเฒ่าเหนาะ ที่คละคลุ้งไปด้วยเสียงด่ากันเองว่าโกง ทรยศต่อแผ่นดิน และอดีตที่หักล้างไม่ได้ 
    เขาบอกว่านี่คือฝ่ายประชาธิปไตย.
                                ผักกาดหอม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"